สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 20 กันยายน 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

แม้ว่า Apple จะไม่ใช่บริษัทที่จำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากที่สุดในช่วงไตรมาสที่สองของปี ค.ศ. 2018 แต่ข้อมูลล่าสุดจาก Counterpoint Research บริษัทวิเคราะห์ตลาดได้เปิดเผยส่วนแบ่งกำไรในธุรกิจสมาร์ทโฟนในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า Apple กวาดกำไรไปถึง 62% ของกำไรจากธุรกิจสมาร์ทโฟนทุกแบรนด์รวมกัน ส่วนทาง Samsung ทำกำไรมาเป็นอันดับที่สองด้วยส่วนแบ่ง 17% หรือมองอีกแง่หนึ่งคือ Apple สามารถทำกำไรในธุรกิจสมาร์ทโฟนได้มากกว่า Samsung ถึง 3.6 เท่า

แม้ Samsung จะอยู่ในอันดับที่สองแต่ผลกำไรในธุรกิจสมาร์ทโฟนก็ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งสวนทางกับคู่แข่งแบรนด์จีนที่มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นโดย Huawei อยู่ในอันดับสามด้วยส่วนแบ่งกำไร 8%, OPPO ในอันดับสี่ (5%), Vivo ในอันดับห้า (4%) และ Xiaomi ในอันดับหก (3%)

Counterpoint ตั้งข้อสังเกตว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนจีนเริ่มหันมาผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปมากขึ้นในปีนี้จึงสามารถทำกำไรในธุรกิจสมาร์ทโฟนมูลค่ารวมกันเกิน 2 พันล้านเหรียญเป็นครั้งแรก

หากตัวเลขของ Counterpoint ใกล้เคียงกับตัวเลขจริงของตลาดก็หมายความว่า iPhone สามารถทำกำไรให้ Apple ถึง 6 พันล้านเหรียญในช่วงไตรมาสที่สองในขณะฝั่ง Samsung มีกำไรลดลง 21% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายสมาร์ทโฟน Galaxy S9 series ลดลงกว่า 24% เมื่อเทียบกับยอดขาย Galaxy S8 series ในช่วงไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว

ข้อมูลของ Counterpoint ยังแสดงให้เห็นความโดดเด่นของ Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมี่ยม โดยไตรมาสที่สอง Apple ครองส่วนแบ่ง 88% ของยอดขายสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีราคาสูงกว่า 25,900 บาท ขึ้นไป (กราฟแท่งสีเขียว)

สมาร์ทโฟนที่มีช่วงราคาระหว่าง 25,900 - 19,500 บาท (กราฟแท่งสีเทา) เป็นพื้นที่การแข่งขันของแบรนด์ Apple (44%) และ Samsung (41%) ที่ช่วงชิงส่วนแบ่งยอดขายตรงนี้อย่างสูสี

แบรนด์ที่ทำยอดขายสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีช่วงราคาระหว่าง 13,000 - 16,200 บาท (กราฟแท่งสีแดง) ได้มากที่สุดคือ OPPO (22%) ร่วมกับ Apple (22%) ตามมาด้วย Samsung (16%), Huawei (14%), Xiaomi (6%) และ OnePlus (5%)

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่