สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 24 พฤศจิกายน 2561
อีกหนึ่งข้อสงสัยที่เชื่อว่าหลายคนอยากรู้ว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลากแบรนด์จะต้องใช้หน้าจอแสดงผลอัตราส่วนใหม่ที่แตกต่างจากเดิมนั่นคือ 18:9 /19:9 จึงเกิดคำถามว่าอัตราส่วนดังกล่าวคืออะไรและก็มีข้อดีอย่างไร นอกจากเทรนด์ใหม่ข้างต้นแล้วยังมีอีกประเด็นที่ได้กลายเป็นจุดขายใหม่ที่เพิ่มขึ้นตามมาคือความละเอียดใหม่ HD+, FHD+, WQHD+ รายละเอียดเป็นอย่างไรเรามาทำความรู้จักกันเลย
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าหน้าจอแสดงผลบนสมาร์ทโฟนวัดขนาดกันอย่างไร มีอยู่ 2 วิธี
อาจยุ่งยากหน่อยแต่ก็เป็นพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ โดยนำสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งมาเป็นตัวอย่าง Samsung Galaxy Note 5 ซึ่งเมื่อวัดขนาดตัวเครื่องจากหน้าจอจะพบว่า ด้านสูงก็มีหน้าจอขนาด 4.96 นิ้ว ส่วนด้านกว้างจะมีขนาด 2.795 นิ้ว ทว่าขนาดหน้าจอจริงๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวคือ 5.7 นิ้ว ดังนั้นขนาดที่แท้จริงของหน้าจอหาอย่างไร
หมายเหตุ : √ คือ square root
เมื่อได้ขนาดหน้าจอต่อไปคือเรื่องราวของความละเอียดและอัตราส่วน
หลายคนต้องรู้จักกับพวกความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล หรือ 720p หรือ HD / 1,920 x 1,080 พิกเซล หรือ 1080p หรือ FullHD / 2,560 x 1,440 พิกเซล หรือ 1440p หรือ Quad HD คำถามคือการเรียกชื่อความละเอียดที่แท้จริงแล้ว แบบไหนคือถูกต้อง ?
ปกติแล้วการเรียกความละเอียดที่ถูกต้องและสื่อความหมายได้จริงๆ จำเป็นต้องเรียกให้เต็มยศนั่นคือ 1,920 x 1,080 พิกเซลหรือ FullHD หากเรียกแค่ (1080p) ก็อาจเป็นที่เข้าใจได้ในระดับหนึ่งเพราะใช้กันมาอย่างกว้างขวางแล้ว แต่ความหมายที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ไม่ครบถ้วน ซึ่งจะสื่อแค่จำนวนความละเอียดแค่แนวนอนเท่านั้น
ต่อด้วยเรื่องของอัตราส่วนหลายคนงงทำไมต้อง 16:9 หรือ 18:9 คืออะไรและมีที่มายังไง
สำหรับอัตราส่วนก็สืบเนื่องจากความละเอียดเลย สมมุติความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล การหาอัตราส่วนสามารถทำได้โดยนำ 1,920 หาร 1,080 = 1.77777 ก็จะได้อัตราส่วน 16:9 พอดิพอดี วิธีพิสูจน์คือนำ 16 หาร 9 ผลลัพธ์ 1.777777 เหมือนกัน
แต่หลายคนอาจบอกว่าการหารขั้นตอนแรกก็ดูเข้าใจง่ายอยู่ แต่ขั้นตอนที่สองเรานั้นไม่ต้องนำเลขมาหารกันหมดเลยเหรอ กว่าจะเจอจำนวนที่ใช่ เรื่องนี้ไม่ยาก เราแค่นำจำนวน 1,920 และ 1,080 มาหาคำตอบด้วยการ "หารร่วมมาก" หรือ หรม. ซึ่งนำตัวเลข 120 มาหารจะได้ผลลัพธ์คือ 16 กับ 9 เพียงเท่านี้ก็จะได้คำตอบ เช็คคำตอบได้เลยเท่ากันเป๊ะ
ลองมาดูฝั่ง 18:9 บ้าง โดยขอยกสมาร์ทโฟน Vivo V7+ มาหาคำตอบ
สำหรับสเปกของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความละเอียด HD+ นั่นคือ 1,440 x 720 พิกเซล จะเห็นว่าด้านสูงมีจำนวนพิกเซลเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งก็จะสอดคล้องกับดีไซน์หน้าจอที่มีความสูงขึ้นจากเดิม ส่งผลให้อัตราส่วนกับความละเอียดเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เมื่อนำตัวเลขมาทดสอบจะได้ผลลัพธ์..
หรือ Samsung Galaxy S8 ความละเอียดสูงุสด WQHD+ (2,960 x 1,440 พิกเซล) กับอัตราส่วน 18.5 : 9 วิธีการคำนวณคือ..
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันหมด แท้จริงแล้วความละเอียดไม่ว่าจะเป็น HD+, FullHD+ หรือ WQHD+ นั่นคือ HD, FullHD และ QHD ไม่ได้แตกต่างกันเลยในเรื่องของการแสดงผล ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมากที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จึงเสมือนจุดขายนำเครื่องหมาย + มาสร้างความแตกต่างให้ดูพิเศษขึ้นเท่านั้นเอง อีกทั้งต้องเพิ่มความละเอียดก็เพื่อสร้างความหนาแน่นให้จุดพิกเซลมิเช่นนั้นจะทำให้จุดพิกเซลขาดกลายเป็นจุดบอด
สุดท้ายแล้วทำไมผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องทำหน้าจออัตรส่วน 18 : 9 ออกมาวางขายด้วย สรุปเป็นผลได้ 5 ประการดังต่อไปนี้
1. ต้องการหน้าจอใหญ่ : ย้อนกลับไปสามสี่ปีที่แล้ว หลายคนอาจจะยังชอบหน้าจอขนาดพอดีมือ จับถือง่ายสะดวก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปสมาร์ทโฟนนั้นไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสารเพียงอย่างเดียวแล้ว เพราะเป็นทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่นภาพยนตร์ เครื่องเล่นเกม กล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสาร (Video Call หรือ Conference) ดังนั้นหากยังติดอยู่กับขนาดหน้าจอที่เล็กนั้น อาจไม่สามารถตอบโจทย์กิจกรรมข้างต้นทั้งหลายได้
2. ไม่อยากเพิ่มขนาดเครื่อง : โดยปกติแล้วถ้ายังเป็นขนาดอัตราส่วนเดิมๆ วิธีการเพิ่มหน้าจอคือทำหน้าจอที่มีอยู่ให้ขยายใหญ่ขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ขนาดตัวเครื่องมีขนาดมากขึ้นตามไปด้วย ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผู้ใช้อย่างไร จับถือไม่สะดวก ใส่กระเป๋าก็ยาก เทอะทะมากกว่าคล่องตัว
ดังนั้นเมื่อตั้งอยู่บนข้อจำกัดที่ไม่อยากเพิ่มขนาดตัวเครื่อง โจทย์จึงมีแค่เฉพาะการดีไซน์ใหม่เมื่อด้านกว้างไม่สามารถเพิ่มได้ เพราะจะทำให้ใช้งานลำบาก จึงต้องปรับเปลี่ยนความสูง นั่นก็คือการลดขอบบนตัวเครื่องกับขอบด้านล่างตัวเครื่องแทน รวมถึงการลดขอบจอด้านข้าง แน่นอนว่าหลายคนไม่ชอบด้วยซํ้าเพราะเวลาดูคอนเทนต์จะบดบังสายตา ไม่ได้อรรถรสนั่นเอง
3. ความละเอียดเพิ่มขึ้น : อย่างที่เกริ่นข้างต้นแม้ไม่เปลี่ยนแปลงชัดเจนแต่พวกความละเอียดระดับ HD+ และ FullHD+ ก็อาจดูสมจริงคมชัดมากที่สุดเวลาเล่นเกมหรือวิดีโอ ซึ่งคงต้องพูดถึงเรื่องความรู้สึกแทนเสียมากกว่า เพราะสายตาเราไม่สามารถแยกแยะได้
4. โหมด Multi Windows : สมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่นก็มีโหมดแบ่งหน้าจอของแอปฯ ทำให้ในหนึ่งหน้าจอเราสามารถใช้งานได้สองแอปฯ พร้อมกัน เช่น Facebook พร้อม YouTube เพื่อแชทและฟังเพลงไปพร้อมกัน แต่ข้อจำกัดของอัตราส่วนหน้าจอแบบเดิมจะมีขนาดที่เล็กไม่เอื้ออำนวยหลายคนเลือกที่จะใช้งานแอปฯ เดียวแทนดีกว่าเพื่อให้รู้สึกสบายตา ดังนั้นการมาของอัตราส่วน 18:9 จึงตอบโจทย์โหมดแบ่งหน้าจอมากขึ้น
5. ใช้งานแอปพลิเคชั่นได้สะดวกขึ้น : เชื่อว่าหลายคนเคยเกิดปัญหาต้องเลื่อนหน้าจอขึ้นลงไปมาบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเบราว์เซอร์ หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ และเห็นแน่ชัดคือแอปพลิเคชั่นนำทาง ทำให้เราเห็นพื้นที่ทั้งหมดได้กว้างขึ้น รวมรายละเอียดสถานที่ทั้งหลาย
6. นี่คือยุคของวิดีโอ : คงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือยุคของวิดีโออย่างแท้จริง ดังนั้นการมีหน้าจอที่ใหญ่จึงตอบโจทย์การรับชมได้มาก เพราะจะทำให้เพลิดเพลินกับอรรถรสมากขึ้น
7. เสริมประสิทธิภาพของกล้อง : อาจสงสัยว่าเกี่ยวข้องอย่างไรจะเห็นว่าสมาร์ทโฟนในปัจจุบันก็ใช้กล้องคู่กันหมดแล้ว เลนส์แรกก็จะทำการจับภาพปกติ ส่วนเลนส์สองจับรายละเอียดเสริมเช่น วิว วัตถุ สภาพแสง เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่ผู้พัฒนาตั้งใจให้กล้องทำงานเช่นไร แต่ถ้าจะให้มีความแตกต่างเกิดขึ้น หน้าจออัตราส่วน 18:9 สามารถช่วยได้
อย่างที่ทราบกันว่าเมื่อเปลี่ยนอัตราส่วนใหม่ ภาพที่แสดงผลก็จะมีขนาดกว้างหรือสูงขึ้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเราถ่ายรูปแบบแนวนอนหรือแนวตั้ง ยกตัวอย่างง่ายๆ หากถ่ายแนวนอนก็จะได้ภาพกว้างกว้างกว่าเดิมเยอะเลย เมื่อเทียบ 4:3 หรือถ้าถ่ายภาพแนวตั้ง ถ้าต้องการถ่ายทั้งตัวคือหัวจรดเท้าจากเดิมต้องถอยให้ห่างๆ เพื่อให้กล้องจับภาพได้หมด แต่ว่าคราวนี้เราอาจไม่ต้องทำเช่นนั้นแล้ว
ภาพตัวอย่างหากเลือกโหมดถ่ายภาพอัตราส่วน 18:9
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเกร็ดความรู้ที่หยิบยกนำมาฝากกันเพราะ ณ ปัจจุบันเหล่าสมาร์ทโฟนมาพร้อมหน้าจออัตราส่วนใหม่ทั้งนั้นเลย และมีแต่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันใกล้ถึง 7 นิ้ว ส่วนจะถึงหรือไม่เราคงต้องรอลุ้นกัน ทว่าเทคโนโลยีกับนวัตกรรมย่อมทำให้เป็นไปได้ แม้เป็นไปไม่ได้ เพราะหากสังเกตเทรนด์ในปีนี้ ตลาดแท็บเล็ตช่างเงียบเหงา ถึงมีจะเริ่มที่ 8 นิ้วขึ้นไป ไม่มีเจ็ดนิ้วอีกแล้ว
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 24 พฤศจิกายน 2561
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
Tecno POVA 6 และ POVA 6 Neo เน้นแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ หน้าจอ 120Hz พลังเสียง Dolby Atmos
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone ยอดขายลดฮวบ ทำไม ?
TECNO CAMON 30 Premier 5G หน้าจอ AMOLED 6.77 นิ้ว ชิปเซ็ต Dimensity 8200 Ultimate กล้อง 3 ตัว 50MP
vivo T3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอ AMOLED 120Hz มีกล้องความละเอียดสูงสุด 50MP กันสั่น OIS
MOMENTUM Sport หูฟังไร้สาย ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิไปพร้อมเสียงเพลง
เตรียมเปิดตัว Samsung Galaxy Watch FE สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยาในปีนี้
vivo V30e 5G เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ ดีไซน์สีสวยสุดพรีเมียม แบตฯ 5500mAh
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย3 ชั่วโมงที่แล้ว