ถ้ามีงบประมาณ 10,000 - 20,000 บาท ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นไหนได้บ้าง Siamphone.com รวมข้อมูลไว้ให้แล้ว!

ผ่านพ้นไปครึ่งปีต้องบอกว่ามีสมาร์ทโฟนเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราหลากหลายรุ่นเลยทีเดียว บ้างก็ลดราคาลงอย่างน่าใจหาย อีกทั้งยังมีของแถมมายั่วยวนอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากใครกำลังอยากซื้อแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดีในบทความนี้จะแนะนำให้ทราบช่วงงบประมาณ 10,000 - 20,000 บาท ส่วนรุ่นราคาตํ่ากว่าหนึ่งหมื่นบาทสามารถอ่านได้จากบทความด้านล่างเช่นเดียวกับเหล่าสาวก iPhone เราก็รวมข้อมูลไว้ให้หมดแล้ว

• [เล่าสู่กันฟัง] มีงบประมาณ 4,000 - 10,000 บาท ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ใดได้บ้าง มาอัปเดตให้แล้ว
• ส่องโปรโมชั่น iPhone 5s/iPhone 6/iPhone 6s/ iPhone 6s Plus/iPhone 7/iPhone 7 Plus ซื้อที่ไหนคุ้มสุด รวมไว้แล้ว!

หมายเหตุ : [คัมภีร์มือถือ] รวมทุกเรื่องราวสมาร์ทโฟน และเกร็ดความรู้ต่างๆ 

หมายเหตุ : บางช่วงราคาไม่มีสมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายตรงกับช่วงราคาดังกล่าว

 

ราคา 10,000 - 11,000 บาท

1. nubia M2 : ชูจุดเด่นกล้องหลังคู่เลนส์ขาวดำและเลนส์สีความละเอียด 13 ล้านพิกเซลมาพร้อมสเปกเร็วแรงมีสแกนลายนิ้วมือ บอดี้โลหะแบบไร้รอยต่อดีไซน์ตามเอกลักษณ์ของแบรนด์กับเฉดสีดำทองขึ้นเงาสวยงาม กับระบบเสียง Dolby Surround 7.1 ช่วยเพิ่มความบันเทิงมากขึ้น โดยหน้าจอมีขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด FullHD ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 625, RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 200GB แบตเตอรี่ 3,630mAh รองรับการชาร์จเร็ว

ส่วนไฮไลท์การใช้งานเพิ่มเติมคือการใช้งานสองบัญชีในหนึ่งแอปพลิเคชั่นเพื่อแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน หรือแบ่งหน้าจอเพื่อเพลินกับการทำอะไรได้หลายอย่างเช่นเล่น YouTube พร้อมแชทไปด้วย นอกจากนี้การแคปหน้าจอทำได้มากกว่าด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ

วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท 

 

2. OPPO A77 : กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีโหมดแต่งผิว Beautify 4.0 เพื่อให้การถ่ายภาพแชร์ลงโซเชียลแบบไม่ต้องแต่งเติม มีลูกเล่นเอฟเฟ็กต์ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ รวมถึงใช้ฝ่ามือ Palm Shutter ช่วยในการถ่ายภาพแทนกดปุ่มชัตเตอร์ ส่วนปุ่มโฮมมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพิ่มความเป็นส่วนตัว ซึ่งถาดใส่ซิมการ์ดใส่ได้สองซิมแบบไม่ต้องเลือก เพราะว่าเป็นถาด Triple-Slot นอกจากนี้ยังมีโหมดถนอมสายตาและแบ่งหน้าจอ

หน้าจอ IPS-TFT ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Mediatek MT6750T RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 128GB และแบตเตอรี่ความจุถึง 3,200 mAh

วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท อ่านรีวิว : Siamphone.com

 

3. Samsung Galaxy J7 Pro : หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD มีฟังก์ชั่น Always ON Display ช่วยแจ้งเตือนบนหน้าจอจึงทำให้ไม่ต้องปลอดล็อคเครื่องเพื่อตรวจเช็ค ไม่สิ้นเปลืองแบตฯ โดยจะรองรับการใช้จ่าย Samsung PAY แอปพลิเคชั่นสามารถใช้ได้สองบัญชีไม่ต้องผ่าน Secure Folder ส่วนปุ่มโฮมมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ขณะที่ถาดใส่ซิมการ์ดทั้งหมดสองถาดใส่ซิมการ์ดประเภทนาโน + MicroSD Card และยังมีระบบ NFC ไว้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิง กล้องความละเอียด 13MP เท่ากัน มีรูรับแสงกว้าง f/1.7 และ f/1.9 ตามลำดับหลังกับหน้า 

ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Exynos 7870 RAM 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 32GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 256GB และแบตเตอรี่ความจุถึง 3,600 mAh

วางจำหน่ายในราคา 10,900 บาท 

4. Vivo V5 Plus : รุ่นพี่สุดในซีรีย์พร้อมความแตกต่างด้านกล้องหน้าแบบ Dual มีความละเอียด 20MP + 8MP จึงสามารถถ่ายภาพเซลฟี่แบบ Bokeh ส่วนเซ็นเซอร์ จุดขนาดพิกเซล และก็รูรับแสง (Sony IMX376, 1/2.78", f/2.0) เลือกจุดโฟกัสได้ตามต้องการทำให้การถ่ายภาพมีสนุกขึ้น ขณะที่กล้องหลังเพิ่มความละเอียดเป็น 16MP แบตเตอรี่เทคโนโลยี Dual Chip Charging ชาร์จได้ไวและปลอดภัย อีกทั้งยังตอบโจทย์ความบันเทิงยิ่งขึ้นด้วยชิปเสียงแยก AK376 ให้พลังเสียง HiFi

หน้าจอมีขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด FullHD ครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5 แบบ 2.5D มีโหมดถนอมสายตากับแบ่งหน้าจอ ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 625, RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB และแบตเตอรี่ความจุถึง 3,160 mAh

วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท อ่านรีวิว : Siamphone.com

ราคา 13,001 - 14,000 บาท

1. Huawei P9 : แม้ไม่ใช่รุ่นใหม่แต่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากเล่นกล้อง Leica แต่ไม่มีงบประมาณถึงรุ่นพี่ P10 ซึ่งหัวเว่ยเพิ่งประกาศลดราคาเหลือ 13,900 บาท อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากรีวิว : Siamphone.com

 

2. OPPO R9s : ปรับราคาลง 1,000 บาท และมีเฉดสีแดงสดให้เลือก หากใครชื่นชอบเซลฟี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย สมาร์ทโฟนรุ่นนี้อาจตอบโจทย์โดยหน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว FullHD มีโหมดถนอมสายและแบ่งหน้าจอกับครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 ดีไซน์เสาสัญญาณ 6 เส้นรับสัญญาณได้ดีกว่าเดิม มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือปลดล็อคได้แม้นิ้วมือเปียก ซึ่งประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 653, RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุดถึง 256GB และแบตเตอรี่ความจุ 3,010mAh รองรับการชาร์จเร็ว

วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท อ่านรีวิว : Siamphone.com

3. Sony Xperia XA1 Ultra : จุดเด่นกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) เพื่อให้ลดความเบลอในการถ่ายภาพ ส่วนดีไซน์บอดี้โลหะครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D ขณะที่หน้าจอมีขอบที่บางทำให้รับชมคอนเทนต์ไม่เป็นอุปสรรคในการบดบังสายตา ผสมผสานเทคโนโลยีเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ 

สรุปสเปกสมาร์ทโฟน Sony Xperia XA1 Ultra

• ขนาดตัวเครื่อง : 165 x 79 x 8.1 มม.
• นํ้าหนัก : 188 กรัม
• ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 (Nougat)
• หน้าจอ : ขนาดกว้าง 6 นิ้ว (1920 x 1080 พิกเซล) ครอบทับกระจกขอบโค้ง 2.5D 
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio P20 CPU Octa Core 2.3GHz
• GPU : Mali T880 MP2
• Ram : 4GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 64GB
• รองรับ MicroSD Card : สูงสุด 256GB
• ระบบเชื่อมต่อ : 3G, 4G LTE, GPS, GLONASS, Google Cast, NFC, WiFi Miracast, Bluetooth 4.2
• กล้องหลัง : ความละเอียด 23MP ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.3" ระบบจับโฟกัสแบบ Hybrid ปรับ ISO สูงสุด 6400 มุมมองการถ่ายภาพแบบ Wide-Angle มีรูรับแสง f/2.0 สามารถซูมภาพได้ 5 เท่า (Clear image) มีเทคโนโลยี SteadyShot
• กล้องหน้า : ความละเอียด 16MP ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.6" ปรับ ISO สูงสุด 6400 มุมมองการถ่ายภาพแบบ Wide-Angle มีรูรับแสง f/2.0 จับโฟกัสออโต้และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)
• พอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ : 2700mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Pump Express+ 2.0

วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท

ราคา 14,001 - 15,000 บาท

HTC ถือได้ว่าทำให้แฟนๆ หายคิดถึงเลยทีเดียวด้วยการเปิดตัวหลายรุ่นสำหรับการกลับมาทำตลาดในประเทศไทยครั้งนี้ ซึ่งรุ่นใหญ่สุดต้องยกให้กับ HTC U11 ส่วนรุ่นเล็กสุด HTC U Play นั้นมีสเปกและฟีเจอร์น่าสนใจไม่แพ้กัน อีกทั้งดีไซน์ก็ยังเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนสมัยนิยม ณ เวลานี้ มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD ครอบทับกระจกขอบโค้ง 2.5D ขณะที่กล้องหน้าหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยด้านหน้าจุดพิกเซลขนาด 1µm รูรับแสง f/2.0 มุมมองถ่าย Wide-Angle กว้าง 80 องศา มีโหมดปรับแต่งผิว ส่วนกล้องหลังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว ระบบจับโฟกัสแบบ PDAF รูรับแสง f/2.0 มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 74.5 องศา ไฟแฟลชคู่ รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด FullHD

ประมวลผลชิปเซ็ต Mediatek Helio P10, RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุดถึง 2TB และแบตเตอรี่ความจุ 2,500mAh รองรับการชาร์จเร็ว ระบบการเชื่อมต่อที่ครบ อาทิ NFC, DLNA, Miracast, Bluetooth 4.2, WiFi a/b/g/n/ac (2.4GHz+5GHz) กับพอร์ต USB Type-C 

วางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท

 

ราคา 15,001 - 16,000 บาท

เปิดตัวต่างประเทศไปไม่นาน Moto Z2 Play ทางโมโตประเทศก็นำเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราแล้ว โดยจุดเด่นยังเหมือนเดิมคือตัวเครื่องที่บาง ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ และเหล่า Moto Mod ที่สร้างสีสรรค์ให้กับการใช้งานแตกต่างกันไป รวมถึงกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีเทคโนโลยีจับโฟกัสแบบ Dual Pixel Autofocus กับรูรับแสง f/1.7 จึงทำให้การถ่ายภาพมีความคมชัด สว่างขึ้นแม้ถ่ายในพื้นที่แสงน้อง รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K อีกทั้งยังมีไมโครโฟนสามตัวช่วยจับเสียงและลดเสียงลดกวน มีการเชื่อมต่อไร้สาย NFC เพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น

หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด FullHD ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 626, RAM 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 2TB และแบตเตอรี่ความจุ 3,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว

วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท อ่านรีวิว : Siamphone.com

 

ราคา 16,001 - 17,000 บาท

1. Huawei P9 Plus : รุ่นพี่ที่แตกต่างกันในด้านขนาดหน้าจอ สเปกบางส่วน และฟังก์ชั่นการใช้งาน โดย P9 ปรับราคาลง สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวก็ถูกปรับลงด้วยเช่นกันเหลือ 16,900 บาท

2. OPPO R9s Plus : ตัวเครื่องก็มีความสวยงามด้วยบอดี้โลหะแบบไร้รอยต่อ พร้อมสายสัญญาณแบบ Ultra-fine ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพจับสัญญาณ Wi-Fi & 4G ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือปรับปรุงให้มีความรวดเร็วแม่นยำยิ่งขึ้นโดยกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซอฟต์แวร์แต่งผิว Beautify 4.0 ซึ่งกล้องหลังใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX398 ขนาดเซ็นเซอร์ 1.28 นิ้ว มีรูรับแสงกว้างถึง f/1.7 ทำให้รับแสงและลด Noise ได้มากขึ้น อีกทั้งยังจับภาพแม่นยำคมชัดด้วยเทคโนโลยี Dual PDAF มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS+ รองรับบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆ น่าสนใจ โหมดถนอมสาย แบ่งหน้าจอ แอปฯ บริหารจัดการเครื่อง

สำหรับหน้าจอมีขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด FullHD ครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 653, RAM 6GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุดถึง 256GB และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว

วางจำหน่ายในราคา 16,990 บาท อ่านรีวิว : Siamphone.com

 

3. Samsung Galaxy C9 Pro : สำหรับตัวเครื่องออกแบบมีความสวยงามเป็นหนึ่งเดียวกลมกลืนกันระหว่างตัวเครื่องและเส้นสายสัญญาณทำให้มองดูภาพรวมแล้วมีสบายตา มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม โดยช่องใส่ซิมการ์ด (NanoSIM) และช่อง MicroSD Card แยกออกจากกันจึงทำให้ไม่ต้องเลือกใช้งาน อีกทั้งยังมีระบบเล่นเกม Game Launcher เพิ่มความสนุกมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีลำโพงคู่ให้เสียงระดับ Ultra High Quality Audio (UHQA) และกล้องหน้าหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 กับระบบการเชื่อมต่อที่ครบครัน อาทิ NFC, Bluetooth 4.2, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4+5GHz, USB Type-C, Wi-Fi Direct, GPS, Glonass, กับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

