สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 10 ตุลาคม 2558

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

เรียกได้ว่าถือเป็นปีที่น่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งหลายต่างขนทัพเหล่ารุ่น Flagship มาเผยโฉมกัน ซึ่งในเดือนสิงหาคมทางซัมซุงก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวรุ่นท็อปอีกหนึ่งรุ่นเคียงข้าง Note 5 นั่นก็คือ Samsung Galaxy S6 edge+ โดยก็มาพร้อมฟีเจอร์เด่นๆ เช่นเคย และเมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็ได้เป็นคิวของแอนดรอยด์พันธุ์บริสุทธิ์กันบ้างอย่าง Nexus ที่ Google เลือกให้ Huawei เป็นผู้ผลิตเปิดตัวในนามว่า "Nexus 6P" ส่วนเดือนตุลาคมทาง LG ก็ยังนำ V10 มาให้ยลโฉมเช่นกันกับคุณสมบัติ Dual Front Camera รวมถึง Second Screen เพราะฉะนั้นเรามาดูกันหน่อยว่า นอกจากมีหน้าจอขนาดกว้าง 5.7 นิ้วเหมือนกันแล้ว ยังมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร...?

 

ก่อนที่จะไปดูความแตกต่างเรามาดูการแนะนำตัวของทั้งสามกันหน่อย ว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่นโดยรวมเช่นใด...?

เริ่มกันที่เลือดบริสุทธิ์อย่าง "Huawei Nexus 6P" ที่กลับมาคราวนี้ เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไล่ตั้งแต่วัสดุการผลิตโลหะเกรดที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินมาผลิตแบบ "Unibody" บนหน้าจอขนาดกว้าง 5.7 นิ้ว (Quad HD) พร้อมทั้งอัพเกรดคุณภาพกล้องดิจิตอล หน่วยประมวลผลพลังมังกร และ USB type-C ที่ขับเคลื่อนด้วยแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 (Marshmallow)

 
ขอบคุณคลิปวีดีโอประกอบเนื้อหาบทความจาก Google Nexus

ลำดับต่อไปเป็นคิวของบริษัท LG กันบ้างที่ได้เผยโฉม "V10" อีกแอนดรอยด์โฟนพันธุ์แกร่งที่ได้รับมาตรฐาน MIL-STD-810G จากการทดสอบการตก (Drop test) โดยก็จะมีหน้าจอขนาดกว้าง 5.7 นิ้ว (Quad HD) และมีหน้าจอที่สองเหนือหน้าจอหลักขนาด 2.1 นิ้ว สำหรับการแจ้งเตือน, สภาพอากาศ, วันที่ เป็นต้น ส่วนอีกไฮไลท์ก็คือการมีกล้องหน้าคู่ที่จะช่วยผสมผสานภาพให้มีความเป็นธรรมชาติ


ขอบคุณคลิปวีดีโอประกอบเนื้อหาบทความจาก LG Mobile Global

และสุดท้าย "Samsung Galaxy S6 edge+" เป็นรุ่นอัพเกรดสเปกและเพิ่มความสามารถให้มีมากขึ้น ซึ่งมีหน้าจอกว้าง 5.7 นิ้ว (Quad HD) ประมวลผลด้วยชิปเซ็ตขนาด 14 นาโนเมตร โดยจะทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ทั้งก็จะยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายที่ใช้ระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงจาก 0%-100% ก็เต็มแล้ว และก็มีฟีเจอร์เด่นอย่างการบันทึกวีดีโอแบบ Livesteam ลงบนช่อง YouTube แบบเรียลไทม์ที่ความละเอียดระดับ FullHD


ขอบคุณคลิปวีดีโอประกอบเนื้อหาบทความจาก Samsung Mobile

หมายเหตุ : สามารถคลิกอ่านรีวิว Samsung Galaxy S6 edge+ ได้ที่ Siamphone.com

และหลังจากได้แนะนำตัว 3 รุ่นกันไปแล้ว ลำดับต่อไปมาดูกันว่าทั้งสามนั้นจะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง...?

เริ่มกันที่ด้านขนาดตัวเครื่อง และนํ้าหนัก

  Huawei Nexus 6P LG V10 Samsung Galaxy S6 edge+
ขนาดตัวเครื่อง  159.3 x 77.8 x 7.3 มม.  159.6 x 79.3 x 8.6 มม.  154.4 x 75.8 x 6.9 มม.
นํ้าหนัก  178 กรัม  192 กรัม 153 กรัม 

สรุป : Samsung Galaxy S6 edge+ จะมีขนาดตัวเครื่องและนํ้าหนักน้อยที่สุดในบรรดาสามรุ่น

ด้านระบบปฏิบัติการ

ทั้งสามรุ่นขับเคลื่อนด้วยแอนดรอยด์แต่แตกต่างกันที่เวอร์ชั่น โดย Huawei Nexus 6P ได้กินของหวานเวอร์ชั่นล่าสุดนั่นคือ 6.0 (marshmallow) ในขณะที่อีกสองรุ่นเป็นเวอร์ชั่นอมยิ้ม (5.1) แต่ทางซัมซุงก็จะมีการครอบทับด้วย Touchwiz UI

สำหรับคุณสมบัติของแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 ที่น่าสนใจมีดังนี้

  • ฟีเจอร์ Doze ที่จะเข้ามาช่วย Save แบตเตอรี่ของเรา หากสมาร์ทดีไวซ์ของเราไม่ได้เคลื่อนที่ หรือถูกวางไว้เฉยๆ ก็จะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานทันที
  • App Standby หากแอปฯ ไหนที่ไม่ได้ถูกใช้เป็นเวลานาน ระบบจะทำการตรวจสอบและทำการปิดการซิงค์ข้อมูลต่างๆ ลง 
  • Notification ถูกปรับปรุงให้มีความสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น และไม่รู้สึกเกะกะอีกต่อไป
  • Animations ปรับปรุงให้มีความสวยงาม รวมถึงไหลลื่นมากขึ้น
  • ลากมุมซ้าย เพื่อเปิดการทำงาน Voice Action คล้ายกับวิธีของลากมุมขวาเพื่อเปิดกล้อง
  • App Permissions สามารถกำหนดการตั้งค่าให้แอปฯ จะเข้าถึงข้อมูลอะไรของเราได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องยินยอมทุกอันเหมือนเก่า
  • Google Now จะมีบทบาทมากขึ้น เสมือนกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำสมาร์ทโฟนของเรา

ด้านดีไซน์

ต้องบอกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเมื่อ Nexus รุ่นใหม่ของ Huawei ผลิตมาจากวัสดุโลหะแบบ Unibody หรือตัวเครื่องเป็นลักษณะชิ้นเดียวไร้รอยต่อทำให้มีความหนาแน่นสวยงาม อีกทั้งขอบตัวเครื่องของ 4 มุมทำจากกระจกในแบบ 3D Curved และที่สำคัญคือมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

 

ต่อไป "LG V10" ถือเป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อมาพร้อมหน้าจอที่สองช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน โดยจะมีการแจ้งเตือน, สภาพอากาศ, วันที่อยู่ตลอดเวลา ถ้าหากหน้าจอหลักไม่ได้ใช้งาน แต่ในขณะที่หน้าจอกำลังใช้งานอยู่ หน้าจอที่สองก็จะโชว์แอปฯ ที่ใช้งานบ่อย เสมือนเป็นทางลัด

ส่วนตัวเครื่องด้านขอบก็ทำมาจากวัสดุคุณภาพระดับ 316L stainless steel อีกทั้งหน้าจอยังครอบด้วย Gorilla Glass 4 ถึงสองชั้น และด้านหลังทำจากซิลิคอนคุณภาพที่เรียกว่า "Dura Skin" และที่สำคัญสามารถถอดฝาหลังได้ แน่นอนว่าแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน

 

สุดท้าย Samsung Galaxy S6 edge+ ยังคงมาในรูปลักษณ์สมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม ด้วยการใช้วัสดุคุณภาพทั้งอะลูมิเนียมเกรด 7000 และกระจก ทั้งยังปุ่มต่างๆ ก็ถูกออกแบบให้ใช้งานมาก ตอบสนองได้ทันที และไฮไลท์สำคัญคือขอบหน้าจอโค้ง ไม่สามารถถอดฝาหลังได้ แต่ทดแทนด้วยการชาร์จไร้สาย หรือ Wireless charging

