แก็ดเจ็ต (Gadget)  |   วันที่ : 28 มีนาคม 2557

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Arista Networks ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์โมดูลใหม่รุ่นความเร็ว 100GB ที่มาพร้อม Arista EOS ที่ให้ความสามารถในการขยายระบบได้สูง รองรับผู้ใช้ได้หลายช่องทางพร้อมๆ กัน โดยใช้เทคโนโลยีเครือข่ายเสมือน (Virtualization) ที่เป็นระบบเปิด เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนการใช้งานโปรแกรมแบบซ้อนได้ (Programmable Overlays) ช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการทำงานที่มีเวิร์กโหลดสูง รวมทั้งการทำงานแบบ VM Mobility ได้อย่างราบรื่น

ทั้งนี้ความสามารถด้านการเตรียมความพร้อมในการทำงานล่วงหน้าได้แบบอัตโนมัติที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น รองรับการขยายระบบขนาดใหญ่ และปริมาณความต้องการพอร์ตเชื่อมต่อที่มาก ซึ่งเป็นความต้องการของระบบเครือข่ายคลาวด์ (Cloud Network) ในการใช้งานให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น สามารถขยายศักยภาพระบบงานเพื่อรองรับเครือข่ายคลาวด์ (Cloud Network) ที่ต้องใช้ทรัพยากรในการทำงานมาก นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์รุ่น 7300X ที่มาพร้อมพอร์ต 10GBASE-T ยังทำให้ลูกค้าสามารถปรับการใช้งานระบบโดยใช้ระบบเครือข่ายทั้งแบบระดับเดียว (single tier) และสองระดับ (two tier) เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าเรื่องค่าใช้จ่ายโดยรวมมากขึ้น

Line gard แบบใหม่นับเป็นการขยายฐานสายผลิตภัณฑ์รุ่นความเร็ว 100GB ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการเชื่อมต่อเครือข่ายได้คุ้มค่าใช้จ่าย โดย Line card Arista 7500E รุ่นความเร็ว 100GB สามารถทำงานสนับสนุนมาตรฐาน IEEE 100GbE ได้อย่างเต็มรูปแบบบนเครือข่ายไฟเบอร์ทั้งขนิดโหมดเดียว และชนิดหลายโหมด และยังขยายทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สวิทช์ 10/40/100G เพื่อเป็นการปกป้องการลงทุนสำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ Arista 7500E 100GbE บนเครือข่ายแบบสไปล์น (Spine Layer) ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานระบบเครือข่ายเสมือน ที่ใช้เทคโนโลยี VXLAN ที่เป็นแพลตฟอร์มแบบโมดูล เพื่อปรับการใช้งานเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้หลายคน และใช้แบนด์วิธสูงได้

นอกจากนี้ ผู้ที่ใช้ฟีเจอร์ Arista DANZ บนระบบปฏิบัติการ Arista EOS ยังสามารถมองเห็นทราฟฟิกบนเครือข่ายความเร็ว 100GB ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ Tap Aggregation บนแพลตฟอร์มของ Arista 7500E ทั้งนี้โซลูชันด้านการวิเคราะห์ข้อมูลของอริสต้า (Data Analysis DANZ) ยังได้ขยายเพื่อรองรับการใช้อุปกรณ์แบบแชสซีส์ และช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อการทำงานบนเครือข่ายแบบ Spline หรือ Spine และยังรวมการเชื่อมต่อสัญญาณ 10 กิกะบิตไปยังอัพลิงค์ 100GB พื่อการตรวจสอบ บริหารจัดการ ผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ

“เราเลือกใช้แพลตฟอร์ม Arista 7500E สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา เพื่อให้บริการอีเธอร์เน็ตความเร็ว 100 กิกะบิต แก่ลูกค้าได้ตามจริง” ไอแฮบ ทาราซี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Equinix กล่าว “และด้วยเหตุผลของความเป็นสถาปัตยกรรมระบบเปิด ที่มีการเชื่อมต่อกับคลาวด์ รวมถึง VXLAN และความสามารถในการเปลี่ยนแปลงการใช้งานโปรแกรมของ Arista EOS พร้อมโหมดความเร็วแบบหลายระดับ จึงทำให้เราสามารถจัดสรรทรัพยากรบนดาต้าเซ็นเตอร์ได้ที่ความเร็ว 10/40 หรือ 100 กิกะบิต ได้อย่างคุ้มค่าใช้จ่ายและให้ความน่าเชื่อถือ

