Windows 10 กับ 10 เหตุผลที่ชวนให้อัพเกรด 'วินโดวส์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา'

Microsoft ประเทศไทยได้จัดงาน "Say Hello to Windows 10" เพื่อเผยโฉมระบบปฏิบัติการตัวใหม่ล่าสุดของพวกเขาอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว โดยภายในงานได้มีการบอกเล่าถึงสิ่งใหม่ๆ รวมไปถึงคุณสมบัติและสิทธิพิเศษต่างๆ ของผู้ใช้งานที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ใน Windows 10 ซึ่งทางทีมงาน SiamPhone ก็ได้นำข้อมูลต่างๆ ภายในงาน มาสรุปเป็น 10 เหตุผลดีๆ ที่อยากจะมาเชิญชวนให้ผู้ใช้งานได้อัพเกรดเป็น Windows 10 กันผ่านบทความนี้

มาเริ่มกันที่ "การกลับมาของสิ่งที่คุ้นเคย"

อย่างที่่เราทราบกันดีว่า Windows 8 ได้ทำการตัดฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ผู้ใช้งานอย่างเราๆ คุ้นเคยกันมานานตั้งแต่สมัย Windows 95/98 ออกไปพอสมควร โดยเฉพาะ "ปุ่ม Start" แต่การมาของ Windows 10 ในครั้งนี้ได้นำฟังก์ชั่นปุ่ม Start กลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง พร้อมปรับปรุงและเสริมลูกเล่นของ Live Tiles เข้ามาให้ผู้ใช้งานได้สนุก สะดวก และคุ้นเคยมากขึ้น (คนที่ใช้ Windows Phone)

Microsoft Edge เบราเซอร์ตัวใหม่ ที่น่าลอง

บน Windows 10 ทาง Microsoft ได้เพิ่ม Microsoft Edge ซึ่งเป็นเบราเซอร์ตัวใหม่ล่าสุดเข้ามาด้วย โดยที่ Microsoft Edge ไม่ได้เข้ามาแทนที่ Internet Explorer หรือที่เรารู้จักกันในนาม IE แต่อย่างไร แต่เข้ามาใช้งานควบคู่กันไป (สามารถใช้งานได้ทั้ง IE และ Edge บน Windows 10) และยังเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้ใช้งานทั้งการอ่าน เขียน (Surface pen) หรือเข้าเว็บไซต์ได้สนุกมากขึ้น

ทำงานได้คล่องตัวและใช้เวลาน้อยลง

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ถูกเพิ่มเข้ามา เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้บนหน้า Desktop ได้มากขึ้น และไม่ต้องวุ่นวายในการจัดหน้าจอ ดังนั้น Windows 10 จึงมาพร้อมฟังก์ชั่น Virtual Desktop ที่สามารถใช้งานหน้าจอ Desktop พร้อมกันได้หลายหน้าจอ, Task View ฟีเจอร์ที่จะแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานกำลังใช้โปรแกรมอะไรอยู่ รวมไปถึงฟังก์ชั่น Snap ที่ช่วยจัดระเบียบหน้าจอด้วยการแบ่งสัดส่วนการใช้งานให้เหมาะสม

เปลี่ยนแท็บเล็ตเป็นคอมพิวเตอร์พีซีด้วย Continuum

Continuum เป็นคุณสมบัติใหม่บน Windows 10 ที่จะช่วยมอบความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน ด้วยการปรับรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานของอุปกรณ์ Windows ให้สอดคล้องกันมากขึ้น ไม่ว่าจะใช้งานจากอุปกรณ์ตัวไหนก็จะให้อารมณ์การใช้งานที่ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Laptop 2-in-1, PC Desktop หรือ Tablet

อัพเกรดความปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด

Microsoft ได้ทำการปรับปรุงและพัฒนา Windows Defender ที่มีใน Windows 8 และเพิ่มระบบ SmartScreen ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยบน Windows 10 ให้ทันสมัย เหมาะกับการใช้งานปัจจุบัน (โลกโซเชียล) และมีความปลอดภัยในระดับที่สูงมากขึ้นจากเดิม รวมไปถึงรองรับการใช้งานในองค์กรฯ ที่เพิ่มขึ้นด้วย

เข้าใช้งานได้รวดเร็วและปลอดภัยด้วย Windows Hello

Windows Hello เป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก Microsoft ที่สามารถทักทายผู้ใช้งานผ่านการเรียกชื่อ และให้ปลดล็อคหรือล็อกอินเข้าสู่หน้าจอหลักได้โดยไม่ต้องใช้พาสเวริ์ด แต่ใช้วิธีการตรวจพิสูจน์ยืนยันด้วยเทคโนโลยีแบบชีวมิติ

Windows as a Services คุณสมบัติที่หลายคนเฝ้ารอ

ในอดีตที่ผ่านมาการที่จะใช้งาน Windows เวอร์ชั่นใหม่ หรือการจะอัพเดทสักเวอร์ชั่นหนึ่งนั้น จำเป็นต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้กับ Microsoft ถึงจะได้รับการอัพเดท แต่การมาของ Windows 10 ในครั้งนี้ ทาง Microsoft ได้เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถกดอัพเดทเพื่อก้าวเข้าสู่ Windows 10 ได้แบบฟรีๆ เป็นเวลา 1 ปีเต็ม (29/07/58 - 28/27/59) พร้อมทั้งได้รับสิทธิในการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาในการใช้งาน โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่หลังจากครบ 1 ปีที่เปิดให้อัพเดทแล้ว หากใครที่ต้องการจะทำการอัพเดทหลังจากนี้ จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้กับ Microsoft ทันที

One-stop service ใน Windows Store

บริการ Windows Store ที่จะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรม หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ตามต้องการ และจบภายในที่เดียว โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปทำการค้นหาจากอินเตอร์เน็ต หรือออกไปหาซื้อตามร้านค้าต่างๆ ให้เหนื่อยและยุ่งยาก

รวมทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียวด้วย Universal App

เป็นอีกสิ่งที่เหล่าสาวกของ Microsoft ต่างเฝ้ารอกันมาอย่างยาวนาน สำหรับการใช้งานแอปพลิเคชั่น 1 แอปฯ กับอุปกรณ์ทุกชนิดของ Microsoft ซึ่ง Windows 10 ได้ทำการรวม App store ของทุกดีไวซ์เข้าด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้นด้วย Microsoft Office 2016

โปรแกรมการจัดการไฟล์เอกสาร และไฟล์การนำเสนอ อันโด่งดังของ Microsoft ตอนนี้ได้พร้อมเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด 2016 เรียบร้อยแล้ว และยังมาพร้อมเวอร์ชั่น Mobile ด้วยเช่นกัน โดยสำหรับ Microsoft Office for Mobile นี้ Microsoft จะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้แบบฟรีๆ ในเวอร์ชั่น Lite ซึ่งจะมีพื้นฐาน ฟังก์ชั่นและอุปกรณ์การใช้งานภายในโปรแกรมมาให้ครบถ้วน (สามารถซื้อเวอร์ชั่นเต็ม เพื่อได้ฟังก์ชั่นที่ครบเหมือนเวอร์ชั่น PC ได้)

Microsoft Office กับ Microsoft Office for Mobile ต่างกันอย่างไร?

Microsoft office for Mobile

เป็น Office ที่เหมาะสำหรับ แท็บเล็ต แล็บท็อป สมาร์ทโฟน ที่มีหน้าจอขนาดไม่เกิน 10.1 นิ้ว และตอบรับการใช้งานแบบสัมผัสได้ดีกว่าเวอร์ชั่น PC ทำให้สามารถแก้ไขงาน หรือสร้างแบบรวดเร็วได้ง่ายๆ เพียงนิ้วเดียว ซึ่งถ้าหากนำ Microsoft office for Mobile ไปใช้งานบนอุปกรณ์ที่ขนาดหน้าจอเกิน 10.1 นิ้ว จะใช้งานได้เพียงเปิดดูไฟล์งานเท่านั้น (View Only)

Microsoft Office for Desktop

เป็น Office ที่ถูกออกแบบมาสำหรับให้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ Desktop หรืออุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอมากกว่า 10.1 นิ้วขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งตัวโปรแกรมถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานร่วม คีย์บอร์ด เมาส์ มากกว่าการสัมผัส และมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครั้นตั้งแต่เริ่มใช้งาน เพียงแต่ต้องทำการหาซื้อกับร้านค้าตัวแทนเท่านั้น 

**ขอขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต**

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  CASETiFY ปักหมุดร้านใหม่ ณ The Emsphere ห้างใหม่ใจกลางเมือง
• 
  Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ AI Copilot ของ OpenAI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่