แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 8 สิงหาคม 2555
บริษัท เทรนด์ ไมโคร อินคอร์ปอเรท (TYO: 4704; TSE: 4704) ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ เปิดเผยรายงานล่าสุดพบว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) กำลังประสบปัญหาจากการโจมตีของอาชญากรไซเบอร์ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และองค์กรหลายแห่งยังเปิดเผยด้วยว่าการนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในที่ทำงาน (bring-your-own-device: BYOD) ถือเป็นภัยคุกคามด้านไอทีที่เป็นอันตรายอย่างมากเช่นกัน เนื่องมาจากอุปกรณ์มือถืออาจเป็นช่องทางในการเปิดเผยข้อมูลอันมีค่าของผู้ใช้และขององค์กรให้กับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตหากขาดความระมัดระวังในการใช้งาน
จากรายงานวิจัยข้อมูลของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (ไอดีซี) ระบุว่าภายในปีนี้ยอดจำหน่ายทั้งหมดของโทรศัพท์มือถือทั่วโลกมีจำนวนเกือบ 1.8 พันล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มียอดจำหน่าย 1.7 พันล้านเครื่อง และคาดว่าภายในสิ้นปี 2559 ยอดจำหน่ายของโทรศัพท์มือถือจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 พันล้านเครื่อง โดยบริษัท ไอดีซี ยังคาดการณ์ด้วยว่าระบบปฏิบัติการ Android จะยังคงเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟนที่มียอดจำหน่ายสูงสุดตลอดระยะเวลาห้าปีของการคาดการณ์และระบบปฏิบัติการนี้จะครองส่วนแบ่งตลาดในปีนี้สูงสุดด้วย
ไมลา ปิลาโอ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด ศูนย์วิจัยเทรนด์แล็บส์ บริษัท เทรนด์ ไมโคร กล่าวว่า “เนื่องจากอุปกรณ์แอนดรอยด์มีการใช้งานแพร่หลายอย่างมาก ดังนั้นจึงตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์อย่างไม่ต้องสงสัย สาเหตุที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กลายเป็นเป้าโจมตีที่ได้รับความนิยมก็เนื่องมาจากโปรแกรมมีลักษณะเปิดกว้างสำหรับทุกฝ่าย สามารถแจกจ่ายได้อย่างอิสระ ซึ่งเราเชื่อว่าการโจมตีระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์จะยังคงเกิดขึ้นตลอดทั้งปีนี้ และบริษัท เทรนด์ ไมโคร ยังตรวจพบจำนวนมัลแวร์มือถือในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า โดยมัลแวร์แอนดรอยด์สองสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง นั่นคือ RuFraud9 และ DroidDreamLight10 ได้ทำให้ผู้ใช้นับล้านรายต้องสูญเสียข้อมูล เวลา และเงินทองไปไม่น้อยเลยทีเดียว”
นอกจากนี้ บริษัท เทรนด์ ไมโคร ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ 10 อันดับมัลแวร์ที่ตรวจพบมากที่สุด 1. โปรแกรมปลอม (Fake App) คิดเป็นสัดส่วนสูงสุด 30% 2. ตัวขโมยข้อมูล (Data Stealer) 21% 3. แอดแวร์ (Adware) 18% 4. ตัวลวงการให้บริการพรีเมียม (Premium Service Abuser) 14% 5.รูทเทอร์/แรท (Rooter/RAT) 13% และ 6. ตัวดาวน์โหลดที่เป็นอันตราย (Malicious Downloader) อยู่ที่ 4%
กรณีของการสูญเสียข้อมูลจากการที่อุปกรณ์ส่วนตัวมีระดับการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์จำนวนมากสามารถเข้าถึงและบันทึกข้อมูลขององค์กรได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ได้รับการควบคุมและดูแลอย่างเต็มที่จากผู้ดูแลระบบไอที จากผลสำรวจการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบมือถือของอินฟอร์เมชั่นวีค 2555 เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า 86% ขององค์กรให้การสนับสนุนหรือมีแผนที่จะนำ BYOD เข้ามาใช้ในองค์กร การสำรวจนี้ยังแสดงให้เห็นด้วยว่ามีองค์กรเพียง 20% เท่านั้นที่มีระบบตรวจจับมัลแวร์บนแพลตฟอร์มของอุปกรณ์ดังกล่าวได้ครอบคลุม
