สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 17 กันยายน 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Apple เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปพรีเมี่ยม 2 รุ่นใหม่ iPhone Xs และ iPhone Xs Max โดยเน้นขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นบนดีไซน์อ้างอิงจาก iPhone X รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างเช่นการใช้ Face ID ปลดล็อคเครื่องแทนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ นำชิปเซ็ต Apple A12 Bionic มาใช้งานพร้อมแนะนำฟังก์ชั่นการใช้งาน 2 ซิม (Dual SIM function) เป็นครั้งแรกบน iPhone

iPhone Xs Max เป็นรุ่นที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับ iPhone ทุกรุ่นในอดีต โดยใช้งานจอ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.5 : 9 มีรอยบากด้านบน มีความกว้างเทียบเท่ากับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วบน iPhone 8 Plus แต่มีความยาวมากกว่า

เทคโนโลยีจอแสดงผล Super Retina รุ่นใหม่ยังคงมีความหนาแน่นพิกเซล 458ppi เช่นเดียวกับ iPhone X โดยเพิ่มความละเอียดเป็น 2688x1242 พิกเซล เลเยอร์ระบบสัมผัสจะทำงานที่ความถี่สูงสุด 120Hz (แต่ส่วนติดต่อผู้ใช้ยังคงเรนเดอร์ภาพที่ความถี่ 60Hz) จอแสดงผลนี้ยังสนับสนุน HDR10 และ Dolby Vision ซึ่งมีช่วงไดนามิกเพิ่มขึ้น 60%

Apple เลือกที่จะทิ้ง Touch ID และเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือไว้เป็นอดีต โดยระบบสแกนใบหน้า 3 มิติ Face ID เป็นวิธีการตรวจสอบไบโอเมตริกเพียงอย่างเดียวที่ถูกเลือกใช้ มีการปรับปรุงด้านความปลอดภัยข้อมูลและจดจำใบหน้าได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

กล้องหลังคู่ 12MP ได้รับการปรับปรุงใหม่ กล้องหลักเป็นเลนส์มุมกว้างมีเซ็นเซอร์รุ่นใหม่พร้อมกับจุดพิกเซลที่ขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม 1.22 ไมครอนมาเป็น 1.4 ไมครอน รูรับแสงยังคงกว้าง f/1.8 เท่าเดิมและมีระบบกันสั่น OIS ส่วนเลนส์เทเลโฟโต้ตัวรองมีเซ็นเซอร์ 12MP รูรับแสง f/2.4 พร้อมรองรับการซูม 2x optical zoom

การอัปเดตฟีเจอร์ละลายฉากหลังใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับค่าระยะชัดลึกหลังจากถ่ายภาพได้ ชิปเซ็ต Apple A12 Bionic รุ่นล่าสุดถูกนำมาใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Smart HDR ด้วยความหน่วงชัดเตอร์เท่ากับศูนย์ กล้องจะบันทึกเฟรมภาพ 4 เฟรมไว้บนหน่วยความจำชั่วคราวก่อนจะรวมเข้าเป็นภาพเดียวที่มีช่วงไดนามิกน่าประทับใจ

กล้องหน้าก็มีการอัปเดตเช่นกันโดยเซ็นเซอร์รับภาพสี 7MP ได้รับการปรับปรุงให้ทำงานเร็วขึ้น ส่วนการบันทึกวิดีโอสามารถรองรับระบบเสียงสเตอริโอแล้วและยังมีช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นด้วย

iPhone Xs Max และ iPhone Xs มีโครงสร้างตัวเครื่องเป็นสแตนเลสครอบทับด้วยกระจกทนรอยขีดข่วนซึ่ง Apple อ้างว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ทนรอยขีดข่วนมากที่สุดในเวลานี้ นอกจากนั้นตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ซึ่งช่วยให้ทนแรงดันน้ำที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตรในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง

iPhone Xs เป็นรุ่นที่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่า iPhone Xs Max โดยมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436x1125 พิกเซล เท่ากับ iPhone X

ชิปเซ็ต Apple A12 Bionic จะเป็นชิปสถาปัตยกรรม 7nm รุ่นแรกที่เข้าสู่ตลาด ภายในชิปประกอบด้วย CPU 6-core (2 Big + 4 small), GPU 4-core และส่วนประมวลผล Neural Engine ใหม่ 8-core ซึ่งทั้งหมดนี้รวมเป็นทรานซิสเตอร์จำนวน 6.9 พันล้านชิ้นที่ออกแบบโดย Apple

CPU ตัวหลักของ Apple A12 Bionic มีความเร็วเพิ่มขึ้น 15% และมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อนอย่าง Apple A11 ส่วน CPU ตัวรองมีการใช้พลังงานน้อยลงถึงครึ่งหนึ่ง ขณะที่ GPU สามารถให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น 50%

ทั้ง iPhone Xs และ iPhone Xs Max มีตัวเลือกสีเหมือนกัน 3 สี ได้แก่ สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์และสีใหม่ล่าสุดที่เพิ่มมาอย่างสีทอง โดยมีตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลแบ่งเป็น 3 โมเดล ได้แก่ 64GB / 256GB / 512GB

Apple ยังเปิดตัวฟังก์ชั่น 2 ซิม Dual SIM function บน iPhone เป็นครั้งแรกด้วย โดยในยุโรปและอเมริกาจะมีซิมแบบฝังอยู่ในเครื่อง (eSIM) ใช้ร่วมกับซิมการ์ดปกติ ขณะที่ฝั่งเอเชียอย่างตลาดจีน ฮ่องกง มาเก๊าจะเป็นโมเดลที่ใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม Dual SIM Dual Standby

iPhone Xs และ iPhone Xs Max จะเปิดตัวในประเทศกลุ่มแรกวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2018 โดยมีราคาเปิดตัว (อ้างอิงจากราคาต่างประเทศ) สำหรับรุ่น iPhone XS (64GB) ราคาเริ่มต้นที่ $1,000 (ประมาณ 32,700 บาท) ส่วน iPhone XS Max (64GB) ราคาเริ่มต้นที่ $1,100 (ประมาณ 35,970 บาท)

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่