Apple เปิดตัว watchOS 3 ทำงานได้เร็วขึ้นพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Dock, Control Center, Activity Sharing, SOS

ที่งานประชุมนักพัฒนาประจำปีของ Apple (Worldwide Developer Conference : WWDC) มีการเปิดตัว watchOS 3 แพลตฟอร์มเวอร์ชั่นล่าสุดสำหรับนาฬิกา Apple Watch ซึ่งมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการเรียกใช้แอพพลิเคชั่นที่เร็วขึ้น การปรับปรุงรูปแบบหน้าปัด ปรับปรุงฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายและอีกมากมาย

ผู้ใช้งาน Apple Watch สามารถกดปุ่มด้านข้างเพื่อเข้าถึงโหมด Dock ซึ่งเป็นหน้าต่างสำหรับการเรียกใช้แอพต่างๆ ได้แบบรวดเร็วพร้อมการแสดงผลข้อมูลล่าสุดของแอพนั้นๆ

การใช้นิ้วปัดเลื่อนหน้าปัดจากด้านล่างขึ้นมาจะเป็นการเรียก Control Center ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมีที่มีฟีเจอร์ให้ใช้งานอย่างเช่น Airplane Mode, Do Not Disturb, notifications นอกจากนั้นการปัดเลื่อนหน้าปัดไปทางซ้ายหรือขวาจะเป็นการเลือกรูปแบบหน้าปัดนาฬิกา

เพิ่มช่องทางใหม่สำหรับตอบ iMessages อย่างเช่นฟีเจอร์ Scribble ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานวาดตัวอักษรบนหน้าจอและระบบจะแปลความหมายภาพวาดลงไปในข้อความ นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถส่งภาพเคลื่อนไหว สติกเกอร์ อีโมจิ ภาพวาดและจังหวะการเต้นหัวใจผ่านทาง iMessages

เพิ่มลายหน้าปัด Apple Watch ใหม่ เช่น ลาย Minnie Mouse หน้าปัด Activity หน้าปัดแบบตัวเลข เป็นต้น

Activity Sharing เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วงแหวนแสดงกิจกรรมการออกกำลังกายให้กับผู้ใช้งานรายอื่นเพื่อสร้างแรงจูงใจในการแข่งขันหรือออกกำลังกาย สามารถแจ้งเตือนเมื่อการแข่งขันนั้นจบลงหรือมีผู้ชนะ

ผู้ใช้งาน Apple Watch ร่วมกับรถเข็น (wheelchair) สามารถใช้ฟีเจอร์ Activitiy เพิ่มประสิทธิภาพในการเลื่อนล้อรถเข็นซึ่งสามารถตั้งค่าโหมดการเข็นรถเข็นเพื่อออกกำลังกาย

SOS : กดปุ่มด้านข้างค้างไว้เพื่อโทรเรียก 911 หรือบริการฉุกเฉินในท้องถิ่น ซึ่ง SOS ยังสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนให้กับผู้ติดต่อกรณีเหตุฉุกเฉินได้ด้วย โดยทำงานผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi / Cellular และสามารถใส่ข้อมูลการแพทย์หรือเงื่อนไขในการรักษาเพิ่มเติมได้

watchOS 3 เวอร์ชั่นทดสอบสำหรับนักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนเวอร์ชั่นทดสอบสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปจะเปิดให้ดาวน์โหลดกันในเดือนกรกฎาคม ส่วนการอัพเดท watchOS 3 อย่างเป็นทางการจะถูกส่งให้ผู้ใช้งาน Apple Watch ภายในปลายปีนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  HP เปิดตัวแล็ปท็อปเกมมิ่ง OMEN 16 Slim พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5070!
• 
  ทำความรู้จัก POCO M7 Pro 5G หน้าจอ 120Hz รองรับ HDR10+ กล้องหลัง 50MP พร้อม RAM 24GB

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่