เปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปแล้ว สำหรับ Galaxy S8 & Galaxy S8+ สองพี่น้องที่ถูกจับตามองมากที่สุด เชื่อว่าหลายคนอาจก็กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะนำมาไว้ครอบครองในอ้อมกอดดีหรือไม่ ดังนั้นทีมงาน Siamphone.com จึงได้รวบรวมข้อมูลครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นจุดเด่น, สเปก, ข้อแตกต่างหรือแม้รายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องรู้ เพราะฉะนั้นก่อนซื้อต้องรู้จะได้ตัดสินใจถูก มาเริ่มกันเลย!
Samsung Galaxy S8 & Galaxy S8+ มีจุดเด่นอะไรบ้าง
1. สวยงามและแข็งแรง : ต้องบอกว่าครั้งนี้ซัมซุงพิถีพิถันในการออกแบบมากขึ้น โดยตัวเครื่องถูกดีไซน์ให้มีควาสมมาตร เนื่องจากตัวเครื่องก็มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นส่งผลให้มีขนาดตัวเครื่องเพิ่มตาม แต่ไม่ได้ทำให้จับถือลำบาก เพราะจะสอดรับกับฝ่ามือของเราอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ด้านหน้าด้านหลังยังครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่พิสูจน์แล้วป้องรอยขีดข่วนได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า
2. หน้าจอใหญ่กับความละเอียดเพิ่มขึ้น : กลายเป็นว่าไฮไลท์ของคู่หู่ดังกล่าวอยู่ที่หน้าจอไปเลย ทางแบรนด์เรียกคอนเซ็ปต์ว่า "Infinity Display" กล่าวคือหน้าจอไร้ขอบไร้กรอบมีอัตราส่วน 18.5:9 พื้นที่เหนือหน้าจอและใต้หน้าจอมีขนาดลดลงส่งผลให้มีความรู้สึกชมคอนเทนต์เต็มตามมากยิ่งขึ้นไร้สิ่งบดบัง นอกจากนี้ยังมาพร้อมความละเอียด 2960 × 1440 พิกเซลหรือ Quad HD+ อย่างไรก็ตามเราสามารถปรับความละเอียดการแสดงผลได้ เพื่อประหยัดแบตฯ เป็นระดับ FullHD+ (2220 x 1080 พิกเซล) อีกทั้งรองรับการแสดงผล HDR ดังนั้นจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเต็มอิ่ม
อย่างที่เกริ่นข้างต้นอัตราส่วนหน้าจอเปลี่ยนไปคือ 18.5:9 นั่นหมายความว่าหน้าจอมีความสูงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การเล่นเว็บไซต์สะดวกยิ่งขึ้น กล่าวคือไม่ต้องเลื่อนขึ้นเลื่อนลงบ่อยนั่นเอง
3. ไร้ปุ่ม Home แต่มีปุ่มใหม่เพิ่ม : เชื่อว่าหลายคนคงดีใจกันที่โลโก้ Samsung ถูกนำออกไปแล้ว ทว่าปุ่มควบคุมทางกายภาพก็ถือเป็นประเด็นน่าสนใจเลยทีเดียวเนื่องจากย้ายไปไว้ในหน้าจอแล้ว ซึ่งตามแบบฉบับแอนดรอยด์เลย มี 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มแอพฯ ล่าสุด, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ความพิเศษคือปุ่มโฮมจะสามารถรับรู้แรงกดได้ทางแบรนด์เคลมว่าตอบสนองดีกว่าแบรนด์ผลไม้ด้วย นอกจากนี้ฝั่งซ้ายตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มเติมคือ ปุ่มเรียกการใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะนามว่า Bixby
4. Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะความท้าทายใหม่ของ Samsung : เราสามารถเรียกใช้งานผู้ช่วยได้ทั้งแบบกดปุ่มหรือแค่พูดว่า "Bixby" โดยจะเริ่มต้นการทำงานทันที บื้องต้นระบบ AI ดังกล่าวเป็นเพียงจุดเริ่มต้นจึงใช้งานได้ไม่กี่แอพฯ อาทิ แอพฯ ของ Samsung, การโทร, ข้อความ, การตั้งค่า, กล้อง, แจ้งเตือน, รายชื่อผู้ติดต่อ, คลังภาพ และถ้าต้องการหาข้อมูลใดจากภาพผู้ช่วยเราก็จะทำการค้นหาทันที ทั้งสามารถอ่าน QR Code ได้โดยไม่พึ่งแอพฯ อื่นด้วย นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังเรียนรู้ปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมผู้ใช้งาน เพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น
