โทรศัพท์ (Phone)  |   วันที่ : 6 ตุลาคม 2562

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ต้องบอกว่าเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Apple ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองได้อย่างน่าสนใจ และไม่ต้องตกใจกับราคาอีกต่อไป โดยมีสามรุ่นพี่น้องคือ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ที่มีความเร็วแรงของชิปเซ็ต A13 Bionic เป็นหัวใจในการประมวลผล รวมถึงมีฟีเจอร์ที่ได้ตอบโจทย์กับยุคสมัยของผู้ใช้งานมากขึ้น และนี่ก็ครบรอบ 23 ปี นับช่วงเวลาตั้งแต่ปีค.ศ. 1996-2019 ดังนั้นเราลองมาย้อนภาพความทรงจำของเว็บไซต์และผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่เกิดขึ้นครั้งแรกจนถึงปัจจุบันกันหน่อยว่าเป็นอย่างไร

เดิมทีเว็บไซต์ Apple ปีคริสต์ศักราช 1996 พุ่งเป้านำเสนอฟลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่าในช่วงเวลานั้นสินค้าเหล่านี้ก็เป็นเรื่องแปลกใหม่ของโลกเลยทีเดียว และแต่ละปีที่ผ่านมาจะเผยโฉมรุ่นใหม่ออกมา เสมือนบ่งบอกว่าแสดงว่าเรามีการพัฒนาในแต่ละปี และการดีไซน์หน้าเว็บไซต์จะเห็นว่าพวกเขาได้ใช้แนวคิดเรียบง่ายสะอาด นำเสนอได้ตรงจุดจากตัวอักษรเยอะ ก็ลดลงเรื่อยๆ และใช้รูปสินค้ากับไฮไลท์เป็นจุดดึงดูดแทน เปรียบเหมือนการทำคอนเทนต์ช่วงเวลาปัจจุบันเลยก็ว่าได้...

จนมาถึงยุคที่การฟังเพลงไม่ใช่ต้องฟังจากเครื่องเล่นเพลงอีกต่อไป แต่เราสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลา และในขณะนั้นให้ความสำคัญกับเส้นทางการดำเนินธุรกิจความบันเทิงควบคู่กันไป เพราะผู้บริหารคาดการณ์ว่าในอนาคตจะไม่ได้มีเพียงเฉพาะเพลงเท่านั้นที่คนสนใจ แต่จะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น โดยเฉพาะวิดีโอแบบสตรีมมิ่ง

การมาของ iPod Nano ยกโฉมใหม่บางเบาขึ้น เพื่อตอบโจทย์การพกพา มาพร้อมหน้าจอขนาดกว้าง 2.5 นิ้ว รองรับการสัมผัสแบบมัลติทัช และมีปุ่ม Home กับหลากหลายเฉดสีให้เลือกจับจอง

 

เข้าสู่ยุคใหม่ของการติดต่อสื่อสาร โดยฉีกกฏเกณฑ์เดิมๆ ของดีไวซ์ที่วางขายมาก่อนหน้าลงทั้งหมด สร้างเสียงฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว กับ iPhone ... พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Apple computer เป็น Apple เพียงอย่างเดียว เนื่องจากผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้มีแค่คอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว เพื่อลดความสับสนต่อลูกค้า และผลิตภัณฑ์อื่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ต่อมาปี 2008 ทาง Apple ก็สามารถสร้างเซอร์ไพร์สได้อีก เปิดตัวโน๊ตบุ๊คบางที่สุดในโลกอย่าง MacBook Air 

 

เฉลิมฉลองยอดแอพพลิเคชั่นที่มีทั้งหมดใน Apps Store แตะ 500 ล้านเข้าไปแล้ว และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เดินทางมาถึงปี 2010 ต้องบอกว่าคอนเทนต์ ณ ตอนนั้น ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือจำพวกวิดีโอและเกม รวมถึงเหล่า User ก็นิยมใช้ทำงานด้านเอกสารหรือพรีเซ็นเทชั่นนั้นได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน จึงจำเป็นต้องตอบโจทย์ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่มากขึ้นอย่างเข่น

iPad เปิดตัวครั้งแรก ปีคริสต์ศักราช 2010

 

หนึ่งปีถัดมาทาง Apple มีความสูญเสียครั้งใหญ่เลย เพราะบิดาของแอปเปิ้ลอย่าง Steve Jobs เสียชีวิตลง โดยเขาป่วยเป็นโรงมะเร็ง "1995-2011" อายุทั้งหมด 56 ปี

พอถึงปี 2012 ต้องบอกว่าเข้าสู่ยุคของความสมาร์ทเต็วตัว โดยนอกจาก Apple ได้เปิดตัว iPhone 4S ก็ยังเผยโฉม Siri ผู้ช่วยส่วนตัวของเรา ที่จะเปลี่ยนโลกการใช้งานโทรศัพท์มือถือให้แตกต่างจากเดิม สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติม : เกร็ดความรู้ : สงสัยกันไหมว่า Siri มีที่มาที่ไปอย่างไร และเจ้าของเสียงนั้น เธอคือใครกัน..?

การมาของ iOS 7 ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์, ความไหลลื่น เป็นต้น โดยเผยโฉมในปีคริสต์ศักราช 2013

เข้าสู่ยุคใหม่ของ iPhone อย่างเต็มตัว จากเดิมที่เปิดตัวหนึ่งรุ่นก็จะมีสองรุ่นแทน เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานสองประเภทคือชอบแบบจอเล็กและจอใหญ่ โดยปี 2014 เผยโฉม iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus เปลี่ยนแปลงดีไซน์ รูปร่างหน้าตา อัพเกรดความแรง และเพิ่มความนิ่งในการถ่ายภาพมากขึ้นในรุ่นจอใหญ่ด้วยระบบ OIS (การป้องกันภาพสั่นไหว)

ในปัจจุบันก็เข้าสู่ยุคแห่งความบันเทิงเต็มตัว และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง เช่น ตัดพอร์ตรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ระบบกันนํ้ากันฝุ่น, ระบบเสียงสเตอริโอ, ปุ่มโฮมใหม่ เป็นต้น สามารถอ่านเรื่องราว : บทสรุปทุกเรื่องราวของ iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus และ iOS 10 สงสัยอะไรที่นี่มีคำตอบ

ส่วนเว็บไซต์ก็มีการแบ่งหมวดหมู่ชัดเจน เน้นรูปภาพมากกว่าตัวหนังสือ โดยมีเพียง Quotes สั้นๆ เปรียบเหมือนจุดขายสินค้า และหากมีข้อสงสัยใดทางแอปเปิ้ลก็ได้จัดทำคู่มือไว้ให้ศึกษาอย่างครบถ้วน


เปลี่ยนเฉดสีให้ตรงกับ Jet back

อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านวันเวลามาหลายรุ่นการนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ยังคงใช้คอนเซ็ปต์ของการอธิบายสินค้าด้วยรูปภาพเป็นส่วนใหญ่ จนถึงยุคในปัจจุบันที่แอปเปิ้ลนำทุกคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพที่โฟกัสเฉพาะมากขึ้นกับไฮไลท์ของสินค้า, ข้อความที่นอกจากดึงดูดและก็อธิบายการใช้งานสินค้าไปพร้อมกัน รวมถึงการโฆษณาด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ไปด้วยกัน นอกจากพวกเขายังเจาะกลุ่มตลาดด้วยการใช้ผู้คนในหลายๆ เชื้อชาติ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นนั่นเอง

หลังจากดูการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ ลำดับต่อไปมาดูเครื่องเล่นเพลงที่ใครหลายคนรู้จักอย่าง iPod นั้นมีอายุครบ 17 ปีแล้ว จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังเล็กน้อย

iPod รุ่นแรกเปิดตัวในปีคริสต์ศักราช 2001 ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นว่าในยุคนั้นความบันเทิงของเสียงเพลง มีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่วนดีไซน์ก็มีความกะทัดรัดสะดวกพกพา และดีไซน์อย่าง Scroll Wheel อันเป็นเอกลักษณ์

iPod ปี 2003 : รุ่นในดวงใจใครหลายคน โดยเปลี่ยนจากปุ่มกดมาเป็นแบบสัมผัสแทน และยังเป็นครั้งแรกที่ใช้พอร์ตแบบ 30 พิน  

 

iPod Shuffle : เครื่องเล่นเพลงที่มีดีไซน์ขนาดกะทัดรัดกว่าใครเพื่อนมีจุดประสงค์เพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะ เปิดตัวรุ่นแรกในปีคริสต์ศักราช 2005 วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ราคาถูกกว่ารุ่นอื่นๆ

iPod Mini : เดือนมกราคมปีคริสต์ศักราช 2004 แอปเปิ้ลได้เผยโฉมเครื่องเล่นเพลงดังกล่าว เป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม โดยมีไฮไลท์คือเป็นปุ่มแบบ Click Wheel ต่อมารุ่นที่สองก็ถูกเปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้น และในปีเดียวกันเดือนกันยายนทางแบรนด์ตัดสินใจเลิกวางจำหน่าย และก็ถูกแทนที่ด้วย iPod Nano แทน

iPod Nano : เลือกเล่นเพลง, ดูรูปถ่ายหรือวิดีโอบนหน้าจอขนาดกว้าง 2.5 นิ้ว รูปลักษณ์ใหม่และเฉดสีใหม่ เพื่อเข้ากับยุคไลฟ์สไตล์ของแฟชั่น โดยเปิดตัวครั้งแรกในปีคริสต์ศักราช 2005 กับความบางแค่เพียง 0.3 นิ้ว

iPod Touch เปิดตัวครั้งแรกในปีคริสต์ศักราช 2007 โดยมีรูปร่างหน้าตาคล้าย iPhone มีระบบปฏิบัติการ iOS เป็นหัวใจในการขับเคลื่อน ซึ่งปัจจุบันก็เดินมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว

ต่อจากนั้นมาก็มีทั้งการหยุดวางจำหน่าย iPod ไปหลายรุ่น ทว่าความเซอร์ไพร์สที่น่าสนใจคือทางแอปเปิ้ลได้เผยโฉม iPod touch ใหม่ที่มาพร้อมขุมพลัง ความสามารถ และการสื่อสารที่เยี่ยมยิ่งกว่าเดิมในราคาแสนประหยัด ชิปเซ็ต A10 Fusion ออกแบบโดย Apple ยกระดับการเล่นเกมไปอีกขั้น และยังเป็นครั้งแรกที่ iPod มาพร้อมประสบการณ์ความจริงเสริม (AR) อันสมจริงและ Group FaceTime ที่จะทำให้การพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานหลายคนพร้อมกัน

จบลงแล้วสำหรับการหยิบยกเรื่องราวของแอปเปิ้ลมาเล่าสู่กันฟัง สามารถอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง....

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่