ประวัติศาสตร์ของ Android กินเวลามากว่า 6 ปี นับจาก HTC เปิดตัวสมาร์ทโฟน T-Mobile G1 (ค.ศ. 2008) จนมาถึงปัจจุบัน (ค.ศ. 2014) ซึ่งระหว่างนั้นทาง Google ผู้พัฒนา Android ได้ปล่อยอัพเดทแพลตฟอร์ม Android ออกมาถึง 10 เวอร์ชั่นที่สำคัญ โดย Android แต่ละเวอร์ชั่นที่ถูกปล่อยออกมาจะมีทั้งฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในเวอร์ชั่นก่อน รวมถึงการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังการทำงาน
เรามาดูกันสักหน่อยว่าตั้งแต่ Android 1.5 Cupcake จนถึง Android 5.0 lollipop นั้น ในแต่ละเวอร์ชั่น มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดบ้าง
1. Android 1.5 Cupcake
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากอันหนึ่งของแอนดรอยด์ 1.5 Cupcake คือ "การรองรับแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดบนหน้าจอสัมผัส" ซึ่งในปีค.ศ. 2008/2009 สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ยังพึ่งพาแป้นพิมพ์ QWERTY แปบปุ่มกดเพื่อป้อนข้อมูลอยู่
2. Android 1.6 Donut
เป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่นแรกที่รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์ที่มีความละเอียดหน้าจอต่างกัน (โดยไม่ขึ้นกับความหนาแน่นพิกเซล) ซึ่งฟีเจอร์นี้ในเวลาต่อมาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยผลักดันให้อุปกรณ์แอนดรอยด์มีความหลากหลายในเรื่องของขนาดอุปกรณ์และหน้าจอ
3. Android 2.0 Eclair
ปรับปรุงซอฟต์แวร์กล้องถ่ายรูปให้รองรับการใช้งานแฟลช LED รองรับการปรับแต่งเอฟเฟกต์สี โหมดฉาก โหมดโฟกัสกล้อง และสมดุลแสงขาว (ในเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ยังไม่รองรับ)
4. Android 2.2 Froyo
สองสิ่งหลักๆ ของการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อม Android 2.2 Froyo คือความเร็วและความสามารถในการรองรับ Wi-Fi hotspot (กระจายสัญญาณ internet ให้อุปกรณ์อื่น) โดยความเร็วของระบบที่เปลี่ยนแปลงใน Android 2.2 Froyo เกิดจากการเปลี่ยนคอมไพเลอร์หรือตัวแปลชุดคำสั่งมาใช้ Dalvik (Just-In-Time compiler) ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานบางอย่างเร็วขึ้นประมาณ 2-5 เท่า
5. Android 2.3 Gingerbread
เป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะเหลือผู้ใช้งานแอนดรอยด์เวอร์ชั่นนี้เพียง 11% ของอุปกรณ์แอนดรอยด์ทั้งหมดก็ตามที โดยเวอร์ชั่นนี้จะเน้นการปรับปรุงรายละเอียดการทำงานต่างๆ ของระบบ และมีการรองรับเซ็นเซอร์เพิ่มมากขึ้น ทั้ง barometer (ตรวจวัดความดันบรรยากาศ) และ gyroscopes (ตรวจวัดทิศทางการเคลื่อนไหวและการเอียง) โดยเซ็นเซอร์อย่างหลังถูกนำมาใช้งานอย่างมากโดยเฉพาะในเกมส์บางเกมส์
6. Android 3.0 Honeycomb
แพลตฟอร์มแอนดรอยด์ที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์แท็บเล็ต (tablets) โดยเฉพาะ
7. Android 4.0 Ice Cream Sandwich
ปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้ให้มีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชั่น 3.0 Honeycomb โดยองค์ประกอบหลายๆ อย่างในส่วนติดต่อเวอร์ชั่นนี้ยังคงมีใช้งานอยู่ในแอนดรอยด์เวอร์ชั่นปัจจุบัน
8. Android 4.1 Jelly Bean
เวอร์ชั่นแรกที่มี Google Now ระบบค้นหาและบัตรข้อมูลอัจฉริยะ ถูกติดตั้งมาให้ใช้งาน สามารถใช้ Google Now แสดงข้อมูลการเดินทางในชีวิตประจำวัน ข้อมูลสภาพอากาศ หุ้น ข่าวสารที่น่าสนใจ ฯลฯ ในรูปแบบบัตรข้อมูล
9. Android 4.4 KitKat
ปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้ให้ทันสมัยขึ้นและพัฒนาแพลตฟอร์ม Android ให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลายและเหมาะสมกับงบประมาณที่มี โดย Google อ้างว่าอุปกรณ์ที่ใช้งานแอนดรอยด์ 4.4 KitKat แม้จะมี RAM เพียง 512MB ก็ยังคงทำงานได้ดี
10. Android 5.0 Lollipop
เป็น Android เวอร์ชั่นที่ดึงดูดความน่าสนใจมากที่สุด ในเรื่องของ Material Design หรือหลักปรัชญาการออกแบบที่เลียนแบบมาจากการออกแบบวัสดุในโลกความเป็นจริง และสร้างขึ้นมาทีเดียวสามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์โดยเท่าเทียมกัน สีสันและการเคลื่อนไหวต่างๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อบ่งบอกความหมายของการทำงานแบบที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้โดยง่าย
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.phonearena.com วันที่ : 27 ตุลาคม 2557
realme P3 Pro 5G หน้าจอโค้ง 3D ขนาด 6.83 นิ้ว 1.5K ชิปฯ Snapdragon 7s Gen 3 แบตฯ 6000mAh
Nothing Phone (3a) เตรียมสลับขั้ว เปลี่ยนใช้ชิปเซ็ตจาก Qualcomm
หลุดดีไซน์ iPhone 17 Air มาแทนที่รุ่น Plus! ดีไซน์ใหม่ บางเฉียบ พร้อมกล้องเดี่ยว คาดเปิดตัวปี 2025
HUAWEI Mate XT ULTIMATE DESIGN สมาร์ทโฟนหน้าจอสามพับรุ่นแรกของโลก
Samsung Galaxy A06 5G หน้าจอ 90Hz กล้องหลัง 3 เลนส์ ชิปเซ็ต Dimensity 6300 อัปเดต OS นาน 4 ปี
Nothing Phone (3a) เตรียมสลับขั้ว เปลี่ยนใช้ชิปเซ็ตจาก Qualcomm21 ก.พ. 68 15:00
Voltme Revo Series หัวชาร์จของดี สำหรับชีวิตติดชาร์จ21 ก.พ. 68 10:21