สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 29 กรกฎาคม 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ผ่านพ้นครึ่งปี 2017 กันไปแล้ว ต้องบอกว่าปีนี้ดูเหมือนว่าธุรกิจสมาร์ทโฟนยังไม่ค่อยร้อนแรงเหมือนปีที่แล้วเท่าใดนัก เพราะหากย้อนกลับไปกลายเป็นว่าทุกแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์ออกมาสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซื้อรวมถึงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมดังกล่าว ทว่าในปีนี้ค่อนข้างเงียบและไม่มีอะไรแปลกใหม่ต่างจากที่ผ่านๆ มา อย่างไรก็ตามในปีนี้ก็มีอะไรให้น่าติดตามอยู่หนึ่งประเด็นนั่นก็คือ "Nokia" เพราะได้กลับมาสู่ตลาดอีกครั้งหลังจากพลาดพลั้งไปนาน คราวนี้ประกาศชัดเจนว่าจะเดินหน้าเต็มที่ลุยตลาดทวงพื้นที่ปูทางให้ตนเองขึ้นสู่แบรนด์ยอดนิยมอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นลองมาดูกันหน่อยผ่านมาครึ่งปีทางโนเกียเป็นอย่างไรบ้าง

อย่างที่ทุกคนทราบกันเมื่อต้นปีในประเทศจีนทาง Nokia ได้ชิมลางเผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นแรกนั่นคือ Nokia 6 ซึ่งเรียกเป็นรุ่นกลางๆ ราคาตํ่ากว่าหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งได้สรุปไว้หมดแล้วผ่านบทความ..

จากนั้นก็เดินมาถึงงาน MWC 2017 แน่นอนว่าทุกสายตาก็จับตามองว่า Nokia จะงัดอะไรออกมาโชว์อีก ซึ่งทุกคนก็คาดหวังว่าจะเป็นรุ่นท็อป เพราะในงานดังกล่าวอาจบอกว่าเป็นสังเวียนรุ่นท็อปก็ไม่ผิด แต่ท้ายที่สุดทางแบรนด์ได้เผยโฉม " Nokia 3 " และ " Nokia 5 " สองรุ่นสเปกตํ่ากว่า Nokia 6 อีก จึงทำให้เหล่าสาวกผิดหวังไปตามๆ กัน สื่อต่างประเทศคาดการณ์โนเกียไม่อยากรีบร้อนอยากทำการบ้านให้ดีเสียก่อน เพื่อให้สมบูรณ์แบบที่สุด

อย่างไรก็ดีพร้อมประกาศกร้าวว่าระบบปฏิบัติแอนดรอยด์ของพวกเขาได้ทำงานร่วมกับ Google แบบใกล้ชิดหวังสร้างประสบการณ์การใช้งานในระดับ Pure Android และได้อัปเดตแพทช์ความปลอดภัยสมํ่าเสมอ โดยประโยคข้างต้นยังสื่อได้อีกแง่ด้วยเช่นกัน นั่นคือการอัปเดตเวอร์ชั่นของ Android และก็เป็นไปตามคาดในเดือนมิถุนายน หลังจาก Google ประกาศเผยโฉม Android O ทาง Nokia ระบุว่าสมาร์ทโฟนของพวกเขาทั้งสามรุ่น Nokia 3Nokia 5 และ Nokia 6 จะได้รับการอัพเดทแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่หาก Google ปล่อยให้ใช้งานอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตามในงาน MWC 2017 โนเกียก็ได้ทำให้เหล่าสาวกปลึ้มใจพร้อมกับผิดหวังไปพร้อมๆ กัน ทำไมถึงบอกเช่นนั้น ? : เนื่องจาก ณ วันงาน Nokia เปิดตัว The New Nokia 3310 โดยมีดีไซน์แบบใหม่เพื่อความทันสมัยดูเข้ากับยุคมากขึ้น และตอบโจทย์ด้านแฟชั่น อีกทั้งยังมีลักษณะโค้งเข้ากับฝามือให้ความรู้สึกจับถือง่ายขึ้น ส่วนจุดเด่นเพิ่มเติมอันเป็นที่ขึ้นชื่อคือเรื่องความอึดด้านแบตเตอรี่ เคลมว่าเวลาสนทนาต่อเนื่องสูงสุด 22 ชั่วโมง สแตนบายก็ได้นานหนึ่งเดือน

หน้าจอแสดงผลแบบสี polarized ขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด QVGA เคลมว่าใช้กลางแจ้งได้ดี รันแพลตฟอร์ม Nokia Series 30+ พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16MB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 32GB อีกหนึ่งไฮไลท์เกมงูออกแบบใหม่ทันสมัยตามไปด้วย ด้านหลังมีกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลกับไฟแฟลช LED นอกจากนี้มีเบราว์เซอร์ Opera Mini ตั้งแต่ออกจากกล่อง แบตเตอรี่ความจุ 1200 mAh ถอดเปลี่ยนได้ และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และระบบ FM Radio กับฟังก์ชั่นเล่น MP3 

ส่วนความผิดหวังคือการที่ The New Nokia 3310 รองรับการใช้งานแค่ 2G เท่านั้น 900/1800MHz แน่นอนว่าประเทศไทยและในประเทศใหญ่บอกลาได้เลย ใช้งานไม่ได้ก็เพราะไม่มีคลื่นให้ใช้ แต่ในประเทศอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาสามารถตอบโจทย์ได้ดี

ถัดมาอีกไม่กี่เดือน (เมษายน) ทาง Nokia ได้ประกาศอัปเดตแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1.1 ให้กับโนเกียรุ่นพี่สุดคือ Nokia 6 พร้อมอัดฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาด้วย และคอนเฟิร์มว่าสมาร์ทโฟนของแบรนด์ทุกรุ่นจะได้รับการอัปเดตทั้งเฟิร์มแวร์จนกว่าจะเข้ากันไม่ได้ระหว่างซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์กับแพทช์ความปลอดภัยให้อย่างสมํ่าเสมอ เพื่อแสดงถึงการดูแลลูกค้าเสมือนอีกหนึ่งบริการหลังการขายที่ดี

ต่อมาในช่วงเดือนมิถุนายนทางโนเกียตัดสินใจรีแบรนด์สินค้าจาก Withings เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Nokia ทั้งหมด นั่นหมายความว่าเริ่มเดินหน้าลุยตลาดสุขภาพจำพวกอุปกรณ์เสริมต่างๆ เรียกได้ว่าครบครันเลยทีเดียว

ในเดือนกรกฏาคมต้องบอกว่า Nokia เดินหน้าลุยทุกช่วงตลาดที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจก็อาจบอกได้ว่าไม่เป็นเสือตัวเดียวเหมือนก่อนแล้ว แต่เน้นร่วมมือร่วมใจกันเดินหน้าสร้างสรรค์ความลํ้าหน้าต่างๆ ซึ่งวันที่ 6 ได้เซ็นสัญญาสิทธิบัตรร่วมกัน Xiaomi เน้นเครือข่ายกับระบบภายในศูนย์ข้อมูล พร้อมทิ้งท้ายว่าในอนาคตเรามีความคิดเห็นตรงกันว่าจะพัฒนาเรื่องเด่นยอดฮิตอย่าง IoT, AR, VR และ AI

หนึ่งวันถัดมา Nokia ช่วงชิงพื้นที่ข่าวสารได้ติดต่อกัน สร้างความฮือฮาไม่น้อยเพราะในที่สุดทั้งสองก็กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งนั่นคือแบรนด์เลนส์กล้องชื่อดัง Zeiss นั่นหมายความว่าในอนาคตกล้องอาจมาจากมาตรฐานดังกล่าวเฉกเช่นวันวาน

หลังจากนั้นมีข่าวลือเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องโดยเน้นไปที่ Nokia 8 และ Nokia 9 สองรุ่นท็อปที่ข้อมูลยังถูกเก็บไว้อย่างแน่นหนา แต่ล่าสุดดูเหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างยืนยันออกมาด้วยภาพทีเซอร์ว่า Nokia 8 อาจเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 16 สิงหาคมศกนี้ ส่วนสเปกและความสามารถยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดหรือบอกใบ้แต่อย่างใด โดยสื่อต่างคาดกันว่ามาพร้อมกล้องคู่ มาตรฐาน Zeiss

นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว...HMD Global เปิดตัวฟีเจอร์โฟน Nokia 105 และ Nokia 130 ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 บาท จบครบทุกผลิตภัณฑ์ โดยสาเหตุระบุว่าส่วนของตลาดฟีเจอร์โฟนยังมีมูลค่าสูงและก็ยังมีผู้คนใช้ไว้สำหรับติดต่อสื่อสารอยู่มากเพราะฉะนั้นเราจึงไม่โยนตลาดนี้ทิ้งไป

จะเห็นได้ว่าในเหตุการณ์ที่ยกมาข้างต้นเปรียบเหมือน Nokia กำลังวางรากฐานพร้อมเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้าก็ไม่ผิดนัก ทั้งบริการ ผลิตภัณฑ์ และก็สร้างความก้าวหน้าให้เป็นที่ประจักษ์เสมือนได้ประกาศว่ากลับมาลงสนามอย่างจริงจังแล้ว ไม่เหมือนกรณีตอนอยู่ภายใต้ร่มเงา Microsoft ที่ดูค่อนข้างเงียบกว่านี้

ประเด็นใดที่ทำให้ Nokia ดูไม่น่าประทับใจในครึ่งปีแรก

สำหรับข้อปัญหาที่ชัดเจนของแบรนด์ Nokia ช่วงปีแรกที่มีข่าวมาตลอด นั่นก็คือความล่าช้าในการผลิตและขนส่ง ซึ่งในหลายประเทศต่างต้องรอสมาร์ทโฟน 3,5,6 กันเนิ่นนานจึงทำให้สูบเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจไป แน่นอนว่า Nokia ควรเอาประเด็นนี้ไปปรับปรุง เฉกเช่นเดียวกับศูนย์บริการที่ดูเหมือนว่าใช้ภายนอกเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ของตนเองดูแล ดังนั้นถ้าจะให้ดีกำกับด้วยตนเอง เพราะจะเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น

ขุมกำลังของแบรนด์ Nokia หลักๆ แล้วมีอะไรบ้าง

เริ่มแรกทีมงานทั้งหมดในการเริ่มต้นหลักๆ คือ HMD Global, Nokia, Foxconn โดยมีหน้าที่แตกต่างกันไปดังต่อไปนี้

1. Nokia : อนุญาตให้ใช้ชื่อเสียงเรียงนามทำการตลาด รวมถึงเทคโนโลยี สิทธิบัตร และก็ Know -How ทั้งหลายแก่บริษัท HMD Global ในการคิดค้นพัฒนาแอนดรอยด์โฟนรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อโนเกีย ทั้งยังจะมีการทำงานร่วมกันอย่างสนิทหรือพูดง่ายๆ ว่ามีส่วนร่วมกับบริษัทดังกล่าว และก็ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใดต้องผ่านความเห็นชอบจากโนเกียก่อน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานที่สุด

2. HMD Global : เสมือนเป็นหัวเรือใหญ่ โดยจะเป็นการรวมกลุ่มของผู้ที่คุลกคลีการทำงานในวงการ หนึ่งในนั้นมีอดีตผู้บริหารของโนเกีย นามว่า Arto Nummela ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Vice President ของ Microsoft ทำหน้าที่ดูแลกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โมบายในทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ก็เรียกได้ว่าประสบการณ์อัดแน่น รวมถึงนาย Florian Seiche ทำงานในสายการขายกับการตลาดของ Microsoft Mobile เช่นเดียวกับเคยดำรงตำแหน่งสูงๆ ของแบรนด์ระดับโลกมากมาย

ส่วนบริษัทก็จะจัดตั้งอยู่ในประเทศฟินแลนด์ เมืองเฮลซิงกิ ซึ่งตั้งอยู่ที่เดียวกับโนเกียทำให้ลดปัญหาการทำงานไปได้เยอะ สามารถประสานงานกันได้คล่องตัว 

3. Foxconn : มีบริษัทลูกที่ชื่อว่า FIH Mobile Limited ได้ลงนามซื้อกลุ่มธุรกิจฟีเจอร์โฟน ทั้งยังรวมถึงโรงงาน (manufacturing), การขาย (sales) และช่องทางจัดจำหน่าย (distribution) โดยจะถูกบริหารจัดการทั้งหมดภายใต้กฏเกณฑ์ของ FIH 

เวลาต่อมา HMD Global และ Nokia ก็จรดปากกาเซ็นสัญญาการร่วมงานกรอบความร่วมมือของธุรกิจในการผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ส่งผลให้หัวเรือมีอำนาจควบคุมเต็มที่ (full operational control) ในการผลิต, ช่องทางจัดจำหน่าย, การตลาด, โรงงาน, supply chain, วิศวกรรม เรียกได้ว่าครบวงจรเลยทีเดียว

4. Withings : หลังจากโนเกียเข้าซื้อกิจการมาได้ระยะหนึ่งก็ทำธุรกิจภายใต้แบรนด์สินค้าเดิมไป แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้ปรับกลยุทธ์เปลี่ยนชื่อแบรนด์มาใช้โนเกียแทน นั่นหมายความว่าช่วยเพิ่มความของลูกค้ามากขึ้นในแง่ Nokia ก็มีอุปกรณ์สำหรับสุขภาพเช่นกันที่ในอนาคตอาจทำงานร่วมกับดีไวซ์ของตนเองเหมือนหลายๆ แบรนด์ในเวลานี้ เพียงแต่พิเศษกว่าตรงที่รองรับการทำงาน IoT ด้วย 

5. ZEISS : เชื่อกลับมาร่วมงานครั้งนี้ต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดา ถามว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ ถ้าหากมองโนเกียเปรียบเหมือนกำลังมองหาพัธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อต่อยอดหรือเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ของตนเองให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งตามปณิธานที่ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ เพราะฉะนั้น Nokia อาจมองเห็นถึงความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จ มิเช่นนั้นคงเลือกแบรนด์อื่นที่มีอย่างหลากหลายในตลาดกล้อง อย่างไรก็ตามถือได้ว่าต้องติดตามพอสมควรว่าท้ายที่สุดแล้วจะเป็นเช่นใด

จะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนในปี 2017 อีกไหม

สำหรับ Nokia คาดการณ์ว่าอาจเปิดตัวอย่างน้อง 3 รุ่น โดยตามข่าวลือคือ Nokia 2, Nokia 8 และก็ Nokia 9 ซึ่งยังไม่มีข้อมูลใดๆ แต่คาดว่าทั้งแปดกับเก้าจะใช้ขุมพลัง Snapdragon 835 ส่วนฟีเจอร์มีอะไรบ้างไม่สามารถรายงานได้เพราะทุกอย่างถูกปิดเงียบมีเพียงสเปกเล็กน้อยบางส่วนทว่าไม่ชัดเจนพอจะคาดเดา เบื้องต้นวันที่ 16 สิงหาคมรอการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่!!!

สุดท้ายนี้ในครึ่งปีหลังทางแบรนด์จะมีอะไรให้ตื่นเต้นและสร้างกระแสกลับมาอีกครั้ง แน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากเห็นซีรีย์ในตำนานทั้งหลายถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยโฉมใหม่สอดคล้องกับยุคสมัย ซึ่งคงต้องรอลุ้นกันไป...

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่