[เทียบสเปก] Samsung Galaxy S5 vs Sony Xperia Z2 vs LG G Pro 2

Samsung เปิดตัว Galaxy S5 ที่งาน Mobile World Congress 2014 ในบาร์เซโลนา สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของซัมซุงมาพร้อมคุณสมบัติใหม่หลายๆ อย่าง เช่น กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ (heart-rate monitor), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม คู่แข่งของซัมซุงอย่างค่าย LG และ Sony ต่างก็เผยโฉมอุปกรณ์ของตัวเองออกมาแล้ว ได้แก่ LG G Pro 2 และ Sony Xperia Z2 มาดูกันหน่อยว่าเมื่อเทียบสเปกกันแล้วรุ่นไหนจะเป็นฝ่ายเหนือกว่า

ข้อมูลจาก engadget.com

จอแสดงผล

Samsung Galaxy S5 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด FullHD 1080P ซึ่งในแง่ของจอแสดงผลถือว่าซัมซุงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนักเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง Galaxy S4

ส่วนทางด้านคู่แข่งอย่าง Sony Xperia Z2 มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 5.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD 1080P และ LG G Pro 2 มีขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 5.9 นิ้ว ความละเอียด FullHD 1080P และถูกจัดให้อยู่ในอุปกรณ์ประเภทแฟบเล็ต

ดีไซน์การออกแบบ

ในส่วนของดีไซน์ Samsung Galaxy S5 ยังคงใช้โพลีคาร์บอเนตเป็นส่วนประกอบหลัก ที่ด้านหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สามารถสังเกตได้อย่างเด่นชัด ยกเว้นที่ปุ่ม Home ถูกติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายใน ซัมซุงเผยว่าจะมี Galaxy S5 รุ่นที่มีดีไซน์ตัวเครื่องทำด้วยโลหะเปิดตัวออกมาภายหลัง อย่างไรก็ตามฝาหลัง Galaxy S5 เป็นหนังเทียมที่มีลายเพิ่มเติมเข้ามา และที่ด้านล่างของโมดูลกล้องมีตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ

LG G Pro 2 มีตัวเครื่องที่ขนาดใหญ่ที่สุดและมีขอบหน้าจอที่บางที่สุดด้วย (3.3 มิลลิเมตร) ส่วน Sony Xperia Z2 ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในแง่ของดีไซน์ที่ยังคงความสวยงามแบบ Omnibalance เช่นเดียวกับรุ่นก่อนอย่าง Xperia Z1

สิ่งหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ คือ Samsung Galaxy S5 และ Sony Xperia Z2 มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น ในขณะที่ LG G Pro 2 ไม่รองรับ

 

หน่วยประมวลผลและหน่วยความจำ

Samsung Galaxy S5 มี CPU Snapdragon 801 quad-core 2.5GHz และ RAM 2GB ซึ่งผิดความคาดหมายของหลายคนที่หวังว่าซัมซุงจะใส่ CPU Exynos รุ่นใหม่และ RAM 3GB มาให้ใช้งาน 

Sony Xperia Z2 มี CPU Snapdragon 801 quad-core 2.3GHz และ RAM 3GB ส่วน LG G Pro 2 มี CPU Snapdragon 800 quad-core 2.26GHz และ RAM 3GB

พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง Samsung Galaxy S5 และ LG G Pro 2 มีมาให้ 16/32GB ขณะที่ Sony Xperia Z2 มีเฉพาะรุ่นหน่วยความจำ 16GB เท่านั้น

พื้นที่เก็บข้อมูลภายนอก (microSD card) ทั้งสามรุ่นมีช่องใส่ microSD card ซึ่ง Galaxy S5 รองรับ ความจุสูงสุด 128GB ส่วน Xperia Z2 รองรับความจุสูงสุด 64GB ในขณะที่ G Pro 2 รองรับความจุสูงสุด 32GB (อย่างไรก็ตามใน Android 4.4 KitKat สามารถมองเห็นได้สูงสุด 64GB เท่านั้น)

กล้องถ่ายรูป

Samsung Galaxy S5 มีกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับส่วนติดต่อผู้ใช้และเมนูต่างๆ ที่ปรับปรุงใหม่ โดยซัมซุงอ้างว่ามีความเร็วในการโฟกัสอัตโนมัติสูงสุด 0.3 วินาทีต่อภาพ และมีโหมดถ่ายภาพไดนามิกสูง HDR ที่คมชัด ซัมซุงอ้างว่ากล้องหลังของ Galaxy S5 จะมีฟีเจอร์ phase-detect AF และ contrast detect AF ซึ่งจะช่วยให้การโฟกัสภาพมีความแม่นยำมากขึ้นโดยเทคโนโลยีเหล่านี้มีใช้อยู่ในกล้องโปร ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 2.0 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ซัมซุงยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Selective Focus ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกโฟกัสจุดใดๆ ภายในภาพหลังจากถ่ายไปแล้ว และฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือความสามารถในการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K video

