รวมการตั้งค่าแบบง่ายๆ แต่มีประโยชน์ สำหรับสาวก OPPO ใน UI สุดฉลาดตัวล่าสุด 'ColorOS 5.2'

เชื่อได้เลยว่าหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทยจะต้องมีชื่อ OPPO อยู่แน่นอน ซึ่งสมาร์ทโฟนของ OPPO นั้นจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นต่างๆ และมี UI ของตัวเองในนาม "ColorOS" โดยผู้ใช้งานมือใหม่อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินกับการตั้งค่าต่างๆ ใน UI ตัวนี้อยู่บ้าง ดังนั้น เราก็มาบอกถึงทริค ฟีเจอร์ และการตั้งค่าแบบง่ายๆ แต่มีประโยชน์ที่อยู่ใน ColorOS เพื่อแฟนๆ OPPO โดยเฉพาะ

การตั้งค่าด้านแบตเตอรี่

การตั้งค่า > การจัดการแอพ

• การจัดการแอพเริ่มต้น : ในตัวเลือกนี้จะเป็นการตั้งค่าเมื่อเราเปิดแอพใดแอพหนึ่ง ระบบจะทำการถามว่าเราจะใช้แอพไหนในการเปิด เช่น เมื่อเราต้องการดูรูปภาพ ระบบก็จะถามว่าเราจะเปิดด้วยแอพรูปที่มากับเครื่อง หรือ Google Photos แต่หากเราตั้งค่าไว้ ระบบจะไม่ถามเราในครั้งต่อไป ทำให้มีความสะดวกในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น

การตั้งค่า > แบตเตอรี่

• ประหยัดไฟ : เป้นการประหยัดพลังงานแบบทั่วไปของแอนดรอยด์ ซึ่งในส่วนนี้จะทำการปิดแอพพลิเคชั่นพื้นหลังบ่อยขึ้นกว่าเดิม ปิดฟังก์ชั่นที่ทำการเชื่อมข้อมูลและแอนิเมชั่นต่างๆ ไว้
• ประหยัดพลังงานแบบสมาร์ท : หากเราเปิดไว้ ระบบก็จะเรียนรู้ว่าเราใช้แอพไหนมากที่สุดเพื่อปรับให้แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้น โดยจะคล้ายๆ กับฟีเจอร์ Adaptive Battery บน Android Pie ของ Google
• ฉากประหยัดไฟแบบสมาร์ท : ระบบจะคำนวณจากเวลาที่เราใช้งานแอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่ในแต่ละวันของเรา และหากช่วงไหนที่เราแทบไม่ได้ใช้งานเลย เช่น เวลานอน ระบบก็จะปรับใช้พลังงานน้อยลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่

เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

การตั้งค่า > ความสะดวกสบายแบบชาญฉลาด

• ปุ่มการนำทาง : เราสามารถเปลี่ยนปุ่มนำทางแบบเดิม (ปุ่มเสมือน) ให้เป็นแบบลากนิ้วขึ้นแบบใหม่ได่ง่ายๆ ที่ทำได้โดยปัดขึ้นที่มุมซ้าย/ขวาเพื่อย้อนกลับ ปัดขึ้นจากตรงกลางเพื่อเข้าหน้าโฮม หรือปัดขึ้นแล้วค้างไว้ 1 วินาทีเพื่อดูแอพฯ ล่าสุด

• ลูกบอลช่วยเหลือ : ควบคุมการนำทางได้ง่ายกว่าเดิม โดยมีลูกบอลช่วยนำทาง (เหมือนใน iOS) ซึ่งเราสามารถกำหนดค่าต่างๆ ได้ตามใจชอบ

• ท่าทางและการเคลื่อนไหว : เราสามารถเข้ามาเปิดฟีเจอร์ "ยกขึ้นเพื่อเปิดหน้าจอ" ได้ที่นี่ โดยหากใครที่ตั้งค่าล็อคหน้าจอแบบสแกนหน้าไว้ ก็ยิ่งดวกขึ้นไปอีก เพราะไม่ต้องมากดปุ่มล็อคหน้าจอให้เสียเวลา หรืออีกฟีเจอร์ง่ายๆ อย่างการ "ลาก 3 นิ้วเพื่อบันทึกหน้าจอ" ก็อยู่ในส่วนนี้เช่นกัน

ตั้งค่ากล้อง ให้เป็นผู้ช่วยที่ดี

การตั้งค่า > แอพของระบบ > กล้อง

• วิดีโอประสิทธิภาพสูง (สำหรับ OPPO Find X) : การตั้งค่าวิดีโอจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน ตือ รหัส H.264 เพื่อใช้ในการบันทึกวิดีโอและเล่นในอุปกรณ์อื่นๆ ได้ แต่หากตั้งค่าเป็น H.265 จะได้วิดีโอที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่อาจจะเล่นบนอุปกรณ์อื่นๆ บางเครื่องที่ไม่รองรับไม่ได้

การตั้งค่าอื่นๆ ที่น่าสนใจ

• รีเซ็ทสมาร์ทโฟน (วิธีที่ 1) : การตั้งต่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม > สำรองข้อมูลและรีเซ็ต > คืนค่าจากโรงงาน > ลบเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด
• รีเซ็ทสมาร์ทโฟน (วิธีที่ 2) : ปิดเครื่อง > กดปุ่มล็อคเครื่อง + ปุ่มลดเสียง > เลือกภาษาอังกฤษ (English) > Wipe Data

• การใช้งานแอพพลิเคชั่น 2 บัญชี : การตั้งค่า > โคลนแอพ
• ปรับแต่งในส่วนของเกม : การตั้งค่า > Game Space โดยในส่วนนี้ เราสามารถเปิดการตั้งค่าให้เกมรวมอยู่ในไอคอนเดียวบนหน้าจอ หรือปรับแต่งการทำงานบนสมาร์ทดฟนเพื่อให้เล่นเกมได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น

• การเชื่อมต่อ OTG : การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม > เปิด "การเชื่อมต่อ OTG" โดยการเปิด OTG คือการที่เราต้องการให้ USB เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเรา โดยต้องมีอุปกรณ์เสริมในการเชื่อมต่อด้วย เช่น OTG Connector

• ใส่รหัสเพื่อเข้าแอพที่ซ่อนไว้ : การตั้งค่า > การรักษาความปลอดภัย > การเข้ารหัสแอพ > ใส่รหัสและเลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการซ่อน โดยเราสามารถใส่รหัสที่ "โทรศัพท์" ในการเข้าถึงแอพที่ซ่อนได้ในทันที

สำหรับการตั้งค่าต่างๆ ผู้ที่ใช้ OPPO มาบ่อยก็น่าจะหาได้ไม่ยาก แต่หากใครที่เป็นมือใหม่ของแบรนด์นี้ก็ถือว่าน่าจะมีประโยชน์ไปใช้พอสมควร นอกจากนี้ OPPO รุ่นใหม่ทั้ง OPPO Find X, F7, F9 และ R15 Pro ก็น่าจะได้รับการอัปเดทเป็น Android 9.0 Pie รุ่นใหม่ค่อนข้างแน่นอนแล้วด้วย โดยจะมีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ สาวกทั้งหลายก็ต้องรอดูกันต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  OPPO และ OnePlus เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ AI อย่าง AI Eraser ทั่วโลก
• 
  รีวิว Redmi Note 13 5G สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ หน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 108MP ระบบเชื่อมต่อจัดเต็ม กันน้ำได้ ชาร์จเร็ว 33 วัตต์

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่