เทคโนโลยี (Technology)  |   วันที่ : 23 พฤษภาคม 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

รายงาน Tech Trends ชิ้นล่าสุดโดยจีเอฟเค ชูเทรนด์เทคโนโลยีหลัก 5 ประการที่น่าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้บริโภคในปีนี้

  • Mobile payments (การชำระเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ) จะขยายการใช้งานครอบคลุมกว้างยิ่งขึ้นในปีนี้ จากการที่ผู้บริโภคต้องการประสบการณ์การจับจ่ายที่คล่องตัวและไม่ต้องใช้เงินสด
  • Smart home (บ้านอัจฉริยะ) มีแนวโน้มที่จะขยายรูปแบบการใช้งานมากไปกว่าสมาร์ททีวี
  • Wearables (อุปกรณ์เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้) เป็นตลาดที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ และส่อแนวโน้มการเติบโต จากการที่แบรนด์สินค้าแนวแฟชั่นต่างส่งสินค้าออกสู่ตลาด
  • Virtual and augmented reality (VR/AR) จะเริ่มเข้าสู่ตลาดค้าปลีกรายย่อยและอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากแบรนด์และธุรกิจต่างเห็นถึงสมรรถนะ
  • Autonomous vehicles ยังต้องพัฒนาอีกต่อเนื่องเพื่อเข้าถึงกลุ่มตลาดระดับแมส (mass-market)

Mobile Payments (การชำระเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ)

การชำระเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือกำลังเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว จากการที่แอพพลิเคชั่นสำหรับช้อปปิ้งได้รับความนิยม เฉพาะสิงคโปร์เองมีร้านค้าปลีกถึง 30,000 จุดที่รับการชำระเงินแบบคอนแทคเลส (contactless) เช่น Apple Pay, Android และ Samsung Pay ขณะที่อินโดนีเซีย ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของภูมิภาคถึง 250 ล้านคนนั้น ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ต่างเผยถึงแผนการทำอีคอมเมิร์ซกันแล้ว

จากการศึกษาของจีเอฟเค The Connected Asian Consumer พบว่าผู้บริโภคในสิงคโปร์และอินโดนีเซียมีอัตราการใช้ช้อปปิ้งแอพค่อนข้างสูง (37 เปอร์เซ็นต์ และ 35 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ) ประเทศอินเดีย (54 เปอร์เซ็นต์) และจีน (48 เปอร์เซ็นต์) เป็นประเทศสองผู้นำที่มีอัตราการช็อปปิ้งผ่านแอฟสูงสุดและประมาณกึ่งหนึ่งของประชากรออนไลน์มีการใช้ช้อปปิ้งแอพมากกว่าหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ ปัจจัยเกื้อหนุนต่อการเติบโต อาทิ ราคาของสมาร์ทโฟนที่ซื้อหาได้ง่ายขึ้น, กลุ่มประชากรรุ่นใหม่และความชื่นชอบในเทคโนโลยี และความพยายามจากภาครัฐและกลุ่มโทรคมนาคมในการขยาย พัฒนาปรับปรุงเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง

Smart Homes (บ้านอัจฉริยะ)

นอกเหนือจากสมาร์ททีวีแล้ว ยังมีเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะที่ส่งสัญญานเติบโตเชิงบวกทั่วโลก ด้วยยอดขายที่ทะยานขึ้นถึง 42 ล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2559 โดยมีไต้หวันยังเป็นผู้นำด้านส่วนแบ่งตลาดในเอเชีย ตามด้วยออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไทย และเวียตนามที่ต่างก็ส่งสัญญานการเติบโตอย่างมาก

ตลาดจีน มีการขยายตัวของชนชั้นกลาง อุตสาหกรรมการผลิต รวมทั้งระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวผลักดันการบริโภคในระดับแมสของตลาดบ้านอัจฉริยะ

ตลาดญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งผู้ขับเคลื่อนรายใหญ่ ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นหนึ่งในห้าผู้นำตลาดโลกด้านการเจาะตลาดบ้านอัจฉริยะเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มประชากรสูงวัยที่มีแนวโน้มในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดสุขภาพและธุรกิจความเป็นดีอยู่ดี (smart health and wellness solutions)

นอกจากสองตลาดหลักนี้แล้ว ยังมีเกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์ที่คาดว่าอัตราการเติบโตมีนัยยะสำคัญต่อตลาดบ้านอัจฉริยะ อันเป็นผลมาจากสมรรถนะของกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูง และการเชื่อมต่อข้อมูลของประเทศ

ขณะที่บ้านอัจฉริยะกลายเป็นจริงขึ้นมา แบรนด์สินค้าที่ประสบความสำเร็จที่สุด มักจะเป็นแบรนด์ที่ให้ประสบการณ์ที่ต่อเนื่องไม่มีสะดุด และเรียบง่ายไม่ยุ่งยาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา

Wearables (อุปกรณ์เทคโนโลยีที่สามารถสวมใส่ได้)

ในการศึกษาโดย จีเอฟเค ที่ได้ดำเนินการใน 16 ประเทศ หนึ่งในสาม (33 เปอร์เซ็นต์) ของผู้เข้าร่วมการศึกษากล่าวว่าพวกเขาสังเกตสุขภาพ หรือความฟิตพร้อมของร่างกายผ่านทางออนไลน์หรือโมบายล์แอพพลิเคชั่น, ฟิตเนสแบนด์ (สายรัดข้อมือ), คลิป หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (smartwatch) โดยจีนคิดเป็น 45 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยสหรัฐอเมริกาและบราซิลที่ 29 เปอร์เซ็นต์ เยอรมนี 28 เปอร์เซ็นต์ และ 26 เปอร์เซ็นต์ในฝรั่งเศส

ตลาดอุปกรณ์สวมใส่ (wearables) ส่อสัญญานการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคมปี พ.ศ. 2559 มีอัตราการเพิ่มที่ 45 เปอร์เซ็นต์คิดเป็นจำนวนอุปกรณ์ถึง 13 ล้านหน่วย

“เราสังเกตว่า หนึ่งในห้าเทรนด์ที่กล่าวมานั้น การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ, บ้านอัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่เป็นกลุ่มที่ส่งสัญญานการเติบโตที่มีนัยยะสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์สินค้าที่จะต้องเข้าใจเส้นทางรูปแบบการจับจ่ายใช้สอยของผู้ซื้อ การเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคผ่านช่องทางต่างๆ และประสบการณ์ที่ได้รับเพื่อครองใจผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมต้องตระหนักถึงเทรนด์สินค้าสายเทคโนโลยีและการที่ผู้บริโภคก็เข้าถึงเชื่อมต่อในทางดิจิทัลมากขึ้น” คาร์ธิค เวนคตกริช ผู้อำนวยการระดับภูมิภาค จีเอฟเค เอเชีย

นอกจากทั้งสามเทรนด์แถวหน้านั้น จีเอฟเคยังได้ระบุถึง Virtual and Augmented Reality และ Autonomous Vehicles ให้เป็นอีกสองเทรนด์สำคัญที่กำลังมาแรง คาดว่าจะมีการนำมาใช้งานมากขึ้นในปีต่อๆ มา และสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gfk.com 

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่