Qualcomm เปิดตัวสองชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการแล้วได้แก่ Snapdragon 660 และ 630 โดยเป็นรุ่นสานต่อความสำเร็จจาก Snapdragon 653 กับ 626 ซึ่งเคลมว่ามีประสิทธิภาพความเร็วแรงทั้งประหยัดพลังงานยิ่งกว่าด้วยพร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งคู่ถูกออกแบบมาเฉพาะโจทย์ของเทรนด์สมาร์ทโฟนในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง, ระบบกล้อง, ระบบการเชื่อมต่อไร้สาย , ระบบประมวลผล, ระบบชาร์จ หรือแม้แต่ว่าระบบความปลอดภัย เป็นต้น สำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟนจะได้ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นในระดับกลางที่มีประสิทธิภาพสูงรองจากรุ่น Flagship
Qualcomm Snapdragon 660 และ 630 มีจุดเด่นหลัก 7 ประการดังต่อไปนี้
1. เพิ่มประสิทธิภาพกล้อง : ด้วยการใช้หน่วยประมวลผล ISP Qualcomm Spectra 160 เพื่อเพิ่มคุณภาพภาพให้มีความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นในการถ่ายภาพสภาวะพื้นที่แสงน้อย (superior low light) ทั้งประหยัดพลังงานและถ่ายโอนข้อมูลภาพดียิ่งขึ้นในสมาร์ทโฟนแบบ Dual Camera รองรับการซูมแบบ Optical Zoom ได้ไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม รวมถึงโหมด Bokeh และ Dual Pixel Autofocus อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของความเสถียรด้านการบันทึกวิดีโอ
2. ด้านเสียง/ภาพ : เฉพาะแพลตฟอร์ม Snapdragon 660 และถือเป็นครั้งแรกของซีรีย์ 6xx ที่นำระบบ Qualcomm Hexagon 680 DSP มาใช้ในการประมวลผล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เฉกเช่นเดียวกับการประหยัดพลังงานกว่าเดิม โดยระบบถูกออกแบบมาให้บริหารจัดการอย่างชาญฉลาด
3. ระบบเชื่อมต่อ : Snapdragon 660 และ 630 มีโมเดมระดับ X12 LTE ส่งผลให้สามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 600Mbps รองรับระบบ Wi-Fi 802.11ac + 2x2 MU-MIMO ส่งข้อมูลได้มากขึ้นกว่าเดิมสองเท่า ประหยัดพลังงานถึง 60% เมื่อเทียบกับรุ่น Snapdragon 652 นอกจากนี้ยังใช้งานระบบการเชื่อมต่อไร้สายผ่านอิฐหรือคอนกรีตได้ดีกว่าเดิม
สำหรับแพลตฟอร์มทั้งสองมีระบบ RF front-end ผสมผสานเทคโนโลยี Qualcomm TruSignal ที่ช่วยให้เสาสัญญาณสามารถรับสัญญาณมีประสิทธิภาพขึ้นภายใต้สภาวะแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ท่องโลกออนไลน์ได้เพลิดเพลินด้วยการทำงานแบบ Carrier aggregation หรือการรวมคลื่นเข้าไว้ด้วยกันให้ความเร็วและแบนด์วิชดียิ่งขึ้น สุดท้ายคือการรองรับ Bluetooth 5
4. เพิ่มประสิทธิภาพ CPU & GPU : Snapdragon 660 เป็นรุ่นสานต่อจาก Snapdragon 653 ซึ่งใช้ CPU Kryo 260 ทำให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 20% ส่วน GPU ประมวลผลภาพดียิ่นขึ้น 30% ใน Adreno 512
ขณะที่ Snapdragon 630 ถูกปรับปรุงจาก Snapdragon 625 มีการประมวลผลกราฟฟิกดียิ่งขึ้นกว่าเดิม 30% ใช้ชื่อเรียก GPU ว่า Adreno 508 ส่วน CPU เร็วแรงขึ้น 10%
อย่างไรก็ตามทาง Qualcomm ทิ้งท้ายว่าแพลตฟอร์มทั้งสองถูกออกแบบมาให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาการใช้งานอย่างยอดเยี่ยม
