หมวดอื่นๆ (Other)  |   วันที่ : 18 กรกฎาคม 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

สำหรับพ่อบ้านใจกล้าที่เข้ามาอ่าน ควรอ่านให้จบและนึกย้อนกลับไปว่าก่อนหน้านี้คุณเคยอ่านข้อความใน LINE หรือข้อความในแอพอื่น ๆ ที่ภรรยาส่งมาให้แล้วไม่ตอบกลับไปหรือเปล่า ? เพราะที่ไต้หวันเรื่องนี้ถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องหย่าได้

หญิงคนหนึ่งในไต้หวันตัดสินใจฟ้องหย่ากับสามีโดยใช้เหตุผลว่าเขาไม่สนใจเธอพร้อมกับอ้างหลักฐานจากข้อความใน LINE ที่เธอส่งไปหาซึ่งฝ่ายสามีได้เปิดอ่านแต่ไม่มีการตอบกลับใด ๆ กลับมา

ในภาษาอังกฤษเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "blue-ticking" ซึ่งหมายถึงการอ่านข้อความที่มีผู้ส่งมาให้แต่ไม่สนใจตอบกลับ โดยมีให้เห็นกันบ่อย ๆ ในแอพโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง WhatsApp และ LINE ซึ่งมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานทราบว่าผู้รับได้อ่านข้อความแล้ว

ศาลแขวงซินจู่ในไต้หวันลงความเห็นว่าการอ่านข้อความใน LINE แล้วไม่ตอบกลับหรือไม่สนใจเป็นหลักฐานสำคัญของหญิงที่แต่งงานแล้วซึ่งศาลตัดสินว่าเธอมีสิทธิในการหย่าร้าง

ผู้พิพากษาเผยว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 6 เดือน หญิงแซ่ Lin ได้ส่งข้อความหาสามีหลายต่อหลายครั้งโดยมีช่วงหนึ่งที่เธอเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ข้อความตอนหนึ่งเธอบอกกับสามีว่าอยู่ในห้องฉุกเฉินและถามว่าทำไมเขาอ่านข้อความแต่ไม่ตอบกลับ

ในความเป็นจริงพบว่าสามีของหญิงรายนี้ได้ไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลเพียงครั้งเดียว ศาลวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นคือเขาไม่ยอมอ่านข้อความที่เธอส่งไปอีกจนเป็นเหตุนำไปสู่การฟ้องหย่า

 

"จำเลยไม่ได้ตอบคำถามที่โจทย์ถามซึ่งมีหลักฐานยืนยันว่าจำเลยอ่านข้อความนั้นแล้วแต่ไม่ตอบกลับ" ผู้พิพากษากล่าว

"การแต่งงานของคู่สามีภรรยาคู่นี้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด"

 

หนึ่งหรือสองเดือนหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับโจทย์ จำเลยได้ส่งข้อความสั้น ๆ มาหาโจทย์ "โดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุนัขของพวกเขาและแจ้งให้เธอทราบว่ามีจดหมายเข้ามา แต่จำเลยไม่ได้แสดงความห่วงใยใด ๆ ต่อโจทย์" ผู้พิพากษากล่าว

 

"ดูเหมือนว่าจำเลยมีปฏิสัมพันธ์กับโจทย์น้อยมากและจำเลยไม่ค่อยตอบข้อความที่โจทย์ส่งไปหา"

 

ทั้งคู่แต่งงานกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 โดยฝ่ายภรรยามีอายุมากกว่าสามี ภรรยาเป็นหญิงในวัย 50 และเคยผ่านการแต่งงานมาก่อนขณะที่สามีอยู่ในวัย 40

ผู้พิพากษากล่าวถึงปัญหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตสมรส

"หลังจากย้ายเข้าบ้านสามี โจทย์ได้อาศัยอยู่ร่วมกับแม่สามี น้องชายและน้องสะใภ้ของสามีซึ่งโจทย์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในครอบครัวรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม แม่สามีบอกให้โจทย์ออกเงินจ่ายค่าภาษีให้กับพ่อและแม่สามี"

เหตุได้ชัดว่าสามีของเธอไม่มีรายได้ที่มั่นคง

 ตามเอกสารที่แจ้งต่อศาลมีการเปิดเผยว่าครอบครัวของจำเลยปฏิบัติต่อโจทย์อย่าง "ไม่เป็นมิตร" โดยพวกเขาจำกัดเวลาที่โจทย์สามารถอาบน้ำรวมถึงจำกัดอุณหภูมิของน้ำที่อาบ

 

ฟางเส้นสุดท้ายคือการที่จำเลยปฏิเสธการอ่านข้อความที่โจทย์ส่งมาใน LINE

 

"คู่รักทั่วไปไม่ควรปฏิบัติต่อกันอย่างนั้น ข้อความใน LINE เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นสถานะภาพรวมของการสมรส สำหรับคู่นี้แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายขาดการสื่อสารที่ดีต่อกัน" ผู้พิพากษากล่าว

"ตอนนี้การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องปกติและใกล้ตัวมาก ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ ต่างกับในอดีตที่เราจำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร"

 

จำเลยสามารถยืนอุทธรณ์คำสั่งศาลหลังจากรับแจ้งคำตัดสินซึ่งถูกส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียน แต่ดูเหมือนว่าจำเลยจะไม่ทำเช่นนั้น ผู้พิพากษาเผยว่าฝ่ายจำเลยไม่เคยปรากฏตัวต่อศาลและไม่ตอบสนองใด ๆ ต่อสิ่งที่ศาลได้ประกาศออกไป

ดูเหมือนว่าการส่งไปรษณีย์ไม่เหมือนกับการส่งข้อความผ่าน LINE ตอนนี้ศาลก็เลยไม่รู้ว่าจำเลย "อ่าน" รายละเอียดที่แจ้งไปหรือยัง

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่