เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 7 สิงหาคม 2561
ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยผ่านพ้นปี 2017 ไปได้ด้วยผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ค่อนข้างซบเซา เมื่อเกิดสภาวะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศลดลง และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมีอัตราการเติบโตแค่ระดับปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากประเทศอุตสาหกรรมคู่แข่งอื่น ๆ อาทิ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย
ในการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเน้นมูลค่าตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รัฐบาลจึงกำหนดให้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในอนาคต แม้ในปัจจุบันจะมีอุตสาหกรรมการผลิตมากถึง 85% ที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหุ่นยนต์อัตโนมัติได้ แต่มีเพียง 50% ที่พร้อมใช้เทคโนโลยีนี้ภายใน 1-3 ปีข้างหน้า และที่แย่กว่านั้น ผลการสำรวจอุตสาหกิจของธนาคารโลกระบุว่าเพียง 18% ของบริษัทในประเทศไทยที่มีการฝึกอบรมในเรื่องนี้ให้กับพนักงานในองค์กรอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน
การยกระดับทักษะและการฝึกอบรมซ้ำให้แก่แรงงาน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับประเทศในการบรรลุถึงอุปสงค์ของนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในเรื่องช่องว่างด้านทักษะและการขาดแคลนการฝึกอบรมเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมเพื่อการก้าวสู่ระดับแถวหน้าในการแข่งขัน เมื่อตระหนักถึงความเร่งด่วนในการรักษาสถานะทางการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ภาครัฐบาลและเอกชนจึงริเริ่มโครงการเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของแรงงาน และสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมเพื่อการเติบโตด้วยการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
การอุดช่องว่าง
ในการแก้ไขปัญหาข้อจำกัดเรื่องทักษะและแรงงานในเรื่องการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลไทยจึงจับมือเป็นพันธมิตรกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการก่อตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (Manufacturing Automation and Robotics Academy : MARA) โดยมีการดำเนินงาน 3 ระยะตลอดเวลา 10 ปี แผนการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์จะให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน การยกระดับทักษะ และการฝึกอบรมสายอาชีพเพื่อการใช้งานเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่อการผลิตเชิงอุตสาหกรรม
เมื่อรัฐบาลเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรม บรรดาผู้ผลิตจึงสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมโซลูชั่นใหม่ที่หาได้จากภาคเอกชน ยกตัวอย่างเช่น ในการสนับสนุนให้ธุรกิจก้าวสู่การฝึกอบรมและการใช้งานเทคโนโลยีหุ่นยนต์ บริษัทยูนิเวอร์ซัล โรบอทส์ ได้นำเสนอหลักสูตรการเรียนรู้ระบบออนไลน์ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปใช้งานได้ฟรี
การกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง
Cobot หรือหุ่นยนต์เพื่อการทำงานร่วมกับมนุษย์ เป็นหุ่นยนต์ที่มีประโยชน์มากจนถือเป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่มีคุณค่ามาก ซึ่งนอกเหนือจากการมีขนาดกะทัดรัด ปลอดภัย และสามารถปรับใช้งานได้อย่างหลากหลาย โคบอทยังสามารถตั้งโปรแกรมการทำงานได้ด้วยตนเอง ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเรียนรู้ของพนักงานให้สั้นลงได้ ทำให้แม้แต่พนักงานที่มีทักษะน้อยก็ยังสามารถเรียนรู้การใช้งานโคบอทได้อย่างง่ายดาย