5. Qualcomm Quick Charge 4 : เวอร์ชั่น 3 มาไม่นาน ระบบชาร์จเวอร์ชั่นใหม่ก็มาอีกแล้ว โดยทั้งสองแพลตฟอร์มผู้ใช้สามารถชาร์จเพียงแค่ 5 นาที แต่สนทนาต่อเนื่องได้นาน 5 ชั่วโมง หรือชาร์จเพียง 15 นาที ได้แบตฯ 50% จาก 0%
6. ระบบรักษาความปลอดภัย : ทั้งสองแพลตฟอร์มถูกออกแบบภายใต้ความเฉพาะในเรื่องราวของสมาร์ทโฟนมากขึ้น โดยเป็นการวิเคราะห์การใช้งานตามเทรนด์ในปัจจุบัน เพื่อออกแบบฮาร์ดแวร์ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมการตรวจสอบผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. ระบบ Machine Learning : ผู้ผลิตและผู้พัฒนาจะสามารถเพิ่มเติมระบบต่างๆ อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ก็เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของ User ด้วยการใช้ระบบ Snapdragon Neural Processing Engine SDK พร้อมรองรับซอฟต์แวร์ Caffe/Caffe2 & TensorFlow จึงทำให้สามารถออกแบบระบบสมาร์ทโฟนให้มีความเข้ากันได้กับ CPU, GPU หรือ DSP/HVX นั่นเอง
Snapdragon 660 & 630 ใช้โมเด็ม,สถาปัตยกรรมกล้องรวมถึงรองรับการใช้พินและซอฟต์แวร์ที่เหมือนกัน เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถปรับความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ง่ายดายยิ่งขึ้น โดยแพลตฟอร์มทั้งสองผลิตบนเทคโนโลยีขนาด 14 นาโนเมตร รองรับการเล่นและบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K สามารถใส่ Ram ได้สูงสุด 8GB รองรับระบบ Vulkan API
ส่วนความละเอียดหน้าจอ Snapdragon 660 รองรับสูงสุด 2K (QHD) ขณะที่ Snapdragon 630 จะมีความละเอียดสูงสุด FullHD
ทั้งสองแพลตฟอร์มเริ่มใช้งานจริงได้เมื่อไหร่
สำหรับ Snapdragon 660 ตอนนี้ถึงมือเหล่าพาร์ทเนอร์กับผู้ที่ต้องการไปใช้งานแล้วดังนั้นจึงคาดว่าอีกไม่นานเราอาจได้เห็นสมาร์ทโฟนพร้อมแพลตฟอร์มดังกล่าวในเร็วๆ นี้ ส่วน Snapdragon 630 ก็จะเริ่มขนส่งตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.qualcomm.com วันที่ : 9 พฤษภาคม 2560
Nothing Phone (3a) เตรียมสลับขั้ว เปลี่ยนใช้ชิปเซ็ตจาก Qualcomm
HONOR X60 GT สมาร์ทโฟนเน้นแบตเตอรี่ใหญ่ 6300mAh ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1
เปิดตัว Honor X70i มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 7025 Ultra และกล้องหลัง 108MP!
รีวิว Redmi A5 รุ่นเล็กแต่จอเกินเบอร์ รีเฟรช 120Hz แบบ AdaptiveSync พร้อมกล้อง AI 32MP
vivo V50 Lite ในคอนเซ็ปต์ ‘แบตอึด จนขอท้า’ ในราคาไม่ถึงหมื่น
Blackview BL7000 เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงพันธุ์แกร่ง 5G ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง AI ระดับโลก
ทำความรู้จัก POCO C71 หน้าจอใหญ่ 120Hz กันน้ำ IP52 อัปเดต OS นาน 2 ปี แบตฯ 5200mAh
Motorola edge 60 STYLUS อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ AI มาพร้อมกับปากกาในตัว
HUAWEI FreeArc หูฟังใส่สบายเวอร์ สวมแบบ Open-Ear เสียงดี ไมค์ก็ชัด
หลุดสเปค OnePlus 13s Snapdragon 8 Series, กล้อง 3 ตัว, ชาร์จไร้สาย 50W
ลือ! iPad mini รุ่นถัดไป เตรียมอัปเกรดหน้าจอเป็น OLED ในปี 2026
Moto pad 60 PRO หน้าจอ 12.7 นิ้ว คมชัด 3K 144Hz พร้อมลำโพง JBL 4 ตัว
Redmi Pad Pro 5G แท็บเล็ตจอใหญ่ที่จบครบทุกความบันเทิงในราคา 13,990 บาท25 เม.ย. 68 15:00