สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 10 มิถุนายน 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ต้องบอกว่าปีนี้คือยุคของสมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์ Fingerprint Under Display หรือ "ระบบสแกนลายนิ้วมือที่หน้าจอและนับต่อจากนี้เชื่อว่าเราจะได้เห็นอีกหลายรุ่นที่มีจุดเด่นดังกล่าว ส่วนปุ่มแบบกายภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังก็จะถูกลบเลือนหายไปตามกาลเวลา แล้วเหตุผลคืออะไร ทำไมถึงต้องเปลี่ยนลักษณะการใช้งาน จากนั้นลองมาดูข้อดีกับข้อควรระวังกันหน่อย พร้อมส่องเหล่า Smartphone รุ่นที่มีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่วางจำหน่ายในไทยแล้ว เผื่อใครกำลังอยากซื้อ และเป็นข้อมูลสำหรับการดูแลด้วย 

 

รู้หรือไม่! ทำไมต้องมีการสแกนลายนิ้วมือที่ใต้หน้าจอ

เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามนี้ขึ้นแน่นอน เหตุผลนั้นง่ายมากคือ ความสะดวกแค่นั้นเอง เป็นปกติที่จะต้องมีระบบการยืนยันตัวตน เพื่อป้องกันบุคคลอื่นสวมรอยใช้งาน เนื่องจากสมาร์ทโฟนคือทุกอย่างในปัจจุบัน อาทิ อีเมล์, ข้อความการนัดหมาย, ธุรกรรมทางการเงิน หรือแม้แต่ข้อมูลส่วนตัวทั้งหลาย ทว่าทางเลือกที่ถูกต่อยอดขึ้นมาคือ ระบบสแกนใบหน้ากับสแกนม่านตา ทั้งสองอย่างกับดูใช้งานยาก และสามารถหลอกระบบได้ แต่กับการสแกนลายนิ้วมือก็ต้องใช้หลายกรรมวิธีกว่าจะปลอมแปลงได้

 

เหตุผลที่สอง : ความทันสมัย เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวก แน่นอนผู้ขายทุกรายย่อมอยากสร้างความแตกต่าง ใครที่ริเริ่มก่อน หากประสบความสำเร็จก็อาจติดลมบนไปเลย ดังนั้นสมาร์ทโฟนของพวกเขาจึงมีความทันสมัย และดีไซน์ไม่เหมือนก่อน ลบภาพเดิมของปุ่มออกไป ทั้งยังหมดกังวลเรื่องการปลอมแปลงอีกด้วย พร้อมเพิ่มความสะดวกในคราวเดียวกัน

ทำไมถึงบอกว่าระบบสแกนลายนิ้วมือที่หน้าจอดีกว่าแบบเก่า ลองนึกภาพทุกครั้งที่เราสแกนนิ้วมือที่สมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นกระจกหรือพื้นผิวโลหะจะทิ้งรอยนิ้วมือไว้ นั่นหมายความว่าคุณสามารถปลอมแปลงได้หากเผลอวางทิ้งไว้ ทางกลับกันฟีเจอร์ Fingerprint Under Display จะปลอดภัยมากกว่า แม้ปลดล็อคเสร็จอย่างน้อยก็ทัชสกรีนหน้าจอต่อ ทำให้ทิ้งรอยคราบนิ้วมือไว้เช่นกัน แต่เป็นในลักษณะต่างๆ เช่น ลาก, เลื่อน, แตะ จึงยากปลอมแปลง

 

เหตุผลที่สาม : ไม่เปลืองพื้นที่ภายในตัวเครื่อง เราจะเห็นว่าปุ่มสแกนลายนิ้วมือมักอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง หรือด้านล่างใต้หน้าจอ ซึ่งล้วนแต่เป็นการใช้พื้นที่ไม่เป็นประโยชน์ โดยหลายคนอาจสงสัยว่าเซ็นเซอร์จะไปอยู่ใต้หน้าจอได้ยังไง คำตอบไม่ยากเลยเพราะหน้าจอ OLED นั่นเองซึ่งมีแผ่นเลเยอร์บาง และยืดหยุ่น ทั้งให้รับการสัมผัสที่แม่นยำทำให้การฝังเซ็นเซอร์ไว้ใต้แผงหน้าจอจึงเป็นเรื่องง่าย

 

หลังจากทราบเหตุผลกันแล้ว เรามาดูข้อดีและข้อควรระวังกันบ้าง

แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนมีระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอสามารถสรุปข้อดีได้ว่าช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน และประหยัดพื้นที่ฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องทำให้เพิ่มเติมฮาร์ดแวร์อื่นๆ ได้ อาทิ แรม, แบตฯ หรือฮาร์ดแวร์ของระบบกล้อง ทว่าในข้อดีก็มีข้อควรระวังเช่นกัน เพราะถ้าเกิดหน้าจอของเรานั้นเสียหายเมื่อใด ซ่อมยุ่งยากและมาพร้อมราคาที่แสนแพง เนื่องจากเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์วางแผงเซ็นเซอร์ไว้ไม่เหมือนกัน บ้างก็ระหว่างชั้นเลเยอร์ของหน้าจอ บ้างก็ใต้แผงเลเยอร์ทั้งหมด ดังนั้นไม่อยากปวดใจกับกระเป๋าแห้ง อาจต้องระมัดระวังกันหน่อย!

 

ลำดับต่อไปมาส่องสมาร์ทโฟนที่มี Fingerprint Under Display กันหน่อยว่ามีรุ่นอะไรบ้าง

เริ่มจากรุ่นที่ราคาสูงที่สุดก่อนเลย แต่ก็มาพร้อมกับความพรีเมี่ยมและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใครนั่นคือ Huawei Mate RS ด้วยจุดเด่นกล้องหลังมาตรฐาน Leica ถึง 3 ตัวกับความละเอียดแบ่งเป็น 40MP เลนส์ RGB + 20MP เลนส์ Mono และเลนส์ Telephoto อีก 8MP พร้อมระบบจับโฟกัสที่มากถึง 4 ประเภทคือ PDAF + CAF + Laser + Depth auto Focus ทำให้ภาพที่ได้นั้นมีความคมชัด สมจริงเป็นธรรมชาติ ผสมผสานอย่างลงตัวกับระบบ AI ช่วยประมวลผลภาพ นอกจากนี้มีลำโพงแบบ Dual SLS ให้เสียงแบบ 3D กับกันนํ้ากันฝุ่นมาตรฐาน IP67 โดยสามารถเก็บข้อมูลได้จุใจ 256GB

 

Huawei Mate RS วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ราคา 54,990 บาท ณ หัวเว่ย แบรนด์ ช้อปและร้านค้าที่ร่วมรายการ 8 สาขา ดังต่อไปนี้

  • HUAWEI Experience Shop G Tower Rama9
  • HUAWEI Experience Shop Siam Paragon
  • HUAWEI Experience Shop Emquartier
  • HUAWEI Experience Shop Central Bangna
  • Power Buy Central World
  • Power Buy Central Rama9
  • Power Buy Central Rama3
  • King Power Rangnam

 

ต่อกันด้วย X21 สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Vivo มาพร้อมดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่องที่สวยงามส่องแสงวาวตามลักษณะของแสงตกกระทบ ส่วนด้านหน้ามีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ตอบโจทย์คอนเทนต์ทุกแบบทั้งเกม หรือวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Always ON Display ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกการแจ้งเตือนที่คล่องตัวและประหยัดแบตเตอรี่ ส่วนกล้องหน้ากับกล้องหลังสามารถถ่ายรูปได้อย่างเป็นธรรมชาติกับระบบ AI ที่ช่วยคุณประมวลผลภาพ พร้อมปรับแต่งผิวพรรณให้สวยหล่อ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรีวิวเต็มๆ : Siamphone.com

Vivo X21 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคา 19,990 บาทสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือคลิกซื้อผ่าน store.siamphone.com

