แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 7 กันยายน 2564
เปิดตัวนวัตกรรมหูฟังคุณภาพระดับพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดจากแบรนด์จาบร้าจำนวน 2 รุ่น Jabra Elite 2 และ Jabra Elite 3 ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาหูฟัง True Wireless เจนเนอเรชั่นที่ 6 ของจาบร้า
โดยหูฟังทั้ง 2 รุ่นโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีความกระชับและเบากว่าเดิม เพื่อเติมเต็มความสบายในการฟังเพลงและสนทนาให้แก่ผู้ที่รักในเสียงดนตรียิ่งขึ้น โดยมาในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
สำหรับ Jabra Elite 2 เป็นหูฟัง True Wireless ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบรูปทรงให้สวมใส่สบายและพอดีกับหูทุกคู่ตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อให้คนรักเสียงเพลงเพลิดเพลินกับการฟังเพลงขณะเดินทางได้อย่างปลอดภัยและสบายมากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมกับลำโพงขนาด 6 มม. ถ่ายทอดเสียงที่ชัดใส พร้อมเสียงเบสที่แน่นและลึกกว่าเดิม
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับไมโครโฟน 2 ตัว และตัวหูฟังได้รับการออกแบบมาให้สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอก(Passive Niose Cancellation)ในขณะสวมใส่ เพื่อให้รับฟังเสียงสนทนาหรือเสียงเพลงได้ชัดเจนตลอดเวลาโดยเฉพาะเวลาที่อยู่นอกบ้าน
ทั้งยังรองรับการปรับแต่งเสียงต่างๆ ผ่านมือถือได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย รวมถึงมีฟังก์ชั่น Amazon Alexa และ Google Fast Pair และ Spotify เพียงแค่แตะครั้งเดียว ขณะเดียวกัน ตัวหูฟังยังออกแบบให้ทนต่อเหงื่อและป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX55 แบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 21 ชั่วโมง ทำให้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงสุดโปรดได้อย่างเต็มอิ่ม และยังรองรับการชาร์จไฟแบบเร่งด่วน โดยชาร์จแค่ 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานอีก 1 ชั่วโมง
โดยมีให้เลือก 2 สี คือ NAVY และ Dark Grey วางจำหน่ายในราคา 2,290 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพสินค้า 2 ปี
ขณะที่ Jabra Elite 3 ที่มาพร้อมสีสันสดใส ถูกออกแบบให้เป็นหูฟัง True Wireless ระดับคุณภาพที่ได้ปรับดีไซน์ใหม่ เพื่อให้คอเพลงสวมใส่สบาย ด้วยรูปทรงที่เข้ากับสรีระของหูมากยิ่งขึ้น น้ำหนักเบา เพื่อมอบประสบการณ์ในการฟังเพลงที่ยอดเยี่ยม
พร้อมเสียงเบสที่หนักแน่น ทรงพลัง และถ่ายทอดเสียงที่ชัดใสทุกสถานการณ์ ด้วยลำโพงขนาด 6 มม. ให้พลังเสียงอันยอดเยี่ยมไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลง ทั้งยังมาพร้อมไมโครโฟน 4 ตัว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสนทนาหรือประชุมงานได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีฟังก์ชั