สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 10 พฤษภาคม 2560
กำหนดการวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Samsung Galaxy C9 Pro ที่ผนึกกำลังความแรงด้วย RAM 6GB มีกำหนดการเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ณ Samsung Brand Shop ในราคา 16,900 บาท ส่วนทางด้านสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ OPPO R9 Plus ที่มาพร้อมจุดเด่นการเซลฟี่ ในราคา 16,990 บาท เพราะฉะนั้นต้องจับตามองเนื่องจากทั้งคู่มีสเปกรวมถึงฟีเจอร์เด่นน่าสนใจในราคาที่จับต้องได้ เมื่อเทียบราคากันก็ต่างเพียง 90 บาท ดังนั้นจึงขอหยิบยกนำทั้งสองมาเปรียบเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ มาเริ่มกันเลย!
ทั้งสองเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อใด
ฝั่ง Samsung Galaxy C9 Pro ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ที่เปิดตัวในประเทศจีน โดยที่ไม่มีข่าวว่าซีรี่ย์ดังกล่าวจะมีการนำเข้ามาวางจำหน่าย ล่าสุดในเดือน พ.ค. 2560 ก็พร้อมวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ
OPPO R9s Plus เปิดตัวช่วงวันที่ 20 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับซัมซุง และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งชูจุดเด่นกล้องหน้า-กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบชาร์จ VOOC Flash Charge และหากใครยังสงสัยว่ารุ่นต่อไปที่ออปโป้เข้ามาวางจำหน่ายคือรุ่นใดคำตอบคือ F3 & F3 Plus ที่มีแนวโน้มสูงว่าจะให้จับจองทั้งคู่ซึ่งราคาอาจต่างกัน 1,000 - 1,500 บาท
จุดเด่นของแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร
OPPO R9s Plus ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ตัวเครื่องมีความสวยงามด้วยบอดี้โลหะแบบไร้รอยต่อ พร้อมสายสัญญาณแบบ Ultra-fine สามารถเพิ่มประสิทธิภาพจับสัญญาณ Wi-Fi & 4G ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือปรับปรุงให้มีความรวดเร็วแม่นยำยิ่งขึ้น โดยกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซอฟต์แวร์แต่งผิว Beautify 4.0 ขณะที่กล้องหลังก็รองรับบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K
สำหรับตัวเครื่องออกแบบให้มีความสวยงามเป็นหนึ่งเดียวกลมกลืนกันระหว่างตัวเครื่องและเส้นสายสัญญาณ ทำให้มองดูภาพรวมแล้วมีความสวยงามสบายตา มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม โดยช่องใส่ซิมการ์ด (NanoSIM) และช่อง MicroSD Card แยกออกจากกันทำให้ไม่ต้องเลือกใช้งาน อีกทั้งยังมีระบบเล่นเกม Game Launcher เพิ่มความสนุกมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีลำโพงคู่ให้เสียงระดับ Ultra High Quality Audio (UHQA) และกล้องหน้าหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 กับระบบการเชื่อมต่อที่ครบครัน อาทิ NFC, Bluetooth 4.2, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4+5GHz, USB Type-C, Wi-Fi Direct, GPS, Glonass, กับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านดีไซน์
ต้องบอกว่าทั้งสองรุ่นมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์หรือปุ่มควบคุม ซึ่งฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่มเสียง/ลดเสียง ด้านขวาตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power ถัดมาช่องใส่ซิมการ์ด ทว่าออปโป้ต้องเลือกเพราะเป็น Hybrid ฝั่งซัมซุงสามารถใส่ได้พร้อมกันไม่ต้องเลือก ขณะที่ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลำโพง, รูไมโครโฟนสนทนา และพอร์ต USB Type-C (Samsung Galaxy C9 Pro) ส่วนฝั่ง OPPO R9s Plus แบบ Micro USB
ด้านระบบปฏิบัติการ
ทั้งสองรันแพลตฟอร์มแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 โดยต่างครอบทับส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (UI) ของตนเอง ซึ่งก็จะมีรูปแบบและลูกเล่นแตกต่างกันไป ทว่าหากถามถึงการอัปเดทเวอร์ชั่น Nougat ฝั่งซัมซุงอาจมีภาษีที่ดีกว่า เนื่องจากมีประวัติ Update ให้เหล่าสมาร์ทโฟน
ด้านหน้าจอ
ใครที่ชื่นชอบหน้าจอใหญ่ๆ แบบนี้ทั้งสองรุ่นเป็นตัวเลือกน่าสนใจเลยเนื่องจากมาพร้อมหน้าจอขนาดกว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด FullHD เหมือนกัน แตกต่างกันตรงที่เทคโนโลยีหน้าจอ โดยฝั่งออปโป้จะเป็นแบบ IPS ส่วนซัมซุงใช้ Super AMOLED ซึ่งมีข้อดีเรื่องการแสดงผลของเฉดสี อย่างไรก็ตามทั้งคู่จะครอบทับด้วยกระจกอีกชั้นหนึ่ง สำหรับ OPPO R9s Plus เป็น Gorilla Glass 5 ทางซัมซุงนั้นใช้เวอร์ชั่น 4 เท่านั้น (อ้างอิง corning.com)