ปิดท้ายด้วยรุ่นที่ใครๆ ก็อยากลองเล่น อยากจับจองไว้เป็นเจ้าของ สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่มีราคาเปิดตัวไม่ถึงสองหมื่นบาท 3699 หยวน (ประมาณ 18,475 บาท) อย่างรุ่น Mi 8 Explorer Edition แน่นอนว่ายังไม่ขายในประเทศไทย ทว่า Mi Thialand หากอยากได้รับความนิยมในท้องตลาด มีความเป็นไปได้สูงว่าจะวางจำหนาย ดังนั้นเราลองมาดูจุดเด่นและสเปกเต็มๆ กันเลย

Mi 8 Explorer Edition มีดีไซน์ที่สวยงาม ใช้วัสดุคุณภาพให้ความแข็งแรง ขอบมุมตัวเครื่องกับขอบด้านหลังโค้งมนสามารถจับถือสะดวกแม้ว่าหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยเช่นกัน เหนือหน้าจอขึ้นไปทางแบรนด์ได้พัฒนาระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D ปลดล็อคได้เร็ว นอกจากนี้ยังมีระบบ Dual-band GPS ช่วยให้นำทางได้อย่างแม่นยำเที่ยงตรง 

สรุปสเปกเบื้องต้นของ Mi 8 Explorer Edition รายละเอียดดังนี้

  • ขนาดตัวเครื่อง : 154.9 x 74.8 x 7.6 มม.
  • นํ้าหนัก : 177 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ : Android Oreo
  • หน้าจอ : Super AMOLED อัตราส่วน 18.7:9 ขนาด 6.21 นิ้ว ความละเอียด 2248 x 1080 พิกเซล ครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass แบบ 3D รองรับการแสดงผล HDR10, โหมดถนอมสายตา, โหมดกลางแจ้ง ให้ความสว่างสูงสุด 600nits
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 845
  • GPU : Adreno 630
  • RAM : 8GB LPDDR4
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB (UFS 5.1)
  • ระบบเชื่อมต่อ : 3G, 4G Cat 6., WiFi 802.11 a/b/g/n/ac+WiFi 2x2 MIMO, WiFi Display, Bluetooth 5.0, dual-band GPS, GLONASS, Beidou, NFC
  • พอร์ต : Type-C
  • แบตเตอรี่ : ความจุ 3,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว Quick Charge 4.0+

รายละเอียดกล้องของ Mi 8 Explorer Edition

กล้องหลังเลนส์คู่ ตัวแรกมุมมอง Wide-Angle ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.8 กับระบบป้องกันภาพสั่นไหว 4 แกน เลนส์ที่สอง Telephoto ความละเอียด 12MP กับรูรับแสง f/2.4 โดยมีระบบจับโฟกัสแบบ Dual Focus และตรวจจับใบหน้า มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพอาทิ HDR, Burst, โหมด Panorama ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ AI ซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K@30fps / 1080p@60fps / Slow-motion สูงสุด 1080p@240fps 

  • AI Dynamic Spot 
  • AI Studio Light Effect 
  • AI Smart Effect 
  • AI Super Resolution Photograph 
  • AI Smart Artifact 
  • AI Business Card Recognition 
  • AI Smart Translation 
  • AI Smart Currency Conversion 
  • AI Pat Li Amoy

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 20MP เพิ่มเติมด้วยความสามารถของ AI เช่นกัน มาพร้อมฟีเจอร์ปรับแต่งผิวแบบ 3D และการปรับแต่งฉากให้เป็นธรรมชาติ รวมถึง AI Portrait Mode 

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับสมาร์ทโฟนทั้งสามรุ่นที่นำมาแนะนำให้ฟัง ต้องบอกว่าราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ก็มีฟีเจอร์ต่างๆ ให้เล่นมากมายที่นอกเหนือจากการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ดังนั้นใครที่กำลังเล็งอยู่ ชื่นชอบรุ่นไหน ไปจับไปลองเล่นได้เลย

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่