สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 10 ตุลาคม 2561

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

เชื่อได้เลยว่าหนึ่งในสิ่งที่ Google ทำได้ดีมาตลอดในการผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง Pixel ออกมา ก็คือ เรื่องของกล้องหลังที่แม้ว่าจะมาแบบเลนส์เดียว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแทบจะดีกว่าสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่ในหลายๆ แบรนด์เสียอีก และล่าสุดกับ Pixel 3/3XL ที่เพิ่มฟีเจอร์เข้ามากมาย โดยเราจะมาเจาะลึกว่าอะไรบ้างที่ทำให้ 2 พี่น้องรุ่นใหม่นี้ถ่ายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สเปคกล้อง Pixel 3/3XL

กล้องหลัง

  • เลนส์เดี่ยวความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล
  • ระบบโฟกัส แบบ dual-pixel PDAF
  • เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55 นิ้ว
  • ขนาดพิกเซล 1.4 ไมโครเมตร
  • รูรับแสง f/1.8
  • ระบบกันสั่นไหว OIS + EIS

กล้องหน้าคู่

  • ความละเอียด 8+8 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ที่ 1 : รูรับแสง f/1.8 มุมกว้างปกติที่ 75 องศา
  • เลนส์ที่ 2 : รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง (Wide Angle) ที่ 107 องศา

ฟีเจอร์กล้องหลัง

เปลี่ยนดีไซน์แอพฯ กล้อง : อย่างแรกที่เห็นตั้งแต่เข้าแอพพลิเคชั่นกล้องเลยก็คือดีไซน์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งดูจะใช้งานได้ง่ายขึ้นและสะดวกมากกว่าเดิม


แอพฯ กล้อง Google Pixel 2 (ซ้าย) และ Google Pixel 3 (ขวา)

Google Lens : ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามา แต่กลายเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นกล้องใน Pixel 3 ไปแล้ว โดยจะช่วยในเรื่องของการค้นหาวัตถุที่อยู่ในเฟรม เช่น สถานที่สำคัญ ชนิดของดอกไม้ สิ่งของ หรืออุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น

ติดตามวัตถุ : ในตระกูล Pixel 3 เป็นการล็อควัตถุที่ขยับได้ เช่น สัตว์เลี้ยง ไม่ให้หลุดโฟกัส เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและดีที่สุด

โหมดบุคคล (Portrait mode) : มีการพัฒนามากขึ้นจาก Pixel 2 โดยใน Pixel 3 จะทำให้ความเบลอของพื้นหลังเนียนตามากยิ่งขึ้น ทั้งยัง สามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสได้อย่างอิสระ หรือเปลี่ยนสีพื้นหลังให้เป็นขาว-ดำได้อีกด้วย

นอกจากนี้ จุดเด่นอีกอย่างของตระกูล Pixel 3 คือ การเพิ่ม HDR+ เข้ามา ซึ่งจะทำงานด้วยการถ่ายภาพหลายช๊อต และจะมีการซ้อนทับเลเยอร์ (Layer) กัน และนำจุดที่ดีที่สุดของแต่ละภาพมาประกอบกันเป็นภาพเดียวโดยอัตโนมัติ โดยผลลัพธ์ที่ได้จะมีทั้งภาพที่มีความสว่าง เนียนตา และชัตเตอร์ที่ไม่ดีเลย์ ทั้งหมดนี้รวมเป็นการประมวลผลที่เรียกว่า "Pixel Visual Core"

Top Shot : สิ่งที่ฉลาดที่สุดของกล้องใน Pixel 3 อาจจะเป็นฟีเจอร์นี้เลยทีเดียว โดย Top Shot จะเลือกภาพที่ดีที่สุด 1 ภาพให้กับเรา ซึ่งเมื่อเราถ่ายภาพออกมาไม่ดี (เช่น กระพริบตาในภาพนั้น) ระบบจะทำการแสดงภาพก่อนกดชัตเตอร์ที่ดีกว่านั้นมาให้เราเลือก แถมภาพที่ได้ออกมายังจับภาพแบบ HDR+ อีกด้วย

Super Res Zoom : สิ่งที่ Google ทำได้ดีอีกอย่างคือระบบการซูม ที่แม้ว่าจะไม่มีเลนส์ซูมเหมือนกับ iPhone XS หรือ Samsung Galaxy Note 9 แต่ Pixel 3 มาพร้อมฟีเจอร์ Super Res Zoom ที่ใช้การซูมดิจิทัลความคมชัดสูง และเมื่อเราซูมเข้าไปมากขึ้น ภาพก็จะสั่นตามมือเรา แต่ด้วยอัลกอริทึมของกล้องจะจดจำหลายเฟรมและการสั่นสะเทือนของมือเรา ให้มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของภาพ ทำให้ได้ภาพที่ชัดและไม่เบลอ

Night Sight : สมาร์ทโฟนทุกรุ่นต่างก็มีแฟลชที่กล้องหลังกันหมด แต่เมื่อถ่ายในที่มืดก็อาจจะไม่ได้ให้ภาพที่สวยที่สุด ดังนั้น ฟีเจอร์ Night Sight ของ Pixel 3 คือส่วนที่จะมาแก้ตรงจุดนี้ ทำให้เราถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดีและสว่างมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้แฟลช ระบบการทำงานจะคล้ายกับฟีเจอร์อื่น คือ ถ่ายหลายๆ ช๊อตมารวมเป็น 1 ภาพ แต่ได้ใช้ AI ในการปรับแต่งสีให้เหมาะสม

ฟีเจอร์กล้องหน้า

เซลฟี่ครบกลุ่ม : กล้องหน้าคู่ของ Pixel 3 ก็ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะมีทั้งเลนส์ปกติและเลนส์มุมกว้าง (Super-Wide) ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่แบบกลุ่มได้ครบหมดทุกคนแน่นอน ขณะที่เลนส์หลักก็จะช่วยในเรื่องของวิดีโอคอลผ่านโซเชียลที่พร้อมในทุกสภาวะแสง

Photo Booth : ระบบจะถ่ายภาพอัตโนมัติเมื่อเรากำลังยิ้ม โพสท่า หรือกำลังหน้าตลกๆ อยู่

AR Stickers : Google ได้เปลี่ยนชื่อฟีเจอร์ "AR Stickers" ให้เป็น "Playground" โดยได้จับมือกับ Marvel Studios เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับเรามาเพราะมีตัวละครจาก Marvel เช่น Hulk หรือ Iron Man มาร่วมเฟรม หรือจะเต้นกับนักร้อง Childish Gambino ก็ยังได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับฟีเจอร์ใหม่ๆ สุดโดดเด่นของตระกูล Pixel 3 ที่ทาง Google ได้พัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก หากใครที่ชอบฟีเจอร์ไหน ก็อย่าลืมคอมเม้นต์เราได้เลย

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่