สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 26 กุมภาพันธ์ 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

เพิ่งเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ อย่างสมาร์ทโฟนตัวล่าสุดจากแบรนด์ Samsung อย่าง Galaxy S9 และ S9+ ที่มีการพัฒนาและเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาอย่างมากมาย ตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ, กล้อง, ระบบความปลอดภัย และลูกเล่นอื่นๆ แต่หากใครที่ยังชั่งใจไม่ได้ว่าจะเลือกรุ่นไหนมาอยู่ในมือเราดี ระหว่างรุ่นใหม่อย่าง Galaxy S9/S9+, ตัวรุ่นน้องอย่าง Galaxy S8/S8+ และรุ่นพี่อีกตระกูลอย่าง Galaxy Note 8 ในวันนี้เราก็จะมาเปรียบเทียบและสรุปสเปคกันชัดๆ ว่าแต่ละรุ่นมีสเปคที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

 

ดีไซน์

ในส่วนของดีไซน์ ทั้ง 3 รุ่นก็ยังคงมีสไตล์จอโค้งพร้อมกระจก Gorilla Glass 5 เหมือนกัน มีมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่นระดับ IP68 และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แต่เมื่อดูขนาดแล้ว Note 8 จะมีความสูง, กว้าง และเหลี่ยมมากกว่ารุ่นอื่น แต่ก็ยังคงสะดวกที่จะใช้งานในมือเดียวอยู่
และในส่วนที่ได้รับคำวิจารย์มากที่สุดจากรุ่นก่อน คือ ตำแหน่งการวางเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ทาง Galaxy S9/S9+ ก็ได้ปรับใหม่ให้มาอยู่ด้านล่างกล้องเพื่อความสะดวกที่มากขึ้น

 

หน้าจอ

ด้านหน้าจอ Galaxy S9/S9+ มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 1440 x 2960 พิกเซล กว้าง 5.8 และ 6.2 นิ้ว ตามลำดับ (เทียบเท่า Galaxy S8/S8+) ส่วนด้าน Note 8 จะมีความกว้างกว่าเล็กน้อยที่ 6.3 นิ้ว

 

หน้าตาการใช้งาน

สมาร์ทโฟนตัวล่าสุดทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo เป็นค่าเริ่มต้น และมี Samsung Experience เวอร์ชั่นล่าสุดอีกด้วย ทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เราไม่ได้เห็นจากรุ่นก่อน เช่น AR Emoji, การใช้เทคโนโลยีสแกนม่านตาควบคู่กับการสแกนใบหน้าไปพร้อมกัน และ Samsung DeX เป็นต้น

 

กล้อง

Samsung ได้หันมาพัฒนากล้องคู่ตั้งแต่รุ่น Note 8 เมื่อปลายปี 2017 ซึ่งตัวต่อมาที่เราได้เห็นกันคือรุ่น S9+ (S8, S8+ และ S9 ใช้กล้องเดี่ยว) ซึ่งทั้ง 2 รุ่นที่มีกล้องคู่นั่นมีความละเอียดเท่ากันที่ 12+12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่นไหวแบบคู่ (Dual OIS)

ทั้งนี้ สิ่งที่พิเศษของ Galaxy S9/S9+ นั่น คือการปรับค่ารูรับแสงได้ถึง 2 ค่า (Dual Aperture) ได้แก่ f/1.5 และ f/2.4 ซึ่งทาง Samsung ได้เคลมไว้เลยว่ากล้องแบบใหม่นี้ทำให้ได้ความสว่างกว่ารุ่น S8/S8+ ถึง 28% และลดเม็ดสีรบกวน (Noise) ได้มากถึง 30%

นอกจากนี้ การถ่ายวิดีโอทั้ง 5 รุ่นดังกล่าว ก็ให้ความละเอียด 4K ได้ทั้งหมด แต่สำหรับ S9+ จะแตกต่างออกไปเล็กน้อย เพราะสามารถถ่ายวิดีโอแบบสโลวโมชั่นอยู่ 960 fps ที่ความละเอียด 720p ขณะที่ S8/S8+ และ Note 8 สามารถถ่ายได้ 240 fps ที่ความละเอียด 720p

 

แบตเตอรี่
ในเรื่องของแบตเตอรี่ ก็ยังคงไว้เท่าเดิม (สำหรับตระกูล Galaxy S) ดังนี้

โดยทั้ง 5 รุ่นนี้ ก็ยังมีเทคโนโลยีการชาร์จไว (Quick Charge 2.0) เช่นเดิม

 

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจของ Galaxy S9 และ S9+

  • Intelligent Scan : ใช้การสแกนม่านตาพร้อมกับสแกนใบหน้าในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับการใช้แอพฯ ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น แอพฯ จ่ายเงิน หรือการทำธุรกรรมต่างๆ
  • Bixby : ผู้ช่วยอัจฉริยะประจำค่ายก็ได้พัฒนาให้ฉลาดขึ้นด้วยการใช้ AR แสดงผล ได้แก่ การแปลภาษา, สถานที่ช็อปปิ้ง, ที่เที่ยว, ร้านอาหาร และรูปภาพ
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอริโอคู่ AKG พร้อมรองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos
  • Samsung DeX : สามารถเชื่อมต่อกับคิมพิวเตอร์ เพื่อใช้จอภาพของสมาร์ทโฟนทำหน้าที่เป็นทัชแพดหรือคีย์บอร์ด

 

ตารางสรุปสเปคของทั้ง 5 รุ่น

 (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่)

สุดท้ายนี้ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ในประเทศไทยจะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight Black), สีม่วง (Lilac Purple) และสีฟ้า (Coral Blue) โดยจะเริ่มเปิดพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2561 (จัดส่งตั้งแต่ 9 - 11 มีนาคม) และจะเริ่มเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคม 2561

 

เพิ่มเติม : สามารถอ่านข้อมูลและชมภาพตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่ Hands On : Samsung Galaxy S9 / S9+

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่