ด้านหลังอย่างที่เกริ่นข้างต้นแทบไม่แตกต่างกันเลย โดยจะเป็นโลหะทั้งหมดไม่มีกระจกใดๆ ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องลายนิ้วมือ
ด้านฮาร์ดแวร์ (หน่วยประมวลผล, GPU, RAM, พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน, MicroSD Card, แบตเตอรี่)
Samsung Galaxy C9 Pro | OPPO R9s Plus | |
หน่วยประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 653 | Qualcomm Snapdragon 653 |
GPU | Adreno 510 | Adreno 510 |
RAM | 6GB | 6GB |
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน | 64GB | 64GB |
MicroSD Card | 256GB | 256GB |
ระบบเชื่อมต่อ | NFC, Bluetooth 4.2, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4+5GHz, USB Type-C, Wi-Fi Direct, GPS, Glonass, USB OTG, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. | Bluetooth 4.1, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4+5GHz, MicroUSB , Wi-Fi Direct, GPS, Glonass, USB OTG, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | รองรับบนปุ่มโฮม | รองรับบนปุ่มโฮม |
แบตเตอรี่ | 4000mAh | 4000mAh |
ระบบชาร์จเร็ว | Fast Charging | VOOC Flash Charge |
ข้อแตกต่างด้านสเปกของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น
ด้านกล้องดิจิตอล
Samsung Galaxy C9 Pro มีกล้องหน้า-หลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มีซอฟต์แวร์ปรับแต่งผิว อาทิ ตาโต, สีผิว และใบหน้าเรียว มาพร้อมระบบการถ่ายภาพด้วยท่าทางหรือคำสั่งเสียง โดยกล้องหลังมีระบบจับโฟกัส PDAF ไฟแฟลชคู่ กับโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลายซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 1080p เช่นเดียวกับกล้องหน้า
กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX398 ในการประมวลผลภาพมี dual-focus เคลมว่าสามารถจับโฟกัสเร็วกว่าระบบ PDAF ถึง 40% พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS+ ส่วนด้านหลังรูรับแสงกว้างถึง f/1.7 สามารถบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K ขณะที่ด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมซอฟต์แวร์ปรับแต่งผิว Beautify 4.0
สรุปข้อแตกต่างของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น
Samsung Galaxy C9 Pro | OPPO R9s Plus |
หน้าจอ Super AMOLED พร้อม Always On Display | หน้าจอครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 |
ระบบการเชื่อมต่อ NFC | แบตเตอรี่ระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge |
ถาดซิมการ์ดไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง | กล้องหลังป้องกันภาพสั่นไหว OIS+ และรูรับแสง f/1.7 |
ระบบ Game Launcher | กล้องหลังระบบจับโฟกัส Dual PDAF |
ลำโพงสเตอริโอ ระดับ Ultra High Quality Audio (UHQA) | กล้องหน้าถูกออกแบบมาเพื่อการเซลฟี่ Beautify 4.0 |
Samsung Galaxy Gift อิ่มอร่อยทุกที่ | รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K |
USB Type-C | UI Color OS 3.0 สนุกทุกการใช้งาน |
เป็นเจ้าของที่ไหนคุ้มสุด
สำหรับฝั่ง OPPO R9s Plus วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ณ ร้านค้าชั้นนำทั่วไป ส่วน Samsung Galaxy C9 Pro เริ่มจำหน่ายในวันที่ 15 พฤษภาคมเป็นต้นไปที่ Samsung Brand Shop
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 10 พฤษภาคม 2560
เลือกอะไรดี! OPPO A60 vs realme 12x 5G ราคา 5,999 บาทเท่ากัน แตกต่างกันอย่างไร
รีวิว OPPO A60 อีกขั้นของความสนุก ราคาไม่ต้องแรง ก็ได้ความทนทานระดับ Military-Grade
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
OPPO A3 Pro สมาร์ทโฟนกันน้ำขั้นสุดมาตรฐาน IP69 อยู่ในน้ำได้นานถึง 30 นาที
Huawei MateBook X Pro 2024 ดีไซน์บางเฉียบ ขุมพลัง Intel Core Ultra พร้อมโมเดล AI
TECNO CAMON 30 Premier 5G หน้าจอ AMOLED 6.77 นิ้ว ชิปเซ็ต Dimensity 8200 Ultimate กล้อง 3 ตัว 50MP
ฟีเจอร์กล้อง 108MP ใน HUAWEI nova 12i สเปกเท่าเรือธงในงบต่ำหมื่น
Redmi Pad Pro แท็บเล็ต Snapdragon 7s Gen 2 แบตเตอรี่จุใจ 10,000mAh
Redmi Note 13 Pro+ World Champions Edition รุ่นพิเศษฉลองแชมป์
NEW MG4 ELECTRIC ขึ้นแท่นรถอีวียอดนิยมในประเทศไทย19 ชั่วโมงที่แล้ว