เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 3 พฤศจิกายน 2559
จากผลการสำรวจฉบับล่าสุดของวีซ่า พบว่า คนไทยให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากกว่าความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชำระเงินด้วยบัตรแบบไร้สัมผัส (contactless card) หรือ โมบาย วอลเล็ต (mobile wallet) และมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้วิธีชำระเงินผ่านระบบไร้สัมผัสมากขึ้นเมื่อพวกเขามั่นใจว่ามีมาตราการรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับที่สูงมากพอ
การศึกษาเรื่องวิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและกระเป๋าสตางค์ดิจิตอล (digital wallet) ของวีซ่านั้น พบว่าคนไทยส่วนมาก (82%) เชื่อว่าความปลอดภัยมีความสำคัญมากกว่าความสะดวกสบายเมื่อนึกถึงการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือระบบไร้สัมผัส ด้วยการเติบโตอันรวดเร็วในด้านเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ ฟินเทค (FinTech) ที่ภาครัฐบาลและเอกชนกำลังใช้แนวทางต่างๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะเมื่อมีการทำธุรกรรมทางเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
คนไทยใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆอย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตประมาณ 160 นาทีต่อวัน ซึ่งภายในสิ้นปี พ.ศ. 2559 นี้ คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนประมาณ 20 ล้านคนในประเทศไทยและคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 24.5 ล้านคนภายในปี พ.ศ. 2562 แม้ว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและการเป็นเจ้าของอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับคนไทยอยู่ในอัตราที่สูง แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับบริการทางการเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ยังค่อยเป็นค่อยไป โดยส่วนหนึ่งเกิดจากผู้บริโภคชาวไทยยังไม่ตระหนักถึงความก้าวหน้าของความปลอดภัยในโลกออนไลน์และเทคโนโลยีเท่าที่ควร
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เมื่อดูจากผลสำรวจของเราแล้ว พบว่า ยิ่งระบบการชำระเงินผ่านมือถือมีความปลอดภัยมาก คนไทยก็จะมีความเชื่อมั่นและเต็มใจที่จะชำระเงินผ่านระบบดังกล่าวมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นด้วยระบบความปลอดภัยทางการเงินที่แน่นหนาหลายชั้นของวีซ่า เราจึงมั่นใจว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มจำนวนการทำธุรกรรมผ่านมือถือในการประเทศไทยได้อย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ รายงานการศึกษาที่จัดทำโดย ยูโกฟ (YouGov) ในนามของวีซ่า ถึง ทัศนคติของคนไทย ควบคู่ไปกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง สิงคโปร์และมาเลเซีย ต่อการทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือและระบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) ยังพบว่า สิ่งที่คนในกลุ่มประเทศนี้โดยเฉพาะในประเทศไทยยังกลัวมากที่สุดในการชำระเงินด้วย mobile wallet คือ กลัวว่าจะมีการแฮ็คมือถือมากถึง 73% ถูกขโมยโทรศัพท์มือถือ 65% และกลัวว่าจะถูกเรียกเก็บเงินจากรายการที่ไม่ต้องการจะจ่ายอีก 63%
“ในจำนวนผู้ทำแบบสอบถามทั้งหมด พบว่า มีเพียง 39% เท่านั้นที่เลือกพิจารณาการใช้ mobile wallet จากเครือข่ายบุคคลที่สาม ซึ่งในกลุ่มที่พิจารณาใช้นี้ พบว่ากว่า 74% ทราบว่า encrypted token หรือ ‘โทเค็น’ นวัตกรรมรหัสล็อคข้อมูลซึ่งสามารถตัดความเสี่ยงของการโดนโจรกรรมข้อมูลได้” นายสุริพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม
บริการ Visa Token Service (VTS) ถูกออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าวีซ่ามั่นใจได้ว่าการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless payment) และบนสมาร์ทโฟนนั้นทั้งปลอดภัยและง่ายต่อการใช้งาน ระบบ VTS นั้นจะใช้รหัส โทเค็นแบบใช้ครั้งเดียวในการชำระเงินแทนข้อมูลของผู้ถือบัตร ฉะนั้นผู้ใช้ mobile wallet จึงสามารถชำระเงินได้โดยไม่จำเป็นต้องเผยรายละเอียดของบัญชีและเลขหน้าบัตร 16 หลัก หรือวันหมดอายุของบัตร เป็นต้น
กระบวนการแปลงข้อมูลแบบให้เป็น โทเค็น นี้เรียกว่า Tokenization ซึ่งจะทำหน้าที่ซ่อนข้อมูลที่สำคัญของผู้บริโภคในระหว่างการทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิตอล เมื่ออาชญากรขโมยโทเค็นไปก็ไม่สามรถนำข้อมูลไปใช้ได้จากผลการสำรวจเผยให้เห็นว่าคนไทยประมาณ 55% คุ้นเคยกับรูปแบบการบริการ VTS เป็นอย่างดี ในขณะที่กลุ่มที่รับรู้สูงที่สุดในหมู่คนเหล่านี้ยังคุ้นเคยกับเทคโนโลยีในรูปแบบ mobile wallet อีกด้วย
คนไทยเกือบครึ่ง (46%) เชื่อว่าการชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพานั้นปลอดภัยเทียบเท่ากับการชำระเงินผ่านบัตรโดยตรง และมีแนวโน้มว่าตัวเลขนี้จะสูงขึ้นในอนาคตเพราะคนเริ่มคุ้นเคยกับระบบการชำระเงินผ่าน มือถือที่มีความก้าวหน้าและทันสมัยของวีซ่า
นอกจากนี้คนไทยสามในห้า (61%) เชื่อว่าในวันหนึ่งข้างหน้าพวกเขาไม่จำเป็นต้องพกเงินสดหรือบัตรพลาสติกในการใช้ชีวิตประจำวันอีกต่อไป และจะถูกแทนที่ด้วยการชำระเงินในรูปแบบ mobile wallet ผ่านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่ของพวกเขา
“เมื่อคนไทยเริ่มคุ้นเคยกับมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างนวัตกรรมโทเค็นของวีซ่า เมื่อนั้นพวกเขาจะเริ่มเห็นเรื่องการชำระเงินผ่านโทรศัพท์หรือการชำระเงินแบบไร้สัมผัสเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของพวกเขามากยิ่งขึ้น” คุณสุริพงษ์ กล่าวปิดท้าย
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.visa.co.th วันที่ : 3 พฤศจิกายน 2559
Google รีแบรนด์ Fitbit อีกครั้ง! เปลี่ยนชื่อใหม่ โลโก้ใหม่ และรวมเข้ากับ Google Store
RAM LPDDR6 เทคโนโลยีใหม่เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ AI บนสมาร์ทโฟน
Snapdragon 8s Gen 3 ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด เน้น AI ประสิทธิภาพแรง ไล่บี้รุ่นเรือธง
สแกนเอกสารง่าย ๆ บนสมาร์ทโฟน กับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Files by Google
สมาร์ทโฟน Samsung รุ่นเก่า เตรียมอัพเดท One UI 6.1 พร้อมฟีเจอร์ Galaxy AI สุดล้ำ!
INSTAX mini 99 กล้องอินสแตนท์สุดล้ำ เปลี่ยนฟิลเตอร์ได้โดยไม่ต้องพึ่งระบบดิจิทัล
เตรียมเปิดตัว vivo X Fold 3 Series สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก 26 มีนาคมนี้
แตกต่างอย่างไร! Samsung Galaxy A55 5G vs Samsung Galaxy A35 5G ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท
Itel Icon 2 สมาร์ทวอทช์จอ 1.83 นิ้ว รองรับโทรผ่าน Bluetooth มีโหมดกีฬาให้ใช้ 100+ โหมด
realme 12x สมาร์ทโฟนชิปเซ็ต Dimensity 6100+ จอใหญ่ 6.67 นิ้ว รีเฟรช 120Hz
Moto G Power 5G (2024) และ Moto G 5G (2024) ปรับกล้องใหม่ ใช้ชิปเซ็ตแรงขึ้น
เปิดตัวแล้วแบบเงียบๆ Samsung Galaxy Tab S6 Lite (2024)7 ชั่วโมงที่แล้ว
vivo Pad 3 Pro หน้าจอคมชัด 3.1K ชิปเซ็ต Dimensity 9300 แบตฯ 11500mAh9 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR X7b กล้องหลัง 108MP จอใหญ่ แบตใหญ่พิเศษ 6000mAh11 ชั่วโมงที่แล้ว