เครือข่าย Spline ให้ความสามารถในการปรับเปลี่ยนตามการทำงานของซอฟต์แวร์

Arista 7300 มาพร้อมพอร์ตเครือข่ายแบบ 10GBASE-T ที่ใช้พลังงานต่อพอร์ตต่ำกว่าพอร์ตคลาสสิครุ่น 10/100/1000 จึงช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนระบบเดิมที่เป็นแพลตฟอร์มแบบโมดูลไปสู่ระบบใหม่โดยแทบไม่กระทบกับโครงสร้างระบบเคเบิลของเดิมที่มีอยู่

“เมื่อเราตัดสินใจว่าจะย้ายดาต้าเซ็นเตอร์ เราได้มีการประเมินอุปกรณ์กระจายสัญญาณหลัก (Core IP Switches) โดยดูเรื่องของประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน และคุณค่าด้านอื่นๆ” โกแลน เบน-โอนิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และรองประธานอาวุโสฝ่ายสถาปัตยกรรมเครือข่ายของ IDT Corporation กล่าว “สวิทช์ Arista 7308 และระบบปฏิบัติการ Arista EOS สามารถตอบโจทย์ดังกล่าว โดยให้ความสามารถครอบคลุมทุกแง่มุมการทำงานบนเครือข่าย อริสต้าเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมและเราวางใจในประสิทธิภาพและความสามารถที่ได้รับ

ลูกค้าที่กำลังสร้างเครือข่ายแบบ สไปล์น (Spline Networks) หรือที่กำลังยุบรวมเครือข่ายสไปน์แบบสองลำดับชั้น (Two-tier leaf-spine network) ปัจจุบันจะได้รับข้อได้เปรียบอย่างเต็มที่จากผลิตภัณฑ์ line card ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤจิกายนปี 2556 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การสร้างเครือข่ายแบบสไปล์น ช่วยให้ลูกค้าสามารถยุบรวมการทำงานในหลายระดับชั้นให้เหลือเพียงเครือข่ายแบบชั้นเดียว โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดความล่าช้าจากการตอบสนองของแอพพลิเคชันที่อยู่บนคลาวด์ได้ ซึ่งการออกแบบเครือข่ายเหล่านี้ ใช้พื้นฐานของ Arista EOS ที่ให้ความเป็นระบบเปิด สามารถขยายการทำงาน และให้ความสามารถในการปรับเปลี่ยนตามการทำงานของซอฟต์แวร์ได้ จึงช่วยให้สามารถบริหารจัดการการเชื่อมต่อคลาวด์เข้ากับระบบเสมือนได้ในระดับของซอฟต์แวร์ ให้ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และให้ความสามารถในการมองเห็นแอพพลิเคชันที่ใช้งานได้

การใช้ระบบปฏิบัติการที่ฉลาดอย่าง Arista EOS Smart System Upgrade (SSU)

ปัจจุบัน Arista SSU สามารถตอบโจทย์เรื่องการบูรณาการระบบโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานที่ซับซ้อนและท้าทายมากที่สุด ที่ผู้ดูแลดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหลายต้องประสบ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถบูรณาการองค์ประกอบใดก็ตามในระบบโครงสร้างพื้นฐานได้ โดยที่ไม่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อทราฟฟิกของแอพพลิเคชัน

“สำหรับ Tri-State Generation and Transmission Association, Inc แล้ว เครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการดูแลการบริการแก่ลูกค้า” สตีฟ เวสลิง ผู้จัดการเครือข่าย และฝ่ายปฏิบัติการเครือข่าย กล่าว “แพลตฟอร์ม Arista 7300 และระบบปฏิบัติการ Arista EOS ทำให้เราสามารถกำหนดการทำงานของเครือข่ายเราได้ในแบบอัตโนมัติ ทำให้มั่นใจเรื่องความพร้อมของเครือข่ายและการทำงานที่ต่อเนื่อง ในขณะที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน”

Arista 7300X ช่วยประหยัดต้นทุนกว่าการใช้อุปกรณ์ Catalyst 6500 แบบเดิม และลดข้อจำกัดในการออกแบบเพื่อรองรับการทำงานแบบสองลำดับชั้นในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ อริสต้า ยังมีโปรแกรมแลกซื้อ ที่ช่วยให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของความสามารถเครือข่ายที่สามารถบริหารจัดการได้ในระดับของซอฟต์แวร์ (SDN) ของผลิตภัณฑ์ 7300X โดยย้ายจากระบบโมดูลแบบดั้งเดิมได้อย่างราบรื่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ apac-sales@aristanetworks.com

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่