กล้องถ่ายภาพ (Action Camera)  |   วันที่ : 13 พฤษภาคม 2558

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวชิปประมวลผลในตระกูล Intel Xeon E7-8800/4800 v3 เพื่อมอบสมรรถนะในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจในแบบเรียลไทม์ พร้อมด้วยเสถียรภาพที่มั่นคงสำหรับทุกภารกิจสำคัญขององค์กร ความสามารถในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจแบบเรียลไทม์ถือเป็นสิ่งที่องค์กรในหลากหลายภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ นับตั้งแต่วงการสาธารณสุขและค้าปลีกไปจนถึงการสื่อสาร

โดยความต้องการขององค์กรต่างๆ เหล่านี้ในด้านการค้นหาและคัดแยกข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากข้อมูลปริมาณมหาศาลที่มีอยู่เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนให้เกิดความต้องการเทคโนโลยีใหม่ในด้านการประมวลผลข้อมูลแบบอินเม็มโมรี่ (in-memory computing) และการวิเคราะห์แบบบิกดาต้า (big data analytics) โดยจากการพิจารณาจากสภาวะตลาดในปัจจุบันและวิเคราะห์ถึงแนวโน้มความต้องการสำหรับการประมวลผล in-memory ในอนาคต บริษัท การ์ทเนอร์ ประเมินว่าตลาดเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะมียอดขายพุ่งทะลุหลัก 9,500 ล้านเหรียญสหรัฐภายในช่วงสิ้นปี 2561 โดยอย่างน้อยร้อยละ 50 ขององค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลกจะหันมาใช้นวัตกรรมการประมวลผล in-memory ในการพัฒนากลยุทธ์1ทางดิจิทัลสำหรับธุรกิจต่อไป

โปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ชุดข้อมูลปริมาณมหาศาลในหน่วยความจำด้วยความปลอดภัย เพื่อนำผลไปประกอบการตัดสินใจและยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน ก่อนจะนำไปสู่ความได้เปรียบในการแข่งขันต่อไป

ไดแอน ไบรอันท์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ของอินเทล กล่าวว่า “ในปัจจุบันที่ระบบเศรษฐกิจมีรากฐานอยู่บนบริการแบบดิจิทัล ธุรกิจจะสำเร็จหรือล้มเหลวนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการตัดสินใจ โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นปัจจัยประกอบ โปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3 จะช่วยขับเคลื่อนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจแบบเรียลไทม์ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจได้ยกระดับในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ผ่านทางผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงตามความต้องการของแต่ละคนยิ่งขึ้น จึงทำให้องค์กรสามารถสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ และเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้นอีกด้วย”

พลิกโฉมธุรกิจด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

นิปปอนเพนต์ หนึ่งในผู้ผลิตสีรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย ได้เลือกใช้โปรเซสเซอร์ อินเทล ซีออน E7 v2 ในการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ SAP HANA ที่ใช้ประมวลผลข้อมูลในหน่วยความจำ โดยมีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งเร่งให้สามารถนำผลการวิเคราะห์ไปประยุกต์ใช้จริงในการพัฒนาระบบระบบซัพพลายเชนและแคมเปญทางการตลาดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

จัสติน เฉิน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสารสนเทศของนิปปอนเพนต์ เผยว่า “การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ทำให้นิปปอนเพนต์ สามารถมองเห็นถึงความสนใจของลูกค้าได้ ทั้งในด้านสี สไตล์การออกแบบ รวมถึงนักออกแบบ เราจึงสามารถพัฒนาและปรับแต่งผลิตภัณฑ์และบริการของเราให้ตรงกับความต้องการเฉพาะด้านได้ เราเคยต้องเสียเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ในวันนี้ เราทำทุกอย่างนี้ได้แบบเรียลไทม์ ขณะนี้ นิปปอนเพนต์ กำลังทดสอบระบบที่ใช้โปรเซสเซอร์ อินเทล ซีออน E7 v3 เพื่อนำความก้าวหน้าด้านประสิทธิภาพและเสถียรภาพของระบบมาขับเคลื่อนการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าต่อไป”

ราคาผลิตภัณฑ์

ชิปตระกูล Intel Xeon E7 v3 จะมีวางจำหน่ายทั้งสิ้น 12 รุ่น โดยมีราคาตั้งแต่ 1,224 เหรียญสหรัฐไปจนถึง 7,175 เหรียญสหรัฐต่อการสั่งซื้อจำนวน 1,000 ชิ้น  สามารถค้นหาข้อมูลราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ http://intc.com/priceList.cfm

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่