สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 18 พฤศจิกายน 2560
ได้เปิดราคาออกมาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่ใครหลายคนก็จับตามองนั่นคือ Huawei Mate 10 Pro โดยเคาะราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 27,900 บาท เท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปอีกรุ่นหนึ่งคือ Samsung Galaxy S8 ดังนั้นในบทความนี้จึงนำทั้งสองมาเปรียบเทียบกันไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นหรือสเปกต่างๆ ว่าแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจเผื่อว่าช่วงสิ้นปีแบบนี้อยากมอบสมาร์ทโฟนเป็นของขวัญให้ตนเองหรือคนรอบข้าง แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อรุ่นอะไรดี มาเริ่มกันเลย!
เริ่มกันที่ Samsung Galaxy S8 ต้องบอกก่อนว่าเป็นรุ่นที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปี ดังนั้นจุดเด่นอาจดูเก่ากว่าอีกหนึ่งรุ่น แต่รุ่นท็อปของซัมซุงนี้ก็รวบรวมทุกอย่างเอาไว้ให้ใช้งานอย่างครอบคลุมแล้ว ไมว่าจะเป็นดีไซน์ที่มีความสวยงามหน้าจอใหญ่ในขนาดที่กะทัดรัดมากขึ้นด้วยเทคนิคหน้าจออัตรส่วน 18.5:9 จึงทำให้มีหน้าจอขนาดใหญ่แต่ขนาดตัวเครื่องไม่เพิ่มตาม มาพร้อมโหมดถนอมสายตา โหมดชมภาพยนตร์ สามารถเลือกปรับเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอได้เพื่อประหยัดแบตเตอรี่และเหมาะสมต่อการใช้งาน ทั้งยังมีคุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ด้านหน้าด้านหลังตัวเครื่องครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ส่วนปุ่มควบคุมมีน้อยลงโดยก็เหลือเพียงด้านข้างเท่านั้นคือปุ่ม Power ปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่ม Bixby สามารถกดใช้เพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ แต่หากไม่ต้องการก็ตั้งค่าปิดถาวรได้
ส่วน Huawei Mate 10 Pro ดีไซน์ไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก ซึ่งขอบบนกับด้านล่างหน้าจอจะเหลือพื้นที่นิดเดียวและไม่มีปุ่มโฮมเช่นกัน โดยปุ่มควบคุมจะอยู่ในหน้าจอเหมือนกับ Galaxy S8 ตัวเครื่องก็ใช้วัสดุโลหะครอบทับกระจก Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้ากับด้านหลังมาพร้อมคุณสมับติกันนํ้ากันฝุ่นมาตรฐาน IP67 และพอร์ต IR Blaster ให้คุณสามารถเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทในการควบคุมได้ ส่วนหน่วยประมวลผลได้มีชิปเซ็ตแยกเฉพาะของ AI เฉพาะถึงแม้ว่าจะยังไม่มีผู้ช่วยส่วนตัวเหมือน Samsung แต่ด้วยการออกแบบระบบปัญญาประดิษฐ์ของหัวเหว่ย ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้ดี เช่นการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ การบริหารจัดการทรัพยากรเครื่อง การประมวลผลภาพถ่าย เป็นต้น
อย่างที่เกริ่นข้างต้นทั้งสองใช้วัสดุตัวเครื่องในการผลิตเหมือนกัน ซึ่งก็แตกต่างกันที่ดีไซน์ทั้งสองรุ่นต่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ส่วนระบบปฏิบัติการเนื่องจาก Galaxy S8 เปิดตัวเมื่อต้นปีระบบปฏิบัติการจึงยังเป็นเวอร์ชั่น 7.0 (Nougat) อยู่ ซึ่งตามข่าวล่าสุดทางแบรนด์ก็กำลังพัฒนา Android Oreo อยู่ และเตรียมปล่อยให้อัปเดตเร็วๆ นี้ ขณะที่ Mate 10 Pro ก็ไม่ต้องลุ้นแล้ว เพราะมาพร้อมเวอร์ชั่นใหม่เลย แต่ที่พิเศษกว่านั้นด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้งาน EMUI 8.0 ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นเพื่อใช้จอใหญ่ได้เลยแบบที่แค่เชื่อมต่อพอร์ตต่อพอร์ต ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม
นอกจากนี้ยังมีประเด็นสำคัญเพิ่มเติมคือ Galaxy S8 จะรองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแต่เป็นถาดซิมแบบ Hybrid โดยก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างใส่สองซิมการ์ดหรือหนึ่งซิมการ์ดและ Micro SD Card ทว่า Mate 10 Pro ไม่สามารถใส่หน่วยความจำภายนอกเพิ่มได้ซึ่งใส่ได้เพียงสองซิมการ์ดเท่านั้น ขณะที่การเชื่อมต่อทั้งคู่ใช้งานซิมการ์ดที่หนึ่งได้ความเร็วสูงสุด 4G (ระดับความเร็วขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งานซึ่งจะเร็วกว่าระดับ 4G)
ส่วนอีกหนึ่งซิมการ์ดด้าน Galaxy S8 จะเชื่อมต่อได้ความเร็วสูงสุดเพียง 3G เท่านั้นแต่ว่า Mate 10 Pro ระบุว่ารองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual 4G Dual VoLTE นั่นทำให้คุณสามารถโทรติดต่อสื่อสารได้ทั้งสองซิมการ์ดในระดับความเร็วสูงสุด
Galaxy S8 เป็นหน้าจออััตราส่วนใหม่คือ 18.5:9 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Infinity Display ให้ขนาดหน้าจอกว้างกว่าเดิม แต่ยังคงจับถือสะดวกไม่รู้สึกเทอะทะเนื่องจากขอบเครื่องมีความโค้งเล็กน้อยก็เพื่อให้สอดรับกับฝ่ามือ โดยมีขนาด 5.8 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด Quad HD+ สามารถปรับแต่งความละเอียดได้เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ส่วนความหนาแน่นต่อพิกเซลมี 570ppi อีกทั้งหน้าจอจะรองรับแรงกดสำหรับใช้งานในรูปแบบต่างๆ มาพร้อมฟังก์ชั่น Always ON Display เช็คการแจ้งเตือนแบบไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ
Mate 10 Pro จะมีหน้าจอขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยโดยมาพร้อมขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 เรียกว่า FullView และเพิ่มความน่าสนใจด้วยหน้าจอประเภท OLED ถือเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่หันมาใช้หน้าจอประเภทนี้ทำให้ภาพแสดงผลได้คมชัดสวยงามมากขึ้น ขณะที่ความละเอียดก็ถือเป็นข้อแตกต่างมีความละเอียดแค่ FullHD+ (2160 x 1080 พิกเซล) เท่านั้น มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 402ppi
Galaxy S8 | Mate 10 Pro | |
ระบบปฏิบัติการ | แอนดรอยด์ 7.0 ครอบทับ Samsung Experience 8.1 | แอนดรอยด์ 8.0 ครอบทับ EMUI 8.0 |
หน่วยประมวลผล | Snapdragon 835 | Kirin 970 |
GPU | Adreno 540 | Mali-G72 MP12 |
RAM | 4GB | 6GB |
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน | 64GB | 128GB |
MicroSD Card | 256GB | ไม่รองรับ |
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | รองรับ | รองรับ |
แบตเตอรี่ | 3,000mAh รองรับชาร์จเร็ว | 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว |
ทั้งสองรุ่นจะมีเหมือนกัน คือรองรับการเชื่อมต่อ WiFi ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz มีพอร์ต USB Type-C มาตรฐาน 3.1 Gen 1 และระบบอื่นๆ อาทิ GPS, Glonass, WiFi Direct และ NFC
ข้อแตกต่างสำคัญคือ Samsung Galaxy S8 มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรพร้อม Bluetooth 5.0 ส่วน Huawei Mate 10 Pro นั้นไม่มีช่องเสียบหูฟังและ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.2 เท่านั้น แต่มีฟังก์ชั่น IR Blaster จึงสามารถใช้งานเป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
สำหรับ Samsung Galaxy S8 อาจเป็นข้อผิดพลาดหลักช่วงต้นปีที่ไม่ยอมใช้กล้องคู่ แต่ทางแบรนด์ระบุว่าได้ปรับปรุงซอฟต์แวร์รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ดีกว่าเดิม ส่วนสเปกกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลแบบ Dual Pixel และระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS มีรูรับแสง f/1.7 จุดพิกเซลขนาด 1.4µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55 นิ้ว รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K (พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว VDIS) โดยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส มีรูรับแสงกว้าง f/1.7 จุดพิกเซล ขนาด 1.22µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.6 นิ้ว มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 80 องศา สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลาย
ส่วน Huawei Mate 10 Pro ต้องบอกว่าอาจมีภาษีดีกว่าที่กล้องด้วย Dual Camera พร้อมมาตรฐาน Leica ทั้งด้านหน้าด้านหลัง สำหรับกล้องหลังมีเลนส์ SUMMILUX-H เลนส์ Mono ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เลนส์สีมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและรูรับแสง f/1.6 ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS แบบคู่ใช้ระบบจับโฟกัส PDAF + CAF + Laser + Depth Auto Focus รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ซึ่งกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
สรุปข้อแตกต่างสำคัญระหว่างสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น
Samsung Galaxy S8 | Huawei Mate 10 Pro | |
คุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่น | IP68 | IP67 |
IR blaster | ไม่รองรับ | รองรับ |
ชาร์จไร้สาย | รองรับ | ไม่รองรับ |
สแกนม่านตา | รองรับ | ไม่รองรับ |
ความละเอียดหน้าจอ | QuadHD+ | FullHD+ |
Bluetooth | เวอร์ชั่น 5.0 | เวอร์ชั่น 4.2 |
ความจุแบตเตอรี่ | 3000mAh | 4000mAh |
ใส่ Micro SD Card | รองรับ | ไม่รองรับ |
ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร | รองรับ | ไม่รองรับ |
รูรับแสง | f/1.7 | f/1.6 |
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการเทียบในครั้งนี้ ต้องบอกว่าจุดเด่นก็ใกล้เคียงกันเช่นเดียวกับการดีไซน์ แต่ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน ส่วนสเปกการใช้งานไหลลื่นไม่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นเกมหรือการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ Samsung Galaxy S8 ได้วางจำหน่ายตามร้านค้าชั้นนำทั่วไปแล้วในราคา 27,900 บาท ส่วนรุ่นพี่ Galaxy S8+ จับจองได้ในราคา 30,900 บาท
Huawei Mate 10 Pro เปิดจองแล้วตั้งแต่วันที่ 18 - 26 พฤศจิกายน 2560 จ่าย 2,000 บาท โดยลูกค้าที่จองในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับของสมนาคุณพิเศษ คือ HUAWEI Brand 2 Pro สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่า 3,990 บาท และก็ HUAWEI Mate Dock 2 อุปกรณ์เชื่อมต่อจออิเล็คทรอนิกส์ มูลค่า 2,490 บาท มี 2 สี Mocha Brown กับ Midnight Blue ในราคา 27,900 บาท
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 18 พฤศจิกายน 2560
ฟีเจอร์กล้อง 108MP ใน HUAWEI nova 12i สเปกเท่าเรือธงในงบต่ำหมื่น
Infinix NOTE 40 Series ชิปแรง ชาร์จไว พร้อมที่ชาร์จไร้สาย MagCase
Google Pixel 8a หลุดสเปคและฟีเจอร์เด็ด เตรียมเปิดตัวพร้อม Android 15
Infinix GT 20 Pro หน้าจอ 6.78 นิ้ว FHD+ กล้องหลัง 108MP แบตเตอรี่ 5000mAh
รีวิว OPPO A60 อีกขั้นของความสนุก ราคาไม่ต้องแรง ก็ได้ความทนทานระดับ Military-Grade
realme P1 และ realme P1 Pro หน้าจอ AMOLED-120Hz กล้องหลัง 50MP ชาร์จเร็ว 45W
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
OPPO และ OnePlus เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ AI อย่าง AI Eraser ทั่วโลก
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
คุ้มไหมที่จะซื้อ? Samsung Galaxy Tab S6 Lite (2024) แท็บเล็ตโทรได้ ลำโพง Dolby ATMOS แบตฯ เยอะ
เจาะลึกเทคโนโลยีกล้อง AI บนสมาร์ทโฟน HONOR Magic6 Pro17 ชั่วโมงที่แล้ว