การติดตั้งโคบอทให้ทำงานร่วมกับมนุษย์ในสายการผลิตช่วยให้นุษย์สามารถลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนและต้องใช้แรงมาก รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องลงทุนสูงในการบูรณาการระบบ และเนื่องจากโคบอทถูกใช้ในการทำงานที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องทำ ทำให้พนักงานมีเวลาสำหรับการยกระดับทักษะของตนเองเพื่อรับผิดชอบงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งสอดคล่องกกับเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง อาทิ การออกแบบและการใช้งานโซลูชั่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจหรือกระบวนการผลิตโดยใช้ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีหุ่นยนต์
โคบอทจึงช่วยให้ภาคธุรกิจบรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้ ผ่านการยกระดับทักษะพนักงาน การใช้งานเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอย่างสะดวกรวดเร็วและซื้อหาได้ง่าย และทำให้สามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ในท้ายที่สุด
การเพิ่มความรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์
เมื่อตระหนักถึงข้อจำกัดการเรียนรู้ในการใช้งานเทคโนดลยีหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม ยูนิเวอร์ซัล โรบอทส์ จึงริเริ่มโครงการในวงการอุตสาหกรรม โดยการเปิดตัว UR Academy ในการช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถใช้งานเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผ่านการนำเสนอหลักสูตรการเรียนรู้ระบบออนไลน์เกี่ยวกับเทคโยโลยีหุ่นยนต์ ซึ่งทุกคนสามารถใช้งานได้ฟรี โดยมี 9 หลักสูตรออนไลน์ซึ่งเริ่มตั้งแต่พื้นฐานการตั้งโปรแกรมสำหรับหุ่นยนต์ของยูนิเวอร์ซัล โรบอทส์ ซึ่งครอบคลุมทั้งการเพิ่มส่วนประกอบข้อมือหุ่นยนต์ การเชื่อมต่อการป้อนข้อมูลและการแสดงผล การสร้างโปรแกรมขั้นพื้นฐาน และการตั้งค่าเครื่องมือและโซนปลอดภัย ซึ่งนอกเหนือจากการถ่ายโอนข้อมูลที่ง่ายดาย หลักสูตรนี้ยังออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการฝึกฝนปฏิบัติด้วยมือตนเองผ่านเครื่องจำลองแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ เพื่อทำให้ผู้เรียนรู้สึกมีส่วนร่วมในการทำงานมากที่สุด ปัจจุบันมีผู้ใช้งานหลักสูตรนี้มากกว่า 20,000 รายจาก 132 ประเทศที่ลงทะเบียนเพื่อรับการฝึกอบรม โดยหลักสูตรจัดทำทั้งภาษาอังกฤษ สเปน เยอนมัน ฝรั่งเศส และจีน
สถาบันยูนิเวอร์ซัล โรบอทส์ ทำงานควบคู่กับ UR+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ยกระดับระบบนิเวศของยูนิเวอร์ซัล โรบอทส์ให้มีความเป็นสากล เพื่อให้นักพัฒนาเทคโนโลยีภายนอกช่วยให้ผู้ผลิตชาวไทยสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของตนเองได้ นับตั้งแต่ส่วนประกอบข้อมือหุ่นยนต์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ไปจนถึงกล้องตรวจจับและซอฟต์แวร์ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบและรับรองนี้ มีคุณสมบัติการติดตั้งง่าย การทำงานที่เชื่อถือได้ ประสบการณ์การใช้งานที่ราบลื่น และการตั้งโปรแกรมที่ง่ายดายทั้งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่
การตระหนักถึงนโยบายไทยแลนด์ 4.0
เมื่อโครงการของรัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมเริ่มดำเนินงานเพื่อส่งเสริมภาคแรงงานตามนโยบายไทนแลนด์ 4.0 บรรดาผู้ผลิตและนักธุรกิจย่อมสามารถก้าวสู่สถานะผู้นำในการแข่งขันได้ ผ่านการยกระดับประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ซื้อหาได้และง่ายต่อการใช้งาน อาทิ เทคโนโลยีโคบอท เป็นต้น ด้วยการสนับสนุนจากแหล่งข้อมูลใหญ่อย่างสถาบันยูนิเวอร์ซัล โรบอทส์ จะช่วยให้ธุรกิจการผลิตมีความพร้อมมากขึ้นในการเร่งใช้งานเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และตระหนักถึงศักยภาพที่แท้จริงเพื่อการก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : www.universal-robots.com วันที่ : 7 สิงหาคม 2561
CHANGAN กวาดยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Show 2024 ทะลุ 3,000 คัน
Mercedes-Benz แนะนำ 5 ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า สำหรับรถอีวีและและปลั๊กอินไฮบริด
vivo V40 SE 5G เต็มตากับจอ AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2
Moto G64 5G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ Dimensity 7025 พร้อมกล้อง 50MP กันสั่น OIS
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท