เล่าสู่กันฟังระหว่าง Samsung Galaxy J1, J2, J5 และ J7 แตกต่างกันอย่างไร...?

หลังจาก Samsung เผยโฉม Galaxy J2 ในประเทศอินเดียไปไม่นาน ก็ได้นำมาวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วในราคา 4,990 บาท โดยจุดเด่นคือรองรับการใช้งาน 4G LTE และรันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด 5.1.1 (Lollipop) ดังนั้นบทความนี้จึงจะพาไปรู้จักกับซีรีย์ J ให้มากขึ้นทั้ง 4 รุ่น ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง...?

แต่ก่อนที่จะไปดูความแตกต่าง เรามาทำความรู้จักกันหน่อยว่า แต่ละรุ่นนั้นเปิดตัวเมื่อใด และยังมีจุดเด่นอะไรบ้าง..?

เริ่มกันที่ Samsung Galaxy J1 แอนดรอยด์โฟนรุ่นเล็กรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด บนหน้าจอขนาดกว้าง 4.3 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.4 แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยถูกเปิดตัวเมื่อสิ้นเดือนมกราคม

หมายเหตุ : คลิกอ่านการรีวิวรุ่น J1 ได้ที่ Siamphone.com

ส่วน Samsung Galaxy J2 ก็ถูกอัพเกรดสเปกขึ้นมาอีกเล็กน้อย โดยมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว รองรับการใช้งาน 4G LTE และ 2 ซิมการ์ด ประมวลผลด้วย CPU Quad-core 1.3 GHz Cortex-A7, Ram 1GB แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ลำดับต่อไป Samsung Galaxy J5 นั้นเปิดตัวพร้อมกับรุ่น J7 โดยเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งจะรันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุด 5.1.1 ประมวลผลด้วยพลังมังกร Snapdragon 410, Ram 1.5GB และมีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว (HD) ทั้งยังมีจุดเด่นที่กล้องหน้ามีไฟแฟลช

หมายเหตุ : คลิกอ่านการรีวิวรุ่น J5 ได้ที่ Siamphone.com

สุดท้าย Samsung Galaxy J7 รุ่นท๊อปสุด ณ ตอนนี้ในซีรีย์ J โดยมีหน้าจอขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว (HD) ประมวลผลด้วย CPU Octa-core มาพร้อมกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช

หมายเหตุ : คลิกอ่านการรีวิวรุ่น J7 ได้ที่ Siamphone.com

ด้านดีไซน์

ต้องบอกว่าทั้ง 4 รุ่นนั้นมีดีไซน์ไม่แตกต่างกันเลย ตัวเครื่องยังคงใช้วัสดุพลาสติก ส่วนรุ่น J5 และ J7 จะเป็นขอบโลหะ และมีช่องไฟแฟลช LED ที่ด้านหน้าข้างเลนส์กล้อง ในขณะที่มุมของตัวเครื่องก็มีความโค้งมน เพื่อให้สอดรับกับฝ่ามือ ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ด้านขนาดตัวเครื่อง และนํ้าหนัก

• Samsung Galaxy J1 : 129 x 68.2 x 8.9 มม. และนํ้าหนัก 122 กรัม
• Samsung Galaxy J2 : 136.5 x 69 x 8.4 มม. และนํ้าหนัก 129 กรัม
• Samsung Galaxy J5 : 142.1 x 71.8 x 7.9 มม. และนํ้าหนัก 146 กรัม
• Samsung Galaxy J7 : 152.4 x 78.6 x 7.5 มม. และนํ้าหนัก 168 กรัม

ด้านระบบปฏิบัติการ

ทั้ง 4 รุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังแอนดรอยด์ แต่มีเวอร์ชั่นที่แตกต่างกัน โดย J1 นั้นก็จะเป็นเวอร์ชั่น 4.4 ส่วน J2, J5 และ J7 เป็นเวอร์ชั่น 5.1.1 (Lollipop) ครอบทับด้วย TouchWiz UI

ด้านหน้าจอ

ด้านฮาร์ดแวร์ (CPU, GPU, RAM ,ROM และแบตเตอรี่)

ด้านระบบเชื่อมต่อ

โดยทั้ง 4 รุ่นจะมีระบบการเชื่อมต่อดังต่อไปนี้ WiFi 802.11 b/g/n 2.4GHz, WiFi Direct, USB 2.0, GPS, Glonass, A2DP (J5 & J7) Bluetooth 4.1 (J2 & J5 & J7) และ 4.0 (J1)

ด้านซิมการ์ดและเครือข่าย

สำหรับ Samsung Galaxy J1 รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด และเชื่อมต่อ 3G ได้ โดยมีคลื่นความถี่ดังต่อไปนี้ 850 / 900 / 2100 MHz และประเภทซิมการ์ดคือ MicroSIM

Samsung Galaxy J2 ก็รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด จะสามารถเชื่อมต่อ 4G LTE โดยใช้ซิมการ์ดประเภท MicroSIM และมีคลื่นความถี่ดังต่อไปนี้

• 2G : 900 / 1800 / 1900 MHz
• 3G : 850 / 900 / 2100 MHz
• 4G : 1800 / 2100 / 2600 MHz

Samsung Galaxy J5 & J7 รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดเช่นกัน สามารถเชื่อมต่อ 3G และ 4G ได้ โดยจะใช้ซิมการ์ดประเภท MicroSIM ส่วนคลื่นความถี่มีดังต่อไปนี้

• 2G : 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
• 3G : 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz
• 4G : 800 (J7) / 850 / 900 / 1800 / 2100 / 2600 MHz

ด้านกล้องดิจิตอล

Samsung Galaxy J1 ให้เพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพด้วยโหมด Plam Selfie เพียงยกฝ่ามือขึ้นมาก็ถ่ายภาพได้แล้ว บนกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และยังมีโหมดหน้าสวยปรับได้สูงสุด 5 ระดับ ในขณะที่ด้านหลังเป็นความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมไฟแฟลช LED และสามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด HD

ส่วน Samsung Galaxy J2 มีความละเอียดทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเท่ากับรุ่น "J1" แต่ส่วนของโหมดหน้าสวยจะสามารถปรับได้สูงสุด 8 ระดับ และสามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด HD 

Samsung Galaxy J5 & J7 มีสเปกด้านกล้องเท่ากัน โดยด้านหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบออโต้โฟกัสและไฟแฟลช LED สามารถบันทึกวีดีโอระดับ FullHD ส่วนด้านหน้าเป็นความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งจะมีไฟแฟลช LED ช่วยเพิ่มความสว่างในการถ่ายภาพ และก็มีรูรับแสง f/2.2 

ด้านราคา

และก็จบลงแล้วสำหรับการหยิบยกทั้ง 4 รุ่นในซีรีย์ J มาเล่าสู่กันฟัง โดยหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนไว้ใช้งาน สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A25 5G หน้าจอ 120Hz ลำโพงสเตอริโอ Dolby ATMOS ราคาไทยหมื่นต้นๆ
• 
  แตกต่างอย่างไร! Samsung Galaxy A15 4G vs Samsung Galaxy A15 5G ราคาไทยต่างกัน 2,000 บาท

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่