สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 6 ธันวาคม 2560
คงต้องบอกเลยว่าสมาร์ทโฟนในโลกปัจจุบัน มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ออกมาไม่เว้นแต่วัน จนทำให้สมาร์ทโฟนที่เราใช้งานอยู่มีความล้าหลังอย่างรวดเร็ว เต็มที่ก็ยืนระยะได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ซึ่งก็มีหลายคนฝืนใช้ต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะโดนเหล่าค่ายพัฒนาลอยแพไปแล้วก็ตาม แต่เราจะรู้ได้อย่างไรบ้างว่าสมาร์ทโฟนที่เราใช้อยู่ ได้เวลาเปลี่ยนเครื่องแล้ว
1. ไม่ได้รับการอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
น่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานเลยก็ว่าได้ เพราะหากเครื่องสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้รับการอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นใหม่ นั้นคือสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นถูกทางค่ายพัฒนาลอยแพเข้าแล้ว ซึ่งการทำงานในด้านต่างๆ จะเกิดความช้า และก็ไม่มีฟีเจอร์ใหม่ให้มาใช้งาน แต่หากขั้นตอนนี้มีผู้ใช้งานบางรายบอกว่า ก็ยังสามารถใช้ได้อยู่ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ซึ่งก็จริงอยู่แต่ลองไปดูสัญญาณบ่งบอกที่ 2 กันก่อนดีกว่า
2. ประสิทธิภาพการใช้งานลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ในช่วงแกะกล่องออกมาใหม่ๆ ประสิทธิภาพในการใช้งานสมาร์ทโฟนอาจจะยังเร็วไหลลื่นราวกับติดจรวด แต่พอใช้งานไปในระยะยาวจะเริ่มรู้สึกเครื่องเกิดอาการอืดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเพราะผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งาน รวมไปถึงเก็บไฟล์รูปภาพและไฟล์ต่างๆ ไว้ในเครื่องจำนวนมาก ทำให้เครื่องเกิดอาการช้า ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าจะมีความจุเก็บข้อมูลค่อนข้างน้อย ทำให้เครื่องเกิดทำงานหนัก ผิดกับรุ่นใหม่ที่มีความจุมาให้ค่อนข้างเยอะขึ้น แถมพอเอาไปรวมกับการที่เครื่องไม่ได้รับการอัปเดต ยิ่งช้าขึ้นไปเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว
3. แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
แบตเตอรี่เสื่อมสภาพคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นไปตามอายุไขการใช้งาน ยิ่งนานไปยิ่งเกิดปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หมดไว, ชาร์จไฟไม่เข้าหรือชาร์จไม่เต็มซักที และยิ่งเครื่องสมาร์ทโฟนของคุณเป็นแบบห้ามถอดฝาหลังออก ก็น่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเครื่องได้แล้ว
4. หน้าจอเกิดอาการ Burn-in
หน้าจอ Burn-in สามารถเกิดขึ้นได้ในสมาร์ทโฟนทุกระบบปฏิบัติการ โดยอาการหน้าจอจะมีสีเพี้ยนๆบางจุด และจะปรากฏขึ้นแบบถาวร ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ด้วยการ หาภาพที่เป็นสีขาวทั้งหน้าจอจะทำให้เห็นจุดที่หน้าจอสีเพี้ยนๆ ได้ชัด (ส่วนใหญ่จะเกิดตรงแถวๆ ปุ่มนำทางหากเป็นแบบซอฟต์แวร์) แต่อาการหน้าจอ Burn-in มักจะเกิดขึ้นกับหน้าจอแสดงผลที่เป็นแบบ OLED มากกว่าจอแสดงผลแบบ LCD และหากใครมีอาการแบบนี้ พร้อมกับใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานแล้ว ก็ควรซื้อเครื่องใหม่ไปเลยดีกว่า เพราะค่าเปลี่ยนหน้าจอใหม่คงจะแพงเอาเรื่องหน้าดู
5. อุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดกับสมาร์ทโฟน
ถ้าเกิดคุณมีการใช้สมาร์ทโฟนไปซักระยะหนึ่ง ย่อมมีการเกิดอุบัติเหตุซักครั้ง ส่วนใหญ่จะมาจากการตกลงพื้นจนทำให้หน้าจอแสดงผลแตกร้าว หรือบริเวณตัวเครื่องเกิดความเสียหาย แต่รู้หรือไม่ว่าส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยังได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นปุ่มหรือพอร์ตอาจจะเกิดอาการเอ๋อใช้งานได้บ้างไม่ได้บ้าง รวมไปถึงเซ็นเซอร์ภายในทั้งหมด ซึ่งหากเป็นเครื่องใหม่ก็อาจจะยังไปเอาศูนย์เพื่อซ่อมแซมได้อยู่ แต่หากเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าและเครื่องพบกับอุบัติเหตุบ่อยๆ จนอาการเกินเยี่ยวยา การเปลี่ยนเครื่องใหม่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
จากข้างบนคือ 5 สัญญาณบ่งบอกถึงเวลาเปลี่ยนสมาร์ทโฟน ก็น่าจะเพียงพอนำมาเป็นเหตุผลในการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ได้แล้ว ซึ่งหากสมาร์ทโฟนของคุณใช้มาเป็นระยะเวลานาน และเป็นไปตามที่ว่ามาทั้ง 5 ข้อหรืออย่างน้อยๆ 2-3 ข้อ ก็ควรเตรียมพิจารณามองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ไว้ได้เลย
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.androidauthority.com วันที่ : 6 ธันวาคม 2560
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
Tecno POVA 6 และ POVA 6 Neo เน้นแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ หน้าจอ 120Hz พลังเสียง Dolby Atmos
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
ทำความรู้จัก vivo Y100 4G หน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 3 เลนส์ ระบบเสียง Hi-Res ชาร์จเร็ว 80 วัตต์ ราคา...
Moto G64 5G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ Dimensity 7025 พร้อมกล้อง 50MP กันสั่น OIS
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
Hyundai IONIQ 6 ดีไซน์ล้ำสมัย ขับขี่ไกล 545 กม. เปิดตัวในไทยราคา 1.899 ล้านบาท
Moto G64 5G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ Dimensity 7025 พร้อมกล้อง 50MP กันสั่น OIS
Mercedes-Benz แนะนำ 5 ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถอีวีและและปลั๊กอินไฮบริด