ด้านหน้าจอ

โดยทั้งสามรุ่นจะมีหน้าจอขนาดกว้าง 5.7 นิ้ว ความละเอียด QuadHD หรือ 2K และมีความหนาแน่นต่อพิกเซลอยู่ที่ 518 ppi แต่ LG V10 จะมีแค่ 513 ppi เท่านั้น

ส่วนจอแสดงผลรองของ LG V10 มีขนาด 2.1 นิ้ว ความละเอียด 1040x160 พิกเซล

ด้านฮาร์ดแวร์ (CPU, GPU, RAM ,ROM และแบตเตอรี่)

  Huawei Nexus 6P LG V10 Samsung Galaxy S6 edge+
สถาปัตยกรรม 64 บิต 64 บิต 64บิต
หน่วยประมวลผล (CPU) Qualcomm Snapdragon 810 v2.1 CPU Octa-core 2.0GHz Qualcomm Snapdragon 808 CPU Hexa-core X10 LTE Exynos 7420 CPU Octa-core
หน่วยประมวลผลกราฟฟิก (GPU) Adreno 430 Adreno 418 Mali-T760
Ram 3GB 4GB 4GB
หน่วยความจำภายใน (Rom) 32/64/128GB 64GB 32/64GB
หน่วยความจำภายนอก (MicroSD Card) ไม่รองรับ สูงสุด 2TB ไม่รองรับ
แบตเตอรี่ 3,450 mAh 3,000mAh (ถอดเปลี่ยนได้) 3,000 mAh

สรุป : เรียกได้ว่าจากสเปกที่มีของ LG V10 นั้นน่าสนใจไม่น้อยเลย เมื่อมี Rom มากถึง 64GB กับแบตเตอรี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็น CPU Octa-core

ด้านระบบเชื่อมต่อ

Huawei Nexus 6P มีระบบเชื่อมต่อที่น่าสนใจอย่าง USB Type-C ที่มีไว้สำหรับการโอนถ่ายข้อมูลเพื่อความรวดเร็ว และการชาร์จแบตเตอรี่ที่ Google เปิดเผยว่าใช้ระยะเวลาเพียง 10 นาที สามารถใช้งานนาน 7 ชั่วโมง และ 2G, 3G, 4G LTE, WiFi 802.11 ac/a/b/g/n, Bluetooth 4.2, USB2.0 high speed

ส่วน LG V10 มาพร้อมจุดเด่นอย่างเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว Qualcomm Quick Charge 2.0 โดยสามารถชาร์จได้ 50% เพียง 40นาที และชิปเซ็ตเสียง 32-bit Hi-Fi digital สำหรับตอบโจทย์ด้านความบันเทิง และ 3G, 4G LTE Cat.6, Wi-Fi 802.11 a, b, g, n, ac, Bluetooth 4.1, NFC, USB 2.0 ทั้งยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย

สุดท้าย Samsung Galaxy S6 edge+ อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยระบบต่างๆ อาทิ ระบบการชาร์จเร็ว และไร้สาย รวมถึง 3G, 4G LTE Cat 9., WiFi + MiMo, Wi-Fi Direct, Wi-Fi Hotspot, Bluetooth 4.2, NFC, Fingerprint Scanner, A-GPS, GLONASS, microUSB v2.0, UHQ Audio Wireless charging, Heart-rate monitor และ Mobile payment support

ด้านกล้องดิจิตอล

สำหรับปัจจุบันการถ่ายภาพบันทึกความทรงจำด้วยกล้องสมาร์ทโฟน ก็กลายเป็นเทรนด์ยอนฮิตไปซะแล้ว ดังนั้นจึงทำให้ Google ต้องหันมาพัฒนากล้องบน Nexus ให้ดีขึ้น โดยคราวนี้มาพร้อมความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล จุดพิกเซลกว้าง 1.55 ไมครอน เพื่อให้สามารถรับแสงได้ดีขึ้นด้วยรูรับแสง f/2.0 และไฟแฟลชคู่ LED สามารถบันทึกวีดีโอระดับ 4K (2160p)

ด้านหน้าก็มีจะมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จุดพิกเซลกว้าง 1.4 ไมครอน รูรับแสง F/2.4

ตัวอย่างภาพถ่ายของ Huawei Nexus 6P

หมายเหตุ : ขอขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาข่าวจาก Phonearena.com

ส่วน LG V10 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ตอบโจทย์เรื่องการถ่ายภาพโดยเฉพาะ ซึ่งกล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงถึง f/1.8, ไฟแฟลชคู่ LED และระบบป้องกันภาพสั่นไหว 2.0 สามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K

ในขณะที่ด้านหน้าก็ให้ Selfie หรือ Groufie ได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องพึ่งไม้เซลฟี่แต่อย่างใดด้วยความละเอียด 5 ล้านพิกเซลกับอัลกอริทึมที่ช่วยให้ภาพถ่ายเป็นธรรมชาติไม่บิดเบี้ยวกับมุมมอง 80 องศา และ 120 องศาตามลำดับทำงานร่วมกัน

 

ตัวอย่างภาพถ่ายของ LG V10

หมายเหตุ : ขอขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาข่าวจาก Phonearena.com

ถึงคิวของ Samsung Galaxy S6 edge+ กันบ้าง มีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) + ออโต้โฟกัส + ไฟแฟลช LED สามารถบันทึกวีดีโอระดับ 4K ได้โดยจะมีรูรับแสงอยู่ที่ f/1.9 ส่วนด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/1.9 และรูรับแสง f/1.9 สามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด 2K (1440p) พร้อมฟีเจอร์ Video Call, HDR

 

ตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy S6 edge+

ด้านราคา

Huawei Nexus 6P จะถูกวางจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไป โดยมีราคาดังต่อไปนี้

  • Huawei Nexus 6P รุ่นความจุ 32GB ราคา $ 500 (ประมาณ 18,200 บาท)
  • Huawei Nexus 6P รุ่นความจุ 64GB ราคา $ 550 (ประมาณ 20,000 บาท)
  • Huawei Nexus 6P รุ่นความจุ 128GB ราคา $ 650 (ประมาณ 23,600 บาท)

 

LG V10 เบื้องต้นจะวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ก่อนเท่านั้น และตามด้วยประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงทวีปเอเชีย โดยยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นเท่ากัน แต่คาดการณ์ไว้ว่าอยู่ที่ราวๆ $600 หรือประมาณ 22,000 บาท

สุดท้าย Samsung Galaxy S6 edge+ มีราคาเริ่มต้น 26,900 สำหรับโมเดล 32GB ส่วน 64GB นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมา

 

โดยทั้งสามรุ่นมีสิ่งที่เหมือนกันคือการที่มีตัวเครื่องทำจากโลหะ มาพร้อมหน้าจอขนาดกว้าง 5.7 (2K) และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K ได้ด้วยกล้องดิจิตอลด้านหลัง ทั้งก็ยังชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วอีกด้วย แต่ถ้าหากกล่าวถึงข้อดีของแต่ละรุ่น สามารถแยกออกได้ดังต่อไปนี้....?

Huawei Nexus 6P

  • เป็นเพียวแอนดรอยด์ทำให้มีความเสถียร และรวดเร็วในการใช้งาน
  • สามารถอัพเดทแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ได้ก่อนใครเพื่อน
  • USB Type-C และ USB2.0 high speed
  • ครอบทับหน้าจอด้วย Corning Gorilla Glass 4 ถึง 2 ชั้น

LG V10

  • มีสองหน้าจออำนวยความสะดวกในการใช้งาน
  • Dual Front Camera เพิ่มความสนุกสนานการถ่ายภาพ
  • หน่วยความจำภายใน 64GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 2TB
  • เทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่เร็ว

Samsung Galaxy S6 edge+

  • เทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย
  • การบันทึกวีดีโอแบบ Livesteam ลงช่อง YouTube
  • ระบบการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
  • Ram ประเภท LPDRR4

ก็จบลงแล้วสำหรับการหยิบยกสามสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นท๊อป มาเทียบเคียงความเหมือน ความต่าง อย่างไรก็ตามในส่วนของ Samsung Galaxy S6 edge+ นั้นก็มีวางจำหน่ายในบ้านเราแล้ว แต่คงต้องรอลุ้นว่าทาง Huawei จะนำมาเลือดบริสุทธิ์มาจัดจำหน่ายในบ้านเราหรือไม่ เช่นเดียวกับ LG V10 อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่