เทคโนโลยี (Technology) | วันที่ : 11 ธันวาคม 2561
การห้ามครั้งนี้ไม่มีผลกับ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ซึ่งเปิดตัวออกมาหลังจากที่ Qualcomm ยื่นฟ้องศาลคดีสิทธิบัตรที่ Apple ละเมิดไปแล้ว
สมาร์ทโฟนของ Apple รุ่นที่ถูกแบนในประเทศจีนมีส่วนแบ่งตลาดราว ๆ 10% – 15% ของยอดขาย iPhone ทั้งหมดในประเทศจีน ณ ปัจจุบัน อ้างอิงจาก Daniel Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities
ศาลจีนได้ออกคำสั่งเบื้องต้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง Qualcomm ผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติอเมริกันซึ่งกล่าวหาว่า Apple บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนได้ละเมิดสิทธิบัตร 2 รายการใน iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone 7, iPhone 7 Plus, iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X
สิทธิบัตรใบที่เป็นปัญหาคือการอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขและปรับขนาดรูปภาพบนโทรศัพท์กับการจัดการแอพผ่านทางหน้าจอทัชสกรีน
ผลลัพธ์จากคำสั่งศาลยังไม่เห็นชัดเจนแม้จะมีการประกาศออกมาในวันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2018 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม Apple กล่าวในแถลงการณ์ว่า iPhone ทุกรุ่นยังคงมีวางจำหน่ายในประเทศจีนตามปกติ
“ถ้า Apple ฝ่าฝืนคำสั่งศาล เรา (Qualcomm) จะหาทางร้องเรียนเรื่องดังกล่าวผ่านศาลปกครองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบศาลในประเทศจีน” Don Rosenberg ที่ปรึกษาทั่วไปของ Qualcomm กล่าวในแถลงการณ์
Apple กล่าวโทษ Qualcomm ว่าใช้วิธีการสกปรกอ้างสิทธิ์ในสิทธิบัตรใบที่ศาลทั่วโลกล้วนมีความเห็นเป็นโมฆะและอ้างสิทธิ์ในสิทธิบัตรใบที่ไม่เคยถูกนำมาใช้ในก่อนหน้านี้ Apple กล่าวว่าจะดำเนินการต่อสู้ตามกฎหมายผ่านกระบวนการศาล
วันจันทร์ที่ผ่านมา Apple ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาการตัดสินใหม่อีกครั้ง ขณะที่ Qualcomm ยกย่องคำตัดสินพร้อมเรียกร้องให้ Apple จ่ายค่าชดเชยเพราะนำเทคโนโลยีของ Qualcomm มาใช้
“ปกติแล้วเราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าโดยไม่ค่อยไปขอความช่วยเหลือจากศาล แต่เราก็มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เรามีอยู่ด้วย” Don Rosenberg ที่ปรึกษาทั่วไปของ Qualcomm กล่าว
“Apple ยังคงได้ประโยชน์จากการนำทรัพย์สินทางปัญญาของเราไปใช้และยังคงปฏิเสธที่จะจ่ายค่าชดเชยให้เรา”
คำตัดสินของศาลจีนครั้งนี้เพิ่มแรงกดดันต่อสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ และสร้างความแปลกใจให้กับทั้งวงการโดยก่อนหน้านี้มีการคาดหมายกันว่าศาลจีนจะปฏิเสธคำขอจาก Qualcomm ที่เรียกร้องให้มีการแบนสินค้า Apple
แม้จะไม่ทราบว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่จีนและสหรัฐฯ ก็ยังเป็นคู่ขัดแย้งในสงครามการค้าโดยกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีมักถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น ล่าสุดแม้ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ Xi Jinping ประธานาธิบดีจีนได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี 90 วัน เพื่อสงบศึกชั่วคราว แต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแคนาดาก็ออกมาประกาศว่ากำลังดำเนินการส่งตัว Meng Wanzhou ผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินของ Huawei บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของจีนให้กับสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการยื่นขอประกันตัว
หากทั้งสองประเทศไม่สามารถตกลงเรื่องการค้ากันได้ภายในกรอบเวลา 90 วัน Donald Trump ขู่ว่าจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรที่นำเข้าสินค้ามาจากประเทศจีนในอัตราใหม่ที่สูงขึ้น
นอกจากสงครามการค้าระหว่างประเทศกับจีนแล้ว สหรัฐฯ ยังต้องเผชิญกับการต่อสู้ภายในระหว่างบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอีกด้วย
Apple และ Qualcomm ต่างก็มีเรื่องฟ้องร้องกันผ่านกระบวนการศาลในหลายประเทศทั่วโลก มีเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เป็นเดิมพันและต่างฝ่ายต่างอ้างชัยชนะของตัวเอง
เรียกว่าศึกนอกก็มา…ศึกในก็มี…วุ่นวายข้ามปีกันเลยทีเดียว
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : edition.cnn.com วันที่ : 11 ธันวาคม 2561
CHANGAN กวาดยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Show 2024 ทะลุ 3,000 คัน
Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition สี Mystic Silver
Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 เอียร์บัดรุ่นเรือธง กับฟีเจอร์และเทคโนโลยีเพื่อเหล่าออดิโอไฟล์
vivo Y100 5G หน้าจอ 120Hz ชิป Snapdragon 4 Gen 2 กล้องคมชัด 50MP
REDMAGIC เปิดตัวพัดลมระบายความร้อน REDMAGIC VC Cooler 5 Pro ดีไซน์สุดเท่ พร้อมรองรับ MagSafe
Apple ประกาศวันจัดงาน WWDC24 เที่ยงคืนวันที่ 11 มิถุนายนประเทศไทย