กล้องถ่ายภาพ (Action Camera) | วันที่ : 23 มิถุนายน 2558
อาร์ทีบีฯ ชี้เทรนด์ตลาดอุปกรณ์เสริมหรือโมบายไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยปี 2558 ยังเติบโตต่อเนื่อง เตรียมทุ่มงบอีก30 ล้านเดินหน้าใส่เกียร์ระเบิดศึกครึ่งปีหลังเต็มอัตรา ส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มแวร์เอเบิลดีไวซ์(Wearable Devices) และโฮม คอนเน็คเต็ด ดีไวซ์(Home Connected Devices)เป็นหัวหอกนำทัพรับเทรนด์Internet of Things (IOTs) ที่กำลังมาแรงพร้อมสานต่อ2 กลยุทธ์เสริมแกร่งธุรกิจ มั่นใจยอดขายสิ้นปีโต 10% ตั้งเป้าครองความเป็นผู้นำในกลุ่มแวร์เอเบิลดีไวซ์ และโฮม คอนเน็คเต็ด ดีไวซ์ (Home Connected Devices)ใน 2 – 3 ปีข้างหน้า
ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอุปกรณ์เสริมหรือโมบายไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยว่า สถานการณ์ตลาดในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาเริ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีการเติบโตชะลอตัว กอปรกับการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มขึ้นโดยผู้เล่นในตลาดพยายามสร้างความคึกคักด้วยการนำเข้าสินค้าใหม่มาทำตลาดและดำเนินกิจกรรมอย่างเข้มข้น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น อีกทั้งไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่นิยมใช้อุปกรณ์ที่มีความจำเป็นมากกว่าแฟชั่นเพิ่มขึ้นจึงส่งผลให้ตลาดรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกมือถือและไอทีมีการเติบโตลดลงประมาณ 15-20%แต่โดยภาพรวมของตลาดในปี 2558คาดว่าน่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ 4,000-5,000ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ และแนวโน้มการประมูล 4G ที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯช่วง5 เดือนแรกมียอดขาย 140 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯเป็นผู้ทำตลาดอยู่นั้นเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และการไม่หยุดนิ่งพัฒนาตัวเองทั้งการเสาะหานวัตกรรมใหม่ๆ มานำเสนอสู่ตลาด รวมถึงการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เดิมและค้นหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ มาทำตลาดด้วยกัน ตลอดจนการขยายตลาดและจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง”
สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2558ยังคงมีเป้าหมายหลักมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพโดยวางนโยบายการตลาดเชิงรุกเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไว้ 2 แนวทาง ได้แก่ การมุ่งนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันโดยเน้นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทั้งในกลุ่มแวร์เอเบิลดีไวซ์ (Wearable Devices) หรือกลุ่มอุปกรณ์ไอทีสำหรับสวมใส่ได้ และโฮม คอนเน็คเต็ด ดีไวซ์(Home Connected Devices) เป็นหัวหอกรุกตลาดของบริษัทฯในครึ่งปีหลังเพื่อตอบโจทย์เทรนด์การใช้งานของผู้บริโภคที่นิยมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพาต่างๆ ได้อย่างสะดวก หรือInternet of Things (IOTs) ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
สำหรับกลยุทธ์ที่สอง การผนึกกำลัง (Synergy) กับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งซัพพลายเออร์และช่องทางจัดจำหน่ายที่มีความแข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เสริมด้านต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพการทำตลาดร่วมกันยิ่งขึ้นโดยปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีพันธมิตรทางธุรกิจรวม 10แบรนด์ ประกอบด้วย Jabra(จาบรา), Beats(บีทส์), Philips(ฟิลิปส์), NudeAudio(นู๊ดออดิโอ), Gear4(เกียร์โฟร์), iUi(ไอยูไอ), UniQ(ยูนิค), Maxell(แม็กเซล), Gigaset(กิ๊กกาเซ็ท)และ Jawbone(จาวโบน) ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 5 กลุ่มได้แก่กลุ่มหูฟังมีสาย, หูฟังบลูทูธ, เคสโทรศัพท์มือถือ, พาวเวอร์แบงก์และแวร์เอเบิลดีไวซ์ โดยในปีนี้ได้ขยายพันธมิตรรายใหม่เพิ่มขึ้น อาทิ Audio-Technica(ออดิโอ-เทคนิก้า)ซึ่งเป็นหูฟังที่มียอดขายสูงสุดอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นมา 6 ปีซ้อน, Motorola(โมโตโรล่า) กล้องวงจรปิดภายในบ้านที่มาพร้อมการเชื่อมต่อไวไฟ และ Mophie(โมฟี่) แบรนด์แบตเตอรี่เคสอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา พร้อมกันนี้ ยังมีแผนจะนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาทำตลาดในช่วง ไตรมาส3 อีก 3 แบรนด์คือEnergea(เอ็นเนอร์เกีย), Smanos(ซามานอส), และ TheCoopIdea(เดอะคูปไอเดีย)เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าอย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งเป็นการสร้างความแตกต่างและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์สู่ผู้บริโภคในวงกว้างยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการปี 2557 บริษัทฯมียอดขายประมาณ 400ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งปัจจัยความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มหูฟังเพลงหูฟังบลูทูธและกลุ่มแวร์เอเบิลดีไวซ์ (Wearable Devices) ที่สูงเป็นอันดับ 1 ในปีที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายของตลาดปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้าผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือยอดขายรวม 450ล้านบาท โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์แวร์เอเบิลดีไวซ์ (Wearable Devices) และโฮม คอนเน็คเต็ด ดีไวซ์ (Home Connected Devices) มากขึ้นขณะเดียวกันยังได้รุกขยายตลาดอุปกรณ์เสริมสู่กลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน อาทิ ประเทศเมียนมาร์ กัมพูชา และลาว ซึ่งเบื้องต้นจะเน้นทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย และในอนาคตมีแผนจะเข้าไปเปิดบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงตลาดได้อย่างเต็มที่
ดร.บรรพต กล่าวต่อว่า “กลยุทธ์การทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณสำหรับการทำตลาดไว้ที่ 30 ล้านบาท โดยจะเน้นสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ข่าวสารไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ สื่อดิจิตอลและออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคเพื่อสร้างความผูกพันกับแบรนด์ยิ่งขึ้นขณะเดียวกันนี้ก็เน้นเสริมแกร่งช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมที่มีอยู่ทั่วประเทศผ่านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำที่มีความแข็งแกร่งจำนวน 400 ราย รวมถึงช่องทางออนไลน์และร้านค้าเฉพาะทาง ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าเพื่อการดูแลบ้านมากขึ้นล่าสุดได้เริ่มเข้าไปจำหน่ายในโฮมโปรเป็นต้น ทั้งนี้ จากแนวทางการทำตลาดเชิงรุก ผนวกกับการนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และพันธมิตรที่แข็งแกร่ง บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถพิชิตยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมผลักดันให้อาร์ทีบีเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มแวร์เอเบิลดีไวซ์ (Wearable Devices) และโฮม คอนเน็คเต็ด ดีไวซ์ (Home Connected Devices)ใน 2 – 3 ปีข้างหน้า”
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.rtbtechnology.com วันที่ : 23 มิถุนายน 2558
กล้อง SECOM ตัวช่วยครอบครัวยุคใหม่ หมดห่วงผู้สูงวัย แม้อยู่บ้านเพียงลำพัง
Snapdragon 8s Gen 3 ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด เน้น AI ประสิทธิภาพแรง ไล่บี้รุ่นเรือธง
INSTAX mini 99 กล้องอินสแตนท์สุดล้ำ เปลี่ยนฟิลเตอร์ได้โดยไม่ต้องพึ่งระบบดิจิทัล
Leica SL3 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม 60 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบใหม่
realme C65 สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น หน้าจอ 90Hz กล้องหลัง 50MP แบตเตอรี่ 5000mAh
Apple ประกาศวันจัดงาน WWDC24 เที่ยงคืนวันที่ 11 มิถุนายนประเทศไทย
vivo Y100 5G หน้าจอ 120Hz ชิป Snapdragon 4 Gen 2 กล้องคมชัด 50MP
OnePlus Nord CE4 กล้องชัดแจ๋วระดับ 50MP มีกันสั่น OIS รองรับชาร์จเร็ว 100W
เผยดีไซน์ realme C65 เห็นสีแบบชัดๆ มาพร้อมปุ่ม Dynamic Button เตรียมเปิดตัว 4 เมษายนนี้
Meta ขนทัพฟีเจอร์ใหม่ แชทได้มันส์กว่าเดิมบน Messenger2 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR X7b 5G ขยับใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6020 จุใจด้วยกล้องระดับ 108MP10 ชั่วโมงที่แล้ว