Sony Xperia Z2 มีกล้องความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4K โดยมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Exmor RS for mobile CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว และ Sony G Lens พร้อมเทคโนโลยี ประมวลผลภาพ BIONZ กล้องหน้าความละเอียด 2.2 ล้านพิกเซล โดยในส่วนของการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K (3840x2160 พิกเซล 30 เฟรม/วินาที) จะช่วยให้รายละเอียดที่มากกว่าแบบ FullHD 1080P ถึงสี่เท่า อีกทั้งยังมีไมโครโฟน STM10 Stereo สำหรับการบันทึกเสียงสเตอริโอ

LG G Pro 2 มีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งน้อยที่สุดในบรรดา 3 รุ่น โดยมาพร้อมระบบกันสั่น OIS และกล้องหน้าความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ซึ่ง G Pro 2 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K เช่นเดียวกัน และยังมีโหมดถ่ายภาพสโลว์โมชั่นความละเอียดระดับ HD ที่ความเร็ว 120 เฟรม/วินาที

แบตเตอรี่และระบบปฏิบัติการ

ซัมซุงได้นำเสนอแบตเตอรี่ความจุ 2800mAh ใส่มาใน Galaxy S5 ซึ่งจะช่วยให้สนทนาได้ต่อเนื่อง 21 ชั่วโมงพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า "Ultra Power Saving mode" ซึ่งซัมซุงอ้างว่าถ้าใช้งานโหมดนี้ในขณะที่เหลือแบตเตอรี่เพียง 10% จะใช้งานได้ต่อไปอีก 24 ชั่วโมง

LG G Pro 2 และ Sony Xperia Z2 มีแบตเตอรี่ความจุ 3200mAh ซึ่งมากกว่า Galaxy S5 อย่างชัดเจน โดยทางโซนี่เผยว่าจะใช้งานสนทนาได้ต่อเนื่องถึง 830 ชั่วโมง ในส่วนของระบบปฏิบัติการทั้งสามรุ่น รันแพลตฟอร์มแอนดรอยด์เวอร์ชั่นเดียวกัน (Android 4.4 KitKat)

การเชื่อมต่อ

ทั้งสามรุ่นรองรับ WiFi, 3G และ LTE เช่นกัน โดย Samsung Galaxy S5  ได้เพิ่มฟีเจอร์ "Download Booster" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi และ LTE ไปพร้อมๆ กันเพื่อเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดสำหรับไฟล์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่

ฟีเจอร์อื่นๆ

Samsung Galaxy S5 มีฟีเจอร์ใหม่ที่มาสร้างความโดดเด่นให้ตัวเอง เช่น เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่สามารถจดจำลายนิ้วมือได้ 3 รูปแบบ โดยเซ็นเซอร์ดังกล่าวถูกติดตั้งอยู่ในปุ่ม Home เพื่อใช้สำหรับการปลดล็อคโทรศัพท์และใช้ยืนยันขั้นตอนการชำระเงินผ่าน PayPal ซัมซุงยังได้นำเสนอตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ติดอยู่ด้านล่างของโมดูลกล้อง โดยมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น S Health 3.0 เพื่อคนที่ชื่้นชอบการออกกำลังกายและรักสุขภาพ

ขณะที่ Sony Xperia Z2 มีการเพิ่มในส่วนของฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนแบบดิจิตอล (digital noise-cancelling) โดยโซนี่เผยว่าจะช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างออกไปได้ถึง 98% เมื่อใช้งานร่วมกับหูฟังที่แถมมาในกล่อง

LG G Pro 2 มีฟีเจอร์ Knock Code ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเคาะหน้าจอตั้งแต่ 2-8 ครั้งในรูปแบบที่ต่างกันถึง 86,367 แบบ เพื่อปลดล็อคเครื่อง รวมทั้งยังมีแฟลชที่กล้องหน้าเพื่อการถ่ายภาพแบบเซลฟี่ และยังมีระบบลำโพง 1 วัตต์เป็นตัวแรกของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนด้วย

ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย

ซัมซุงและโซนี่จะวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปตัวล่าสุดของพวกเขาทั่วโลกตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าจะอยู่ราวๆ 21,xxx-23,xxx บาท ส่วน LG G Pro 2 เพิ่งเผยโฉมครั้งแรกในเกาหลีใต้เท่านั้นและยังไม่มีรายละเอียดการเปิดตัวในประเทศอื่นๆ รวมถึงไม่ทราบความพร้อมในการวางจำหน่าย

สรุป

สมาร์ทโฟนทั้งสามรุ่นมีรายละเอียดที่คล้ายกันอยู่หลายส่วน โดยสำหรับ Samsung Galaxy S5 มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือตัววัดอัตราการเต้นหัวใจที่ด้านหลัง นอกเหนือจากสเปกที่นำมาเปรียบเทียบกันแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ปลีกย่อยที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมาก การตัดสินใจเลือกใช้งานอุปกรณ์ทั้งสามรุ่นนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนของแต่ละบุคคล ชอบหรือสนใจรุ่นไหนก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลสเปกและฟังก์ชั่นการทำงานก่อนตัดสินใจซื้อ...