สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 11 มิถุนายน 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Advertorial : หากใครที่ติดตามและใช้สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ OPPO มาเป็นประจำ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า OPPO R15 Pro นั้นเป็นสมาร์ทโฟนกล้องถ่ายภาพแห่งยุคไปแล้ว จากการที่ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานตั้งแต่หน่วยประมวลผล Snapdragon 660 AIE (Atificial Intelligence Engine) ไปจนถึงเลนส์กล้องทุกตัวที่มีของ OPPO R15 Pro ขณะที่ดีไซน์ก็มีความแปลกใหม่พร้อมความสวยงามอันล้นเหลือ

OPPO ได้ใส่ใจในการผลิตของอุปกรณ์ด้วยการนำ Karim Rashid ดีไซน์เนอร์ระดับโลกชาวอียิปต์และอังกฤษ ที่โด่งดังจากการออกแบบในวงการแฟชั่นเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มามีส่วนร่วมในการดีไซน์ OPPO R15 Pro จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด ตั้งแต่การไล่เฉดสีจากเข้มไปสว่างอย่างมีศิลปะ พร้อมวัสดุกระจกขอบโค้งแบบ 3D ทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงามสะดุดตาเมื่อได้เห็น ประกอบกับหน้าจอแสดงผล Super Full Screen ที่ทำให้ OPPO R15 Pro กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบเรื่องดีไซน์โดยแท้จริง

แต่หากจะพูดถึง OPPO และสมาร์ทโฟนตัวล่าสุดอย่าง OPPO R15 Pro ให้เพอร์เฟคก็คงไม่พ้นเรื่อง AI-enchanced Camera หรือกล้องปัญญาประดิษฐ์ ที่ฝังอยู่ทั้งที่กล้องหลังคู่ความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ตัวล่าสุด Sony IMX519 และกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ประกอบกับระบบ VOOC Flash Charge ที่ถือเป็นเทคโนโลยีการชาร์จโทรศัพท์มือถือที่เร็วและปลอดภัยที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้เราขอพูดถึง 3 จุดเด่นเพื่อมาตอกย้ำความสุดยอดของ OPPO R15 Pro ให้ทุกคนได้ชมกัน

AI Portrait Mode

OPPO R15 Pro เน้นเรื่องการถ่ายภาพบุคคลอย่างเป็นเอกลักษณ์ด้วยความอัจฉริยะของ AI Portrait Mode รองรับหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh effect) ที่ทำได้อย่างเนียนตาและชาญฉลาด

ประกอบกับสิ่งสำคัญที่สมาร์ทโฟนควรมี อย่างเอฟเฟ็กต์แสง 3 มิติ (3D Portrait Lighting) ซึ่งใน OPPO R15 Pro ก็สามารถเปลี่ยนโทนสีและอารมณ์ของบุคคลและภาพถ่ายได้ถึง 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติ, แสงแบบภาพยนตร์, แสงสำหรับโทนสี, แสงเน้นรูปร่าง และแสงแบบสองสี

 
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดบุคคลแสงธรรมชาติ (ซ้าย) และแสงแบบภาพยนตร์ (ขวา)

 
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดบุคคลแสงสำหรับโทนสี (ซ้าย) และแสงเน้นรูปร่าง (ขวา)


ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดบุคคลแสงแบบสองสี

 

 

AI Beauty 2.0

OPPO R15 Pro มาพร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะในการเซลฟี่แบบที่ได้รับอัปเกรดมาเป็นอย่างดีกับ "AI Beauty 2.0" ตั้งแต่ปรับแต่งใบหน้าได้อย่างเหมาะสมด้วยจุดประมวลผลกว่า 296 จุด ทั้งยังแยกแยะโครงหน้า เพศ สีผิว และอายุได้แบบแม่นยำ เพื่อให้ทุกภาพถ่ายที่ได้มาทั้งแบบบุคคลหรือเซลฟี่สวยอย่างเป็นธรรมชาติไร้ที่ติ

และจากภาพตัวอย่างด้านล่าง เราจะเห็นว่า AI Beauty 2.0 ใบหน้าของผู้ชายไม่ได้ปรับให้เนียนใสเหมือนกับผู้หญิง โดยการยังคงมีหนวดและริ้วรอยอยู่บ้าง

  
เปรียบเทียบภาพถ่ายผู้ชายแบบปิดโหมด AI Beauty 2.0 (ซ้าย) และเปิด AI Beauty 2.0 (ขวา)

  
เปรียบเทียบภาพถ่ายผู้ชายแบบเปิดบิวตี้โหมดระดับ 3 (ซ้าย) และเปิดบิวตี้โหมดระดับ 6 (ขวา)

  
เปรียบเทียบภาพถ่ายผู้หญิงแบบปิดโหมด AI Beauty 2.0 (ซ้าย) และเปิด AI Beauty 2.0 (ขวา)

  
เปรียบเทียบภาพถ่ายผู้หญิงแบบเปิดบิวตี้โหมดระดับ 3 (ซ้าย) และเปิดบิวตี้โหมดระดับ 6 (ขวา)

นอกจากนี้ OPPO R15 Pro ยังมี Sensor HDR ที่ช่วยให้เราถ่ายเซลฟี่ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะในที่แสงน้อยอย่างตอนกลางคืนหรือที่สว่างจ้าแบบตอนกลางวัน ก็ยังคงให้ภาพคมชัดทุกรายละเอียดเหมือนเดิม ประกอบกับเอฟเฟ็กต์ความลึกหรือการเบลอฉากหลังที่ช่วยให้ทุกอย่างครบองค์ประกอบ

  
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าด้วยการเปิด Sensor HDR

  
ตัวอย่างภาพเปรียบเทียบกล้องหน้าด้วยการปิด Sensor HDR (ซ้าย) และเปิด Sensor HDR (ขวา)

  
ตัวอย่างภาพเปรียบเทียบกล้องหน้าด้วยการปิด Sensor HDR (ซ้าย) และเปิด Sensor HDR (ขวา)

VOOC Flash Charge

และฟีเจอร์สุดเด่นที่อยู่คู่กับ OPPO มานานนับตั้งแต่ปี 2014 อย่างเทคโนโลยีชาร์จเร็ว หรือ VOOC Flash Charge ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกด้วยระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ 5 ชั้น เริ่มด้วยการป้องกันการใช้ไฟเกินกำลังของตัวอะแดปเตอร์, ป้องกันและตรวจสอบสถานะการชาร์จไว, ป้องกันการโอเวอร์โหลดของกระแสไฟ, ป้องกันการโอเวอร์โหลดของแบตเตอรี่ และการป้องกันความปลอดภัยในตัวฟิวส์แบตเตอรี่ ทั้งยังให้ผู้ใช้งานหายห่วงเรื่องความร้อนขณะชาร์จแบตเตอรี่อีกด้วย

ดังนั้น VOOC Flash Charge ที่มากับ OPPO R15 Pro จึงเป็นมาตรฐานการชาร์จแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยขั้นสูงและรวดเร็วมากที่สุดในโลกด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถคุยโทรศัพท์ได้นานถึง 2 ชั่วโมง

สำหรับ OPPO R15 Pro มาพร้อมกับหน้าจอไร้ขอบ Super Full Screen กว้าง 6.28 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 โดยมีสัดส่วนพื้นที่จอแสดงผลมากที่สุดที่เคยมีมาของ OPPO ที่ 89% ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE, RAM 6GB, หน่วยความจำภายใน 128GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.0 และแบตเตอรี่ความจุ 3,430 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge

สุดท้ายนี้ OPPO R15 Pro ได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคา 19,990 บาท ที่ร้าน OPPO Brand Shop และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีม่วง (Cosmic Purple) และสีแดงสุดร้อนแรง (Ruby Red) ทั้งยังได้ของแถมสุดพิเศษเป็น Gift Box สายชาร์จ VOOC พร้อมหัวชาร์จความเร็วสูงสำหรับรถยนต์ รวมมูลค่ากว่า 1,599 บาท และบริการหลังการขายที่ไม่เหมือนใครอย่าง OPPO Premium service เฉพาะเจ้าของรุ่น OPPO R15 Pro หากพบปัญหาเครื่องที่เกิดขึ้นจากการผลิต ก็สามารถเปลี่ยนเครื่องได้ทันทีที่ศูนย์บริการ OPPO Service

**บทความเพื่อการโฆษณา**

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่