ทำความรู้จัก Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวที่มาพร้อมความอัจฉริยะ
อย่างที่เกริ่นข้างต้นทาง Samsung ได้เพิ่มปุ่มกดเพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวนี้ขึ้นมาฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง โดยความสามารถแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อหลัก ได้แก่
5. สแกนม่านตาพร้อมระบบตรวจจับใบหน้า : หลังเปิดตัวเทคโนโลยีนี้ใน Galaxy Note 7 ก็หยิบมาใช้กับสองพี่น้องคู่นี้ด้วยพร้อมพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม ทั้งมีความแม่นยำสามารถสแกนในพื้นที่สภาวะแสงน้อยได้ไรปัญหารวมถึงการใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์
6. หน่วยประมวลผลเร็วแรง พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 2.1 : เปิดตัวออกมาอย่างเรียบร้อยแล้วและก็เป็นตามคาดว่ามาพร้อม Snapdragon 835 & Samsung Exynos 8895 โดยจุดน่าสนใจคือการมีพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 2.1 จึงมีประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูลดีกว่ารุ่นทั่วไป
7. Bluetooth 5.0 : ค่อนข้างเงียบพอสมควรเลยในประเด็นนี้ แต่ด้วยมาตรฐานนี้จะช่วยให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ตอบโจทย์การทำงานร่วมกับ Smart Home ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ จะมีความหน่วงลดลง
8. การเชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูงระดับ Gigabit : มีผลทดสอบออกมาทันทีเลยโดยผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาทำการทดสอบซึ่งความเร็วการดาวน์โหลดและอัพโหลดเกือบระดับดังกล่าว เนื่องจากมีเทคโนโลยีเชื่อมต่อ LTE Category 16
9. ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรยังอยู่ ที่พิเศษคือแถมหูฟัง AKG ภายในกล่อง : ขณะที่ใครต่อใครต่างละทิ้งฟังก์ชั่นนี้ แต่ Samsung เห็นต่างโดยคิดว่าสมาร์ทโฟนของพวกเขานั้นถูกออกแบบเพื่อความบันเทิงเต็ม ดังนั้นจึงเพิ่มความน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการแถมหูฟังมาตรฐาน AKG มูลค่ากว่า $100 หรือ 3,4xx บาท
10. กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มีซอฟต์แวร์ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ : ไม่เฉพาะแค่กล้องหน้าที่มีโหมดนี้กล้องด้านหลังก็มี อย่างไรก็ตามจะสามารถเซลฟี่ได้อย่างแม่นยำด้วยระบบออโต้โฟกัสพร้อมเทคโนโลยี
11. มาตรฐานกันนํ้ากันฝุ่นมาตรฐาน IP68 : ถึงแม้จะปลอดภัยด้วยมาตรฐานแต่ว่ายังมีเงื่อนไขอยู่ดี ดังนั้นก่อนนำไปใช้งานใต้นํ้าควรพิจารณาถึงกฏเกณฑ์ให้ดีเสียก่อน โดยทางแบรนด์เน้นเฉพาะป้องกันอุบัติเหตุไม่คาดคิดเท่านั้น
12. กล้องหลังไม่มีอะไรว้าว แค่ปรับปรุงซอฟต์แวร์ : อย่างที่เกริ่นข้างต้นไม่มีการยกเสปกใหม่ ทว่าได้ปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ประมวลผลภาพดียิ่งขึ้น ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า enhanced image processing โดยเมื่อกดชัตเตอร์จะทำการถ่ายภาพไว้ 3 ภาพพร้อมกันจากนั้นรวมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ภาพที่ดีที่สุด นอกจากนี้เลนส์กล้องก็จะไม่ยื่นนูนออกมาด้วย
13. เหล่าอุปกรณ์เสริมเพิ่มความบันเทิง : เพราะความสนุกไม่ได้อยู่แค่บนสมาร์ทโฟน....
