เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 6 สิงหาคม 2560
นอกจากเรื่องกล้องและเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่กำลังเป็นประเด็นเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ที่น่าสนใจ และเตรียมรอนำมาอยู่บนสมาร์ทโฟนอีกไม่ช้า คาดว่าอย่างน้อยในปีหน้าก็จะได้เห็นกันครบถ้วน อย่างไรก็ตามเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา USB 3.0 Promoter Group ที่เป็นการรวมกลุ่มระหว่างบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี อาทิ Apple, HP, Intel, Microsoft, Texas Instruments เป็นต้น ร่วมกันเปิดตัวมาตรฐานใหม่ USB Type-C มาตรฐาน 3.2ของพอร์ตเชื่อมต่อให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และคาดว่าสามารถใช้จริงในปีพุทธศักราช 2562 อีกหนึ่งปีกว่าต่อจากนี้ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักให้มากขึ้น
เริ่มกันที่ USB 3.2 คืออะไร
เริ่มเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าในอนาคต MicroUSB 2.0 อาจจะเลือนหายไปในอนาคต หากย้อนกลับไปช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพอร์ต USB Type-C จะถูกพบได้แค่ในรุ่นท็อปเท่านั้น แต่ในปัจจุบันรุ่นราคาประหยัดก็มีให้พบเห็นได้เช่นกัน ดังนั้นคาด่ว่าอีกปีสองปีต่อจากนี้อาจต้องกล่าวคำลา
สำหรับ USB 3.2 เป็นมาตรฐานเชื่อมต่อข้อมูลที่จะนำมาใช้กับพอร์ตเชื่อมต่อประเภทใหม่ Type-C ที่ ณ ตอนนี้เริ่มกว้างขวางสู่อุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น โดยมาตรฐานใหม่ถูกพัฒนาต่อยอดจาก USB 3.1 Gen 2 กล่าวคือเดิมทีสามารถรับส่งข้อมูลได้ความเร็วสูงสุด 10Gbps หรือประมาณ 1GB ต่อวินาที
แต่กับ USB 3.2 จะเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยลูกเล่นการถ่ายโอนข้อมูลแบบ Multi-lane operation หรือหลายช่องทางพร้อมกันในเวลาเดียวกันจากสองช่องทางและแปดพิน จึงส่งผลให้ความเร็วเพิ่มขึ้น 2 เท่าคือรับส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วถึง 2Gbps หรือ 2GB ต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้หลากหลาย เพิ่มความสะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นเสมือนทลายข้อจำกัดที่สายนี้ต้องคู่กับฮาร์ดแวร์นี้ลงไป แต่ความเร็วที่ระบุข้างต้นจะเห็นผลได้ก็ต่อเมื่อสายเคเบิ้ล, ฮับ และอุปกรณ์ต้องรองรับเทคโนโลยีนี้ด้วย เช่น A มีเทคโนโลยี USB 3.2 แต่ B ไม่มีความเร็วก็จะไม่สูงสุด ซึ่งจะถูกจำกัดไว้แค่เทคโนโลยีที่ B มี อีกทั้งหากไม่ใช้สายเคเบิ้ลที่รองรับความเร็วก็จะไม่ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าอุปกรณ์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องต้องรองรับ USB 3.2 มิเช่นนั้นความเร็วที่ได้ก็จะไม่ใช่ระดับเดียวกับมาตรฐาน
คำถามคือทุกอย่างกลายเป็นว่าต้องรองรับ ดูจะมีค่าใช้จ่ายสูงตามมาด้วย ทำอย่างไรดี ?
อาจดูเหมือนว่าจะมีเฉพาะสายเคเบิ้ลเท่านั้นที่ต้องซื้อเปลี่ยนถ้าสายเก่าไม่ใช่สาย SuperSpeed USB 10Gbps ทว่าในส่วนของอุปกรณ์ของผู้ใช้งานคาดว่าน่าจะมีการปล่อยอัปเดตตามมาภายหลัง แต่ทั้งนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสเปกของอุปกรณ์นั้นด้วย แต่ด้วยความเร็วการถ่ายโอนขนาดนี้ หากเป็นโน๊ตบุ๊คหรือเครื่องคอมพิวเตอร์คงต้องอาศัย SSD (Solid-State-Drive) ส่วนสมาร์ทโฟนอย่างน้อยต้องเป็น USF 2.0 ขึ้นไป แต่ตามผลทดสอบความเร็วก็ยังไม่ถูกขั้นมาตรฐานใหม่อยู่ดี ดังนั้นคงต้องติดตามกันต่อไปว่าอนาคตจะเป็นเช่นใดกัน
USB 3.2 ทำออกมาเพื่ออะไร มันเกินความจำเป็นไปหรือไม่
ในปัจจุบันวิดีโอความละเอียด 4K ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วเฉกเช่นเดียวกับคอนเทนต์จำพวก AR & VR ที่หลายธุรกิจก็นำไปใช้งานทิศทางแตกต่างกัน เช่น การบริการ สินค้า การขนส่ง หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น ล่าสุดก็มีการทดลองเกี่ยวกับให้ผู้ปกครองสามารถทดลองเลี้ยงลูกผ่านแว่นตา VR ได้ โดยภายในโลกเสมือนจริงจะมีข้อมูลมากมายที่ต้องถ่ายโอนผ่านผู้ให้บริการไปยังแว่น แม้ว่า ณ ตอนนี้จะพอดีเหมาะสมแล้ว
แต่อนาคตล่ะเพื่อความต่อเนื่องจึงต้องอาศัยพอร์ตเหล่านี้เป็นตัวเชื่อมเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกที่ต้องอาศัยการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงขนาดนี้ ซึ่งอาจเข้ากับประโยคที่ว่า ผู้พัฒนาคงมีการคาดการณ์ล่วงหน้าแล้วว่าต้องมีอะไรที่สุดยอดเกิดขึ้นอีกมิเช่นนั้นคงไม่พัฒนาเพราะต้องเสียทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาซึ่งในแง่ของผู้ลงทุนแล้วคงไม่เหมาะสมนักหากทุ่มทุนแล้วไม่เกิดประโยชน์
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงรายละเอียดส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยสเปกแบบจัดเต็มจะมีการเปิดเผยในเดือนกันยายนศกนี้
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.usb.org วันที่ : 6 สิงหาคม 2560
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
MG4 Electric 2024 ดีไซน์สปอร์ต สมรรถนะเร้าใจ เริ่มต้น 7 แสนบาท
Huawei เปิดตัวระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ LUNA S1 เพื่อการใช้งานในภาคครัวเรือนและองค์กร
Moto G04s น่าใช้ขึ้นด้วยกล้อง 50MP เทคโนโลยี Quad pixel และลำโพง Dolby Atmos
Google Vids ปลดล็อกพลังการสร้างวิดีโอด้วย AI บน Google Workspace
Google เปิดตัว Find My Device เวอร์ชันใหม่ ค้นหาอุปกรณ์ Android ได้แม้ปิดเครื่องหรือไม่มีเน็ต!
Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 เอียร์บัดรุ่นเรือธง กับฟีเจอร์และเทคโนโลยีเพื่อเหล่าออดิโอไฟล์
Hyundai IONIQ 6 ดีไซน์ล้ำสมัย ขับขี่ไกล 545 กม. เปิดตัวในไทยราคา 1.899 ล้านบาท
realme GT Neo6 SE เปิดตัวด้วยขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 3 ชาร์จเร็วระดับ 100W
มือถือใหม่ 2024 มือถือใหม่ 2567 มือถือราคาประหยัด 2024 ใช้มือถือรุ่นไหนดี
realme 12 5G และ realme 12X 5G กล้องซูม 3 เท่าไม่สูญเสียรายละเอียด รองรับ 5G เริ่มต้น 5,xxx
Mercedes-Benz แนะนำ 5 ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถอีวีและและปลั๊กอินไฮบริด
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย2 ชั่วโมงที่แล้ว