การขาดระบบตรวจหามัลแวร์ดังกล่าวสามารถสร้างปัญหาได้อย่างมากโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งดูเหมือนว่าจะเปิดรับ BYOD อย่างเต็มที่ จากการสัมภาษณ์ที่ดำเนินการโดยบริษัท บีที ซึ่งเป็นธุรกิจด้านโทรคมนาคม พบว่า 90% ของผู้จัดการระบบไอทีในจีน และ 91% ของผู้จัดการระบบไอทีในสิงคโปร์ และ 86% ของผู้จัดการระบบไอทีในอินเดียระบุว่าพวกเขาเห็นด้วยกับการนำ BYOD มาใช้ในขณะนี้หรือมีแนวคิดที่จะเริ่มปรับใช้ในองค์กรในอีกสองปีถัดไป ด้วยเหตุนี้อุปกรณ์มือถือที่มีความปลอดภัยจึงควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับสูงสุดเมื่อมีการปรับใช้ BYOD เนื่องจากกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดของภูมิภาคนี้ในการใช้งานอุปกรณ์มือถือจะเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่สำคัญโดยตรง เช่น ธนาคารออนไลน์หรือการชอปปิ้งออนไลน์ เป็นต้น
แม้ว่าภัยคุกคามมือถือส่วนใหญ่จะมาในรูปของโปรแกรมที่เป็นอันตราย แต่บริษัท เทรนด์ ไมโคร คาดว่า อาชญากรไซเบอร์จะยังคงพุ่งเป้าโจมตีไปที่โปรแกรมทั่วไปเช่นเดียวกับการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่หรือข้อผิดพลาดในการเขียนโปรแกรมของนักพัฒนาต่างๆ ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การขโมยหรือเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ได้ในที่สุด บริษัท เทรนด์ ไมโคร ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่ามีนักพัฒนาโปรแกรมเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ได้ดำเนินการจัดการช่องโหว่ในโปรแกรมของตนและปรับแก้สิ่งที่ผิดพลาดให้สมบูรณ์ก่อนที่จะเผยแพร่โปรแกรม
โดยทั่วไปแล้วภัยคุกคามระบบมือถือจะมาในรูปของโทรจันหรือหนอนอินเทอร์เน็ตที่อาศัยผู้ใช้เป็นตัวกลางในการแพร่กระจาย ขณะที่ภัยคุกคามมือถือบางอย่างจะเกี่ยวข้องกับสปายแวร์ที่สามารถบันทึกหมายเลขโทรออกและการสนทนาได้ ซึ่งถือเป็นการล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งยังสามารถขโมยข้อมูลประจำตัว และทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กรได้อีกด้วย นอกจากนี้ภัยคุกคามมือถือบางอย่างสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบลูทูธได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาการดำเนินการจากผู้ใช้
บริษัท เทรนด์ ไมโคร แนะแนวทางในการป้องกันภัยคุกคามระบบมือถือ อาทิ หมั่นปรับปรุงระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟนและโปรแกรมแก้ไข (แพชต์) ช่องโหว่สำหรับซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ รวมทั้งให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคามล่าสุด การแพร่ระบาดและวิธีการป้องกันอุปกรณ์มือถือของตน ควรเปิดใช้งานการป้องกันไวรัสในสมาร์ทโฟนอยู่เสมอ และนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยสำหรับเครื่องพีซีไปใช้กับอุปกรณ์มือถือของคุณหรือขอความช่วยเหลือจากฝ่ายไอทีในกรณีที่เครื่องใช้งานหลักของคุณทำงานช้าลงหลังจากที่ได้ซิงค์ข้อมูลกับสมาร์ทโฟนของคุณแล้ว หรือเลือกใช้โซลูชั่นป้องกันไวรัสสำหรับอุปกรณ์มือถือที่มีประสิทธิภาพ เช่น เทรนด์ ไมโคร โมบาย ซิเคียวริตี้ (Trend Micro Mobile Security™)
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.trendmicro.co.th วันที่ : 8 สิงหาคม 2555
Maono WM620 PC2 ไมโครโฟนไร้สาย ที่สายคอนเทนต์ต้องมี เพราะใช้งานง่ายมาก
CASETiFY คอลเลกชั่นใหม่ Essentials by CASETiFY น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้
กล้อง SECOM ตัวช่วยครอบครัวยุคใหม่ หมดห่วงผู้สูงวัย แม้อยู่บ้านเพียงลำพัง
จากห้องเรียนสู่โลกกว้าง! คู่มืออัปสกิล Gen MZ ด้วยแกดเจ็ตจาก Samsung
REDMAGIC เปิดตัวพัดลมระบายความร้อน REDMAGIC VC Cooler 5 Pro ดีไซน์สุดเท่ พร้อมรองรับ MagSafe
Lenovo Tab M11 แท็บเล็ตหน้าจอ 11 นิ้ว ใช้กับสไตลัส Lenovo Tab Pen เขียนลื่น
HONOR 90 Smart สมาร์ทโฟน 5G ชิปเซ็ต Dimensity 6020 มี RAM 4G เท่านั้น
มือถือใหม่ 2024 มือถือใหม่ 2567 มือถือราคาประหยัด 2024 ใช้มือถือรุ่นไหนดี
OPPO A3 Pro สมาร์ทโฟนกันน้ำขั้นสุดมาตรฐาน IP69 อยู่ในน้ำได้นานถึง 30 นาที
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท