สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 19 พฤษภาคม 2558

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ก็เผยโฉมออกมาแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปจากค่าย LG โดยเป็นการเปิดตัวซีรีย์ G เจนเนอเรชั่นที่ 4 แล้ว ซึ่งก็เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28 เมษายน พร้อมสร้างความฮือฮาด้วยนัวตกรรมหน้าจอที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม รวมถึงกล้องที่มีการผสมผสานการใช้งานกับ "LG UX 4.0 UI" เพื่อเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพ ดังนั้นหากใครกำลังสนใจจะจับจองเป็นเจ้าของ มาดูกันดีกว่าว่า LG G4 แตกต่างอย่างไรกับ LG G3...?

1. ขนาดตัวเครื่อง และนํ้าหนัก โดยทั้งสองรุ่นไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • LG G3 มีขนาดตัวเครื่อง 146.3 x 74.6 x 8.9 มิลลิเมตร นํ้าหนัก 149 กรัม
  • LG G4 มีขนาดตัวเครื่อง 148.9 x 76.1 x 9.8 มิลลิเมตร นํ้าหนัก 155 กรัม

 

2. ระบบปฏิบัติการ และ UI ซึ่งในรุ่น G3 & G4 รันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.4 (Kitkat) และ 5.1 (Lollipop) ตามลำดับ โดยยังได้ออกแบบ UI (User Interface) ออกมาครอบทับด้วย ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์การออกแบบส่วนผู้ใช้งานให้มีความเรียบง่าย สะดวก เพิ่มอรรถรสในการใช้งาน


ขอบคุณคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาข่าวจาก LG

โดย UX 4.0 ทางแอลจีบอกว่า UI ดังกล่าวมีความฉลาดมากขึ้น (Smart) เพื่อเพิ่มประสบการณ์ และอรรถรสการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ด้วยการมีลูกเล่น หรือฟีเจอร์ต่างๆ มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

  • Gesture Interval Shot ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ทำได้ง่ายขึ้น โดยการทำสัญลักษณ์มือดังที่มีใน G3 แล้วจะมีการนับถอยหลัง 3 วินาที ต่อด้วยการถ่ายภาพให้เราโดยอัตโนมัติ 4 ภาพ
  • Ringtone ID เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกตั้งค่าเสียงริงโทนได้ กล่าวคือหากอยู่ในสถานการณ์ที่เราไม่สะดวกรับสายสนทนา ซึ่งทำให้เราไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เพียงแต่ได้ยินเสียงก็สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนโทรมา
  • Quick Memo+ เมื่อเราเปิดเว็บไซต์ใดๆ แล้วเราเกิดชอบส่วนของเนื้อหาเพียงบางส่วน เราก็สามารถใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว บันทึกสิ่งต่างๆ ได้ทันที

และนอกจากจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่น 4.0 ยังปรับปรุงให้มีการทำงานไหลลื่นมากขึ้น ใช้งานง่าย เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ใช้งาน ตามคอนเซ็ปต์ที่ว่า "LG UX 4.0 Get simpier and easier"


ขอบคุณคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาข่าวจาก LG

3. แนวคิดการออกแบบ และดีไซน์

LG G3 ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดที่ว่า "Simple is the New Smart" เทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งมาพร้อมกับการใช้งานที่เรียบง่าย เช่น Smart Keyboard, Smart Notice, Smart Security เป็นต้น พร้อมทั้งปรับปรุงให้ส่วนติดต่อผู้ใช้มีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น โดยไอคอนต่างๆ จะมีสีสัน หน้าตาเรียบง่าย และลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อลดความซับซ้อน เพิ่มความไหลลื่นนั่นเอง

ส่วนดีไซน์ของรุ่น G3 คือการออกแบบด้วยเมทัลลิคดีไซน์ ให้ความรู้สึกหรูหรา เงางาม ผนวกกับความโค้งมนของตัวเครื่อง ทำให้การจับถือใช้งานด้วยมือเดียวไม่เป็นเรื่องยาก

 
ขอบคุณคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาข่าวจาก LG

ในขณะที่ LG G4 ก็ออกแบบภายใต้แนวคิดที่ว่า "See the Great, Feel the Great" โดยก็ได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงฟีเจอร์ที่คอยอำนวยความสะดวก รวมถึงเพิ่มอรรถรสในการใช้งาน เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดี

ส่วนของดีไซน์ทาง LG ได้ออกแบบหน้าจอให้มีความโค้งเล็กน้อย เพื่อลดอัตราการแตกของหน้าจอ เมื่อทำตก และจับถือได้สะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งฝาหลังยังมีแบบหนังแท้ให้ความรู้สึกคลาสสิค เท่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร


ขอบคุณคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาข่าวจาก LG

4. หน้าจอ โดยทั้งสองรุ่นคือ G3 และ G4 จะมีหน้าจอขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด QHD (2,560 x 1,440 พิกเซล) ซึ่งมีความหนาแน่นต่อพิกเซลอยู่ที่ 538 ppi แต่มีความแตกต่างตรงที่รุ่น G3 เป็นหน้าจอชนิด True HD-IPS LCD ทว่าในรุ่น G4 เลือกใช้ IPS Quantum Display ผสมผสาน Advanced In-Cell Touch เพื่อการแสดงสีนั้นมีความเที่ยงตรง สว่าง และไวต่อการสัมผัสมากยิ่งขึ้น


ขอบคุณคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาข่าวจาก LG

5. ระบบประมวลผล และระบบเชื่อมต่อ โดยทั้งสองรุ่นทาง LG ยังคงเลือกใช้ชิปเซ็ตจาก Qualcomm มาทำหน้าที่ประมวลผล ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

LG G3 หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 801 CPU Quad-core ความเร็ว 2.5GHz

  • GPU : Adreno 330
  • Ram  LP-DDR3 2GB, หน่วยความจำภายใน 16GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 128GB
  • ระบบเชื่อมต่อ : 3G, 4G LTE, WiFi, Bluetooth 4.0, GPS, NFC, IR Blaster, USB 2.0 (SlimPort), USB OTG, DLNA เป็นต้น

 

LG G4 หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 808 CPU Quad-core แบ่งออกเป็น 6 แกนประมวลผล Cortex-A53 CPU Quad-core 1.4GHz และ Cortex-A57 CPU Dual-core 1.8GHz 

  • GPU : Adreno 418
  • Ram  LP-DDR3 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 2TB
  • ระบบเชื่อมต่อ : 3G, 4G LTE, WiFi, Bluetooth 4.0, GPS, NFC, IR Blaster, USB 2.0 (SlimPort), USB OTG, DLNA เป็นต้น

 

6. กล้อง ถือได้ว่าการถ่ายรูปกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการใช้งานในปัจจุบันไปแล้ว ซึ่งครั้งนี้ทาง LG ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของการถ่ายภาพให้มีความเป็นธรรมชาติ รวมถึงแสดงสีสันได้คมชัดทุกรายละเอียดมากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี "Color Spectrum Sensor" มาใช้งานรุ่นแรกของโลกในรุ่น LG G4

สำหรับ LG G4 มีกล้องด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.6 นิ้ว และขนาดของรูรับแสงอยู่ที่ f/1.8 ทำให้ภาพที่ถ่ายมีความสว่าง คมชัด และมีความละเอียดสูงสุดของภาพถ่ายอยู่ที่ 5312x2988 พิกเซล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่้นๆ ดังต่อไปนี้

  • ระบบป้องการภาพสั่นไหว (OIS 2.0) ซึ่งแบ่งการทำงานออกเป็น 3 แกน
  • ไฟแฟลชคู่ LED (Dual LED)
  • ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติด้วยลำแสงเลเซอร์ (Laser Auto Focus)
  • ระบบการถ่ายภาพแบบ Manual Mode
  • โหมดถ่ายภาพแบบ HDR (High Dynamic Range)
  • การบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K และ FullHD

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมการใช้งานการถ่ายภาพแบบ Gesture Mode โดยกำมือเป็นรูปกำปั้น แล้วระบบจะนับถอยหลัง 4 วินาที เพียงเท่านี้ก็สามารถถ่ายภาพในอิริยาบถต่างๆ ได้อย่างสะดวก

 

แล้วรุ่น G3 ด้านหลังจะมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3 นิ้ว และขนาดของรูรับแสงอยู่ที่ f/2.4 โดยสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 4160x3120 พิกเซล ส่วนรายละเอียดอื่นๆ มีดังต่อไปนี้

  • ระบบป้องการภาพสั่นไหว (OIS+) ซึ่งแบ่งการทำงานออกเป็น 2 แกน
  • ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติด้วยลำแสงเลเซอร์ (Laser Auto Focus)
  • ไฟแฟลชคู่ LED (Dual LED)
  • การบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K และ FullHD
  • Magic Focus การถ่ายภาพก่อนแล้วมาเลือกจุดที่ต้องการจะโฟกัสภายหลัง
  • โหมดถ่ายภาพ Dual ผู้ถ่ายจะสามารถถ่ายภาพจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกันได้ในหนึ่งเฟรม


ขอบคุณคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาข่าวจาก LG

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล มาพร้อมเทคโนโลยี Flash UI ช่วยให้การถ่ายภาพมีความส่วางมากยิ่งขึ้น และเช่นเดิมก็ยังมี Gesture Mode ช่วยให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่าย และวิดีโอด้านล่างเป็นการสอนถ่ายภาพอย่างมือโปรด้วย LG G3


ขอบคุณคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหาข่าวจาก LG

7. แบตเตอรี่ โดยทั้งสองรุ่นจะมีความจุแบตฯ 3,000 mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้ พร้อมกับรองรับเทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย

8. ราคาวางจำหน่าย

  • LG G3 มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 14,900 บาท โดยมีเฉดสีของตัวเครื่องดังนี้ Metallic Black, Silk White, Shine Gold, Moon Violet และ Burgundy Red

  • LG G4 ประเภทฝาหลังแบบ Ceramic มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 20,900 บาท มีเฉดสีดังนี้ Metallic Gray / Ceramic White / Shiny Gold
  • LG G4 ประเภทฝาหลังแบบ Genuine Leather มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 21,900 บาท มีเฉดสีดังนี้ Black / Brown / Red / Sky Blue / Beige / Yellow

นับได้ว่าการเปิดตัวรุ่นเรือธง LG G4 ในครั้งนี้ถือเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิม ดูมีความหรูหรา พรีเมี่ยม มีสไตล์ตามแนวคิดการออกแบบแบบแฟชั่น ทว่าในรุ่น G3 ที่ถูกปรับราคาลงก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่ราคาใกล้เคียงกัน

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่