หูฟัง Earbuds (Earbuds)  |   วันที่ : 28 พฤศจิกายน 2560

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ในปี 2017 ก็ถือว่ามีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเรื่อยๆ สำหรับอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะอย่าง สมาร์ทวอทช์ ที่ทุกวันนี้มีมากมายหลายยี่ห้อ และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลายอุปกรณ์ หรือแม้กระทั้งรองรับสัญญาณ Cellular ได้ในตัว ทีนี่มาดูกันดีกว่าว่า สมาร์ทวอทช์ ตัวท็อปน่าใช้ของปี 2017 มีรุ่นไหนออกมาเปิดตัวกันบ้าง พร้อมหาซื้อในประเทศไทยได้แล้วขณะนี้

1. Apple Watch Serie 3

สำหรับ Apple Watch Series 3 เป็นการพัฒนาไปสู่อีกขั้นของสมาร์ทวอทช์ จากค่าย Apple โดยคราวนี้มีการพัฒนาให้เน้นไปในด้านกีฬามากยิ่งขึ้น เพราะมีแอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกในหลายๆ ด้านรองรับอยู่ และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ iPhone ตลอดเวลาอีกแล้ว เนื่องจากตัวเครื่องการรองรับสัญญาณแบบ Cellular แบบ eSIM ทำให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตจากสัญญาณโทรศัพท์ได้ทันที และการโทรออกหรือส่งข้อความก็ทำได้ทั้งหมด โดยราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ 11,900 บาท

รีวิว Apple Watch Serie 3 : http://news.siamphone.com/news-33376.html

2. Samsung Gear S3

ยังคงเป็นจุดเด่นของ Samsung ในการจัดสเปคแบบจัดเต็มมาให้กับสมาร์ทวอทช์ของค่าย โดยล่าสุดเป็น Samsung Gear S3 ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Exynos 7270 Dual 1.0 GHz, RAM 4GB, ROM 768MB และแบตเตอรี่ 380 mAh ชาร์จแบตฯ 15 นาที ใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมง (ในโหมดแสตนบาย) รองรับมาตรฐาน IP68 ระบบปฏิบัติการ Android Wear 2.0 พร้อมมี GPS ในตัว เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นสมาร์ทโฟนดีๆ นี้เอง และที่สำคัญยังมาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED เหมือนที่ใช้ในสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy ซึ่งจะมีให้เลือก 2 สไตล์ทั้งแบบ Classic กับแบบ Frontier และจะมีแบบ Sport ตามมาอีกเร็วๆ นี้ แถมข่าวล่าสุดบอกมาด้วยว่าเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ iOS ได้แล้วอีกด้วย ตอนนี้มีราคาอยู่ที่ 11,099 บาท

รีวิว Samsung Gear S3 : http://news.siamphone.com/news-29209.html

3. Huawei Watch 2 Sports

ก็เป็นไปตามชื่อรุ่น Huawei Watch 2 Sports ที่จะเน้นไปในด้านการออกกำลังกายเป็นหลัก ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์วัดระดับในด้านต่างๆ ทั้งการเต้นของหัวใจ, การเดิน, การวิ่ง หรือปีนเขา การออกแบบก็แข็งแรงทั้งส่วนของสายและหน้าปัด แถมยังมีให้เลือกสายหลากสีอีกด้วย โดยตัวเครื่องจะรันในระบบปฏิบัติการ Android Wear 2.0 รวมถึงรองรับระบบ NFC และมีให้เลือก 2 รุ่นทั้งแบบรองรับ 4G กับรองรับ Wi-Fi & Bluetooth ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 16,899 บาท

 

4. Asus ZenWatch 3

Asus ZenWatch 3 จะมาในรูปแบบทันสมัยหน้าปัดทรงกลม หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ AMOLED ครอบทับด้วยประจก Gorilla Glass และล่าสุดได้รับการอัพเดทเป็น Android Wear 2.0 แล้วด้วย ซึ่งจะใช้งานได้ดี เมื่อใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นตัวชูโรงอย่าง ZenFit ที่ไว้สำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ แถมทาง Asus ยังเครมไว้ว่ามีประสิทธิภาพในการนับก้าวเดินแม่นยำถึง 95% โดยมีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 9,900 บาท

5. LG Watch Style

สำหรับ LG Watch Style จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android Wear 2.0 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งเป็นรุ่นแรกในตลาดสมาร์ทวอทช์เลยก็ว่าได้ ส่วนการออกแบบจะเน้นไปทางสวยหรู ตัวเรือนจะทำจากวัสดุสแตนเลสและสายเป็นแบบหนัง ตรงหน้าปัดเป็นทรงกลม จอสัมผัสแบบ P-OLED ขนาด 1.2 นิ้ว สเปคภายในมีเซ็นเซอร์วัดแสง (Ambient light sensor) ตัวขับเคลื่อน Snapdragon Wear 2100, RAM 512MB และตัวเก็บข้อมูลภายในสูงถึง 4GB ที่สำคัญได้มาตรฐาน IP67 ตอนนี้สามารถหาซื้อได้แล้วในราคา 11,750 บาท

6. Garmin vívomove HR

ตามปกติยี่ห้อ Garmin จะเน้นทำสมาร์ทวอทช์ไปในด้านออกกำลังกายเป็นหลักอยู่แล้ว แต่สำหรับ Garmin vívomove HR จะเป็นการผสมผสานระหว่างนาฬิกาแฟชั่นและสมาร์ทวอทช์เข้าด้วยกัน แต่ก็ยังมีฟีเจอร์ในด้านสุขภาพและการออกกำลังการมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการเช็คระดับการเต้นของหัวใจ, ติดตามการนอนหลับของผู้ใช้ และตรวจสอบกิจกรรมด้านฟิตเนส รวมไปถึงการใช้งานร่วมกับ Garmin Connect ที่เป็นแหล่งชุมนุมออนไลน์และเก็บสถิติต่างๆ โดยจะมีให้เลือก 2 แบบ sport และ premium ซึ่งคาดการณ์ว่าจะขายในประเทศไทยด้วยราคาประมาณ 8,990 และ 13,990 บาท ตามลำดับ

7. Nokia Steel

ค่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่อย่าง Nokia ก็มีการจับตลาดสมาร์ทวอทช์ด้วยเช่นกัน ซึ่งการออกแบบของ Nokia Steel ค่อนข้างมาแบบเรียบหรูทันสมัย แต่ก็ยังมีการใช้งานด้านสุขภาพและการออกกำลังกายอยู่เช่นกัน ทั้งการบอกระยะทางที่แม่นยำ, คำนวณแคลอรี่ที่เผาผลาญไป รวมตรวจจับเวลาในการนอน ที่สำคัญกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งระบบ Android และ iOS ผ่านการใช้งานแอพพลิเคชั่น Nokia Health Mate ซึ่งสามารถหาซื้อด้วยราคา 5,490 บาท ส่วนรุ่น Steel Limited Edition จะมีราคา 6,290 บาท และเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัว Nokia Steel HR ที่เพิ่มฟีเจอร์วัดระดับการเต้นของหัวใจบนหน้าปัดอีกด้วย

8. Fitbit blaze

ปิดท้ายด้วยค่าย Fitbit ซึ่งเป็นอีกค่ายที่เน้นทำสมาร์ทวอดช์ไปในด้านออกกำลังการเช่นกัน โดย Fitbit blaze แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 แต่ภาพรวมก็ยังน่าใช้อยู่ ซึ่งจะมาด้วยรูปทรงเหมือนนาฬิกา ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆที่ทำออกมาเหมือนสายรัดข้อมือ โดยหน้าจอเป็นหน้าจอสัมผัส มีการแจ้งเตือนต่างๆ รวมถึงฟังเพลงได้ในตัว ส่วนด้านการออกกำลังกายก็มีการติดตามผ่าน GPS พร้อมดูสถานะการเผาผลาญของแคลอรี่ ส่วนด้านสุขภาพก็มีการตรวจจับการเต้นของหัวใจ รวมไปถึงเก็บสถิติการนอนและให้คำแนะนำต่างๆ การเชื่อมต่อก็สามารถเชื่อต่อผ่านสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android และ iOS ผ่านแอพพลิเคชั่น Fitbit จากทั้งหมดมีราคาในตอนนี้ 8,566 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับสมาร์ทวอดช์ตัวท็อปน่าใช้ทั้ง 8 รุ่นทางด้านบน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและข้อแตกต่างที่ไม่ต่างกันมากนัก และที่จริงยังมีสมาร์ทวอดช์อีกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ที่พร้อมมาเป็นตัวเลือกเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเรา แถมยังมีราคาถูกกว่าอีกมากมาย แต่จากที่เรานำมาเสนอเป็นเหล่าตัวท็อปน่าใช้ของแบรนด์ต่างๆ ในปี 2017

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่