รายละเอียดสเปกสมาร์ทโฟนรุ่น Samsung Galaxy C9 Pro มีดังต่อไปนี้

• หน้าจอแสดงผล : Super AMOLED ขนาดกว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
• CPU : Snapdragon 653 CPU Octa-core 2.0GHz
• GPU : Aderno 510
• RAM : 6 GB
• ROM : 64 GB 
• MicroSD Card : สูงสุด 256GB
• กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด : 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบจับโฟกัสด้วย PDAF และมีไฟแฟลช รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด FullHD
• กล้องหน้าความละเอียด : 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 และซอฟต์แวร์ปรับหน้าสวย รองรับการบันทึกวิดีโอ FullHD
• ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์ 6.0 Marshmallow 
• รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด (Nano SIM)
• รองรับการเชื่อมต่อ : 3G, 4G, 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 GHz + 5 GHz, Wi-Fi Direct, GPS, A-GPS, Glonass, Bluetooth 4.2 , USB Type - C, USB OTG, NFC
• แบตเตอรี่ขนาดความจุ : 4000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว

วางจำหน่ายในราคา 16,900 บาท อ่านรีวิว : Siamphone.com

 

ราคา 17,001 - 18,000 บาท

ปรับราคาลดมาเยอะ ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจ Sony Xperia XZs จุดเด่นสามารถบันทึกวิดีโอแบบ SlowMotion ความละเอียด 720p ที่ 960fps จึงทำให้จับทุกช่วงเวลารวดเร็วเปลี่ยนกลับกลายให้มีความช้าลงเพื่อสร้างความแตกต่างจากเดิมเกิดเป็นความรู้สึกใหม่ มาพร้อมคุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่นในมาตรฐาน IP68 ทั้งรองรับการเล่นเสียงระดับ Hi-Res มีลำโพงเสตอริโอ

สเปกเบื้องต้นของ Sony Xperia XZs รายละเอียดดังนี้

• ขนาดตัวเครื่อง : 146 x 72 x 8.1 มม.
• นํ้าหนัก : 161 กรัม
• หน้าจอ : Triluminos - X-Reality - Dynamic Contrast Enhancer - sRGB 138% ขนาดกว้าง 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล 
• หน่วยประมวลผล : Snapdragon 820
• GPU : Adreno 530
• Ram : 4GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 32GB/64GB
• รองรับ MicroSD Card : สูงสุด 256GB
• ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0
• มาตรฐานกันนํ้ากันฝุ่น IP68
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• ระบบเชื่อมต่อ : 4G LTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz) MIMO, Bluetooth 4.2, GPS/ GLONASS, NFC, USB Type-C
• แบตเตอรี่ : ความจุ 2900mAh เทคโนโลยี Qnovo Adaptive

วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท อ่านรีวิว : Siamphone.com

 

ราคา 19,001 - 20,000 บาท

Huawei P10 หนึ่งเดียวรุ่นใหม่ล่าสุด โดยเด่นด้วยหน้าจอขนาดพอดีมือ มาพร้อมตัวเครื่องแข็งแรงทนทานวัสดุโลหะเล่นลวดลายสวยงามต่างสไตล์ตามเฉดสี ส่วนเรื่องกล้องไว้ใจได้ด้วยมาตรฐานที่มีแบรนด์ระดับ Leica มาร่วมพัฒนา

สำหรับ Huawei P10 จะใช้ชิปเซ็ต Kirin 960 CPU Octa-core, GPU Mali-G71, Ram 4GB, พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุด 256GB, แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAH และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge โดยเป็นพอร์ต USB Type-C ใช้งาน NFC ได้

เลนส์กล้องคู่เช่นเดิมแต่เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Leica Dual Camera 2.0 เลนส์สีตัวแรกความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ Monochrome ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ทว่าจะมีแต่เลนส์สีเท่านั้น มีสองโหมดไฮไลท์ ได้แก่โหมด Portrait และ BoKeh ที่ยกเครื่องใหม่เพิ่มประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยจะสามารถบันทึกวิดีโอสูงสุดความละเอียด 4K รองรับมาตรฐาน H265 ขนาดไฟล์เล็กลง 50% ขณะที่กล้องหน้ามาตรฐาน Leica ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รับแสงดีขึ้น 2 เท่า รูรับแสง f/1.9 

สำหรับสมาร์ทโฟนที่หยิบยกมาข้างต้นบางรุ่นก็เก่าแต่ว่าทางแบรนด์ได้ปรับลดราคาลง ดังนั้นจึงนำมารายงานให้ทราบเผื่อเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามถ้าหากใครชอบรุ่นไหนแนะนำว่าให้เดินไปจับถือลองเล่นดูก่อน เพราะมีเรื่องของดีไซน์ซึ่งรุ่นทั้งหมดในบทความนี้ค่อนข้างแตกต่างกันอยู่ สุดท้ายการใช้รุ่นใดก็ตามปัจจัยสำคัญที่สุดคือให้ตัดสินใจจากไลฟ์สไตล์ของตนเอง เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด