ซอฟต์แวร์ (Software) | วันที่ : 22 มีนาคม 2560
Google ได้ปล่อยอัพเดท Android O Deverloper Preview ให้นักพัฒนาดาวน์โหลดไปใช้งานแล้ววันนี้ ก่อนจะปล่อยอัพเดท Android O เวอร์ชั่นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปในไตรมาสที่สาม เราไปดูกันว่าฟีเจอร์ใหม่บนแพลตฟอร์มบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของ Google มีอะไรน่าสนใจบ้างในมุมมองนักพัฒนา
Android O - all the new features
1. การจำกัดการทำงานเบื้องหลัง
นอกจากการปรับปรุงโหมดการทำงาน Doze และ Doze on the Go ซึ่งถูกปล่อยออกมาใน Android Marshmallow และ Android Nougat ตามลำดับแล้ว ใน Android O มีการเพิ่มฟีเจอร์ Background Execution limits โดยเพิ่มระดับข้อยกเว้นการเรียกใช้งาน จำกัดบริการของแอพที่อยู่ในสถานะว่าง (idle) ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังและเมื่อพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง (location) ระบบถึงจะส่งข้อมูลให้กับแอพที่ทำงานเบื้องหลังเพื่อให้ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น
2. การแจ้งเตือนที่ให้อิสระต่อผู้ใช้งานมากขึ้น
Google ไม่เคยหยุดปรับปรุงการแจ้งเตือนบน Android และนั่นเป็นสิ่งที่ดี! ใน Android O มีการเพิ่มฟีเจอร์ Notification Channels เข้ามาเพื่อให้นักพัฒนาสามารถใส่ตัวเลือกรูปแบบการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานตั้งค่าได้เอง ตัวอย่างเช่น แอพแชท สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนของห้องแชทในแต่ละกลุ่มได้หลากหลายแบบเพื่อแยกประเภทการแจ้งเตือนที่เข้ามา โดยมีคุณลักษณะการแจ้งเตือนที่กำหนดได้ดังต่อไปนี้
- ระดับความสำคัญ
- เสียง
- ไฟ
- การสั่น
- แสดงบนหน้าจอล็อค
- แทรกแซงโหมดห้ามรบกวน
ตัวอย่างในภาพประกอบเป็นแอพข่าว ผู้ใช้งานสามารถปิดการแจ้งเตือนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีได้ในขณะที่การแจ้งเตือนข่าวที่มีเนื้อหาอื่นๆ ยังคงทำงานตามปกติ
3. ป้อนข้อมูลหรือรหัสผ่านเข้าสู่ระบบต่างๆ แบบอัตโนมัติ (Autofill APIs)
Android O จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานเลือกแอพช่วยป้อนข้อมูลอัตโนมัติ (autofill app) เพื่อเข้าสู่ระบบต่างๆ ได้แบบเดียวกับการพิมพ์หรือกรอกข้อมูลซ้ำๆ โดยทำงานคล้ายกับแอพช่วยจัดการรหัสผ่าน ซึ่งฟังก์ชั่นนี้จะต้องให้นักพัฒนาแอพเป็นผู้ติดตั้งถึงจะเรียกใช้งานได้ ข้อดีก็คือช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัด
เวลาในการกรอกข้อมูลหรือรหัสผ่าน
4. โหมดภาพซ้อนภาพ (Picture In Picture mode : PIP)
การแบ่งส่วนหน้าจอเพื่อทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันไม่ใช่เรื่องใหม่ของ Android แต่ Google ก็ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ PIP ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งหน้าจอเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับชมวิดีโอไปพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับผู้อื่นในเวลาเดียวกันแบบต่อเนื่องและสามารถควบคุมการทำงานของแอพในโหมด PIP ได้ว่าจะให้หยุดหรือเล่นต่อรวมถึงสามารถกำหนดอัตราส่วนของหน้าต่างการแสดงผลได้
5. จัดการแบบอักษรได้มากกว่าที่เคย
นักพัฒนาสามารถใช้แบบอักษรที่มีอยู่ในระบบและอัพโหลดไฟล์แบบอักษรหรือฟอนต์เพิ่มเติมด้วยโครงสร้างภาษา XML
6. Adaptive icons
Android O อนุญาตให้ใช้งานไอคอนแบบปรับแต่งได้ (Adaptive icons) เพื่อให้อินเทอร์เฟสบนโทรศัพท์สวยงามขึ้น โดยรองรับภาพเคลื่อนไหวเมื่อมีการโต้ตอบกับไอคอน ระบบสามารถแสดงภาพ
ไอคอนในรูปแบบที่แตกต่างกันตามแต่รุ่นของอุปกรณ์
7. ช่วงสีสำหรับแอพกว้างขึ้น
Android O สนับสนุนโปรไฟล์สี DCI-P3, AdobeRGB และ Pro Photo RGB เพื่อรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่จอแสดงผลมีช่วงสีกว้าง
8. การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น
Android O สนับสนุนการแปลงสัญญาณเสียง Hi-Fi audio ผ่าน Bluetooth ซึ่งหนึ่งในการเข้ารหัสที่นิยมใช้กันมากก็คือ Sony LDAC นอกเหนือจากนั้นยังมีฟีเจอร์ Wi-Fi Aware หรือ Neighbor
Awareness Networking (NAN) เพื่อให้อุปกรณ์สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆ ใกล้เคียงผ่านทาง Wi -Fi แม้จะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในเวลานั้น
9. แป้นพิมพ์ที่เดาคำเก่งขึ้น
แป้นพิมพ์บน Android O จะมาพร้อมกับการคาดเดาคำล่วงหน้าที่ดีขึ้นพร้อมกับการปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้งานแถบควบคุมทิศทางและแถบการเดาคำรูปแบบใหม่
10. Audio API for Pro Audio
Android O มีโค้ดที่พัฒนาโดยใช้ภาษาหลักของแพลตฟอร์มซึ่งช่วยให้แอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่งสามารถเล่นเสียงคุณภาพสูงและมีความล่าช้าต่ำ
11. การปรับปรุง WebView
แอพเบราว์เซอร์จะเป็นตัวจัดการเนื้อหาคอนเทนต์บนเบราว์เซอร์แบบหลายขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพการทำงานที่ดีขึ้น โดยมีส่วนเชื่อมต่อกับ WebView ซึ่งดูแลเรื่องของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
12. Java 8 language APIs and runtime optimization
นอกจากสนับสนุน Java Languages APIs เวอร์ชั่นใหม่แล้วยังมีรายงานว่าใช้เวลาในการ runtime เร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่าด้วย
ที่มา : PhoneArena
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : developer.android.com วันที่ : 22 มีนาคม 2560
Google Messages อัปเดตใหม่! ฝัง Gemini AI คุยโต้ตอบได้เหมือน AI Chatbot โดยไม่ต้องโหลดแอปฯ เพิ่ม
Google เปิดตัว Gemini 1.5 Pro โมเดล AI ล้ำสมัย รองรับอินพุต 1 ล้านโทเคน สูงสุดในบรรดา LLM!
Google เปิดตัว Find My Device เวอร์ชันใหม่ ค้นหาอุปกรณ์ Android ได้แม้ปิดเครื่องหรือไม่มีเน็ต!
HONOR X7b 5G ขยับใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6020 จุใจด้วยกล้องระดับ 108MP
moto Buds และ moto Buds+ หูฟังไร้สายดีไซน์มินิมอล ราคาสบายกระเป๋า มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC
vivo Y100 5G หน้าจอ 120Hz ชิป Snapdragon 4 Gen 2 กล้องคมชัด 50MP
OPPO Find X7 series เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้คลื่นความถี่ 5.5G!!!
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น
vivo TWS 4 หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ANC ใช้นานสุดได้ถึง 11 ชั่วโมง
เตรียมเปิดตัว realme GT Neo6 SE สมาร์ทโฟนชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 เครื่องแรกของ realme
HONOR X7b 5G ขยับใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6020 จุใจด้วยกล้องระดับ 108MP2 ชั่วโมงที่แล้ว
HUAWEI nova 12 Series สมาร์ทโฟนกล้องสวยระดับ Hi-res แชะชัดทุกชอต8 ชั่วโมงที่แล้ว
CASETiFY คอลเลกชั่นใหม่ Essentials by CASETiFY น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้18 ชั่วโมงที่แล้ว