ทำความรู้จัก Samsung Dex คืออะไร มีดีอย่างไร
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเลยจะเรียกว่าแปลกก็ไม่ผิด หากคาดการณ์อาจเพราะไม่ใช่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงเท่านั้น แต่ต้องการตอบสนองผู้ใช้งานกลุ่มองค์กรมากขึ้นจึงเปิดตัวอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้น
สำหรับสเปกมีดังนี้ พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-Type C มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Adaptive Fast Charging หมายความว่าใช้งานพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วย เพื่อเสียบเข้ากับ Galaxy S8 & S8+ ด้านหลังมีพอร์ต USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ตสำหรับเสียบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด, พอร์ต HDMI ส่งภาพขึ้นจอคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์, พอร์ต Ethernet เสียบสาย Lan นอกจากนี้ แท่นวาง Samsung DeX มีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม
ส่วนประเด็นการใช้งานทางแบรนด์เคลมว่าได้ร่วมมือกันพัฒนากับพาร์ทเนอร์ Microsoft & Adobe เพื่อพัฒนาให้ Microsoft Office กับแอพฯ ของ Adobe อาทิ Adobe Acrobat Reader, Lightroom ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพบนหน้าจอ Destop และก็ยังรอบรับซอฟต์แวร์ประเภท Virtual desktops อาทิ Citrix, VMware และ Amazon Web Services
ข้อที่ต้องพิจารณาเพิ่มของ Galaxy S8 & Galaxy S8+
1. หน้าจอที่ใหญ่อาจมีปัญหาในการจับถือสำหรับบางคน : หลายคนชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 5 นิ้ว - 5.5 นิ้ว เป็นส่วนใหญ่ ทว่าคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการชมคอนเทนต์วิดีโออาจดูขัดหูขัดตาไปเสียหน่อย ดังนั้นถ้าขยับขึ้นมาเล่นสองพี่น้องนี้ปัญหาแรก คือต้องลองเล่นและทำความคุ้นเคย เพราะการจับถือจะเป็นอุปสรรคได้
2. ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะถาดซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid : เป็นอีกหนึ่งสำคัญเลยที่หลายคนบอกน่าเสียดาย เพราะแยกกันจะเป็นสมาร์ทโฟนสมบูรณ์แบบมากขึ้น ส่วนประเภทซิมการ์ดเป็นแบบ Nano SIM
3. BixBy รองรับภาษาอังกฤษแบบ US, เกาหลี, ภาษาจีน : ภาษาไทยเป็นอุปสรรคแน่นอนคงต้องรอการอัปเดตต่อไป
4. แบตฯ เพียงพอหรือไม่ : ด้วยสเปก, ฟีเจอร์, หน้าจอแสดงผล และปัจจัยหลายๆ อย่างเหมือนว่าจะอาจเป็นปัญหาได้ เพราะแบตฯ ที่น้อยนิดเกินไป คาดการณ์ได้ว่าอาจเกรงปัญหาซํ้าสองก็จึงเลือกขนาดความจุที่สอดคล้องกับดีไซน์ แต่ทางแบรนด์ก็ชดเชยด้วยการมีคุณสมบัติชาร์จเร็วและการชาร์จไร้สาย
5. การติดฟิลม์หรือกระจกกันรอย
อาจต้องรอดูว่าผู้ผลิตฟิลม์หรือกระจกกันรอยจะทำออกมาเฉพาะรุ่นหรือไม่ซึ่งไม่ติดสุ่มเสี่ยงมากกว่า แต่ถ้าติดก็อุ่นใจเพิ่มขึ้นมาเหมือนกัน ทว่าบริเวรณขอบโค้งจะมีปัญหาได้
สรุปสเปกของ Galaxy S8 & Galaxy S8+ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Galaxy S8 | Galaxy S8+ | |
ขนาดตัวเครื่อง | 148.9 x 68.1 x 8.0 มม. | 159.5 x 73.4 x 8.1 มม. |
นํ้าหนัก | 155 กรัม | 173 กรัม |
ระบบปฏิบัติการ | Android 7.0 (Nougat) ครอบทับ Samsung experience | Android 7.0 (Nougat) ครอบทับ Samsung experience |
หน้าจอ | Super AMOLED กว้าง 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล มีความหนาแน่นพิกเซล 570 ppi มี Always ON Display | Super AMOLED กว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล มีความหนาแน่นพิกเซล 529 ppi มี Always ON Display |
หน่วยประมวลผล | Snapdragon 835 / Exynos 8895 | Snapdragon 835 / Exynos 8895 |
GPU | Adreno 540 / Mali-G71 MP20 | Adreno 540 / Mali-G71 MP20 |
Ram | LPDDR4 : 4GB | LPDDR4 : 4GB |
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน | 64GB (UFS 2.1) รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB | 64GB (UFS 2.1) รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB |
ระบบเชื่อมต่อ |
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, ANT+, USB Type-C, NFC, GPS, Galileo, Glonass, BeiDou |
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, ANT+, USB Type-C, NFC, GPS, Galileo, Glonass, BeiDou |
กล้องหลัง | Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/1.7 จุดพิกเซลขนาด 1.4µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55 นิ้ว รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K (พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว VDIS) | Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/1.7 จุดพิกเซลขนาด 1.4µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55 นิ้ว รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K (พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว VDIS) |
กล้องหน้า | ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส มีรูรับแสงกว้าง f/1.7 จุดพิกเซลขนาด 1.22µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.6 นิ้ว มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 80 องศา | ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส มีรูรับแสงกว้าง f/1.7 จุดพิกเซลขนาด 1.22µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.6 นิ้ว มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 80 องศา |
แบตเตอรี่ | 3000mAh | 3500mAh |
ความแตกต่างของทั้งสองรุ่นคืออะไร
จะเป็นในเรื่องของสเปกล้วนๆ ฟีเจอร์หรือฟังก์ชั่นต่างๆ เหมือนกัน โดยข้อแตกต่างคือขนาดหน้าจอและแบตเตอรี่นั่นเอง
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 31 มีนาคม 2560
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
Samsung Galaxy S25 Slim สุดยอดกล้องระดับไฮเอนด์ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ
Samsung Galaxy A16 จอ FHD+ Super AMOLED ใหญ่ชัดเสมือนจริง กล้อง Triple camera แบตยาวนานขึ้น
Samsung Galaxy S25 Ultra มาแน่! พร้อมตัวเลือกสีสุดอลังการถึง 7 เฉด
Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนพับรุ่นพิเศษ Galaxy W25 และ W25 Flip ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมียมใ...
ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A16 5G อัปเดต OS นาน 6 ปี นานที่สุดที่เคยมีมา เคาะราคาไทยแล้ว!
Blackview Active 10 Pro มาแล้ว! แท็บเล็ต 5G แบตฯ อึด กล้องเทพ ลดแรงแค่ 7 วันเท่านั้น!
ทำความรู้จัก TECNO SPARK 30C หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP54 ลำโพงสเตอริโอ มีชาร์จเร็ว
OPPO Reno 13 Series ชิปเซ็ต Dimensity 8350 กันน้ำกันฝุ่น IP69 และชาร์จเร็ว 80W!
HMD Fusion สมาร์ทโฟนที่สามารถปรับแต่งและซ่อมเองได้ด้วยมือคุณ!
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra