เทคโนโลยี (Technology)  |   วันที่ : 4 ตุลาคม 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

นักวิจัยผู้พัฒนาการทดสอบระดับสติปัญญา (Intelligence Quotient : IQ) สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence : AI) เผยว่า AI ของ Google มีความฉลาดมากกว่า Siri และ Bing แต่ก็ยังมีความฉลาดน้อยกว่าเด็กอายุ 6 ขวบ

ข้อมูลจากนักวิจัย Feng Liu, Yong Shi และ Ying Liu เผยว่า AI ของ Google มีระดับสติปัญญาหรือ IQ อยู่ที่ 47.28 ซึ่งเป็นผลการทดสอบที่ดำเนินการมาตลอดปี ค.ศ. 2016

ค่า IQ ของ Google อยู่ในระดับต่ำกว่า IQ ของเด็กอายุ 6 ขวบเพียงเล็กน้อย (55.5) แต่ก็ยังมากกว่า Siri ของ Apple ถึง 2 เท่าตัว (23.9) โดยเครื่องมือทดสอบของนักวิจัยบ่งชี้ว่า Siri ไม่ฉลาดเท่า Bing ของ Microsoft หรือแม้แต่ Baidu ซึ่งสองอย่างหลังมี IQ ใกล้เคียงกัน (31.98) และ (32.92) ตามลำดับ อีกทั้งสรุปได้ว่า AI ทั้งหมดมีค่า IQ น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของ IQ คนอายุ 18 ปี (97)

"ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์ของ Google, Baidu และอิ่น ๆ ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีช่องว่างที่เปรียบเทียบได้กับเด็กอายุ 6 ขวบ" เป็นส่วนหนึ่งของบทสรุปที่เขียนลงในรายงานที่เผยแพร่ผ่าน ArXiv วารสารรายวันของนักวิจัย

นักวิจัยยังได้เสนอรูปแบบการแบ่งลำดับชั้นให้กับระบบปัญญาประดิษฐ์และประเมินขีดความสามารถที่มันสามารถโต้ตอบกับมนุษย์ โดยผสมผสานความเป็น AI และคุณลักษณะของมนุษย์ท้ั้ง 4 ด้านในแง่ขององค์ความรู้ซึ่งประกอบด้วย ข้อมูลที่รับเข้ามา ข้อมูลที่ส่งออกไป การเรียนรู้และการสร้างสรรค์

ปัญญาประดิษฐ์ชั้นหนึ่ง (first-grade system) เป็นระดับที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับมนุษย์ได้ ปัญญาประดิษฐ์ชั้นหก (God-like sixth-grade system) เป็นระดับที่สามารถเทียบเคียงพระเจ้าซึ่งสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง มีความสามารถในการรับส่งข้อมูล เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และประยุกต์ใช้งานด้วยวิธีการแบบไร้ขีดจำกัดเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ

ปัญญาประดิษฐ์ชั้นสอง (second-grade system) เป็นระดับที่ถูกนำไปใช้งานบน smart TV และเครื่องซักผ้าอัตโนมัติซึ่งสามารถควบคุมข้อมูลของโปรแกรมแต่ขาดความสามารถในการเรียนรู้แบบอัตโนมัติ

ปัญญาประดิษฐ์ชั้นสาม (third-grade system) เป็นระดับที่ถูกนำไปใช้งานบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมและอัพเกรดข้อมูลได้เรื่อย ๆ ส่วนปัญญาประดิษฐ์ชั้นสี่ (fourth-grade system) เป็นระดับที่ถูกนำไปใช้งานบน Google Brain, Baidu Brain และเครือข่ายหุ่นยนต์ RoboEarth ของสหภาพยุโรป มีความสามารถประยุกต์ใช้ข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกันผ่านระบบคลาวด์

มนุษย์ซึ่งถูกมองว่าเป็น AI ระดับพิเศษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสอดคล้องกับปัญญาประดิษฐ์ชั้นห้า (fifth-grade) โดยระดับนี้มีความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ระดับต่ำกว่าชั้นนี้ไม่มี

นักวิจัยเชื่อว่า AlphaGo ปัญญาประดิษฐ์ในโครงการ DeepMild ของบริษัท Alphabet (Google) ออกแบบมานั้นเป็นปัญญาประดิษฐ์ชั้นสาม สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะมันยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา นอกจากนี้แม้จะเอาชนะมนุษย์ได้ในเกมหมากล้อม (โกะ) โดยใช้กลยุทธ์ที่แปลกใหม่แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์เนื่องจากยังต้องพึ่งพามนุษย์ในการฝึกสอน

"ถ้ามนุษย์ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือโปรแกรมนี้และ AlphaGo สามารถรับข้อมูลหมากล้อมด้วยความคิดของตัวเอง ตั้งโปรแกรมขึ้นเองและจำลองการแข่งขันเกมขึ้นเองเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการฝึกสอนเพื่อเอาชนะเกมการแข่งขันจริง เมื่อนั้นเราถึงจะกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำมากขึ้นได้ว่า AlphaGo คือสิ่งที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง"

"อย่างไรก็ตาม AlphaGo ไม่สามารถพัฒนากระบวนการดังกล่าวได้ จากมุมมองที่เรานำมาใช้ให้แบ่งระดับปัญญาประดิษฐ์จึงถูกคัดให้อยู่ในปัญญาประดิษฐ์ชั้นสามซึ่งต่ำกว่าระดับชั้นของมนุษย์อยู่ 2 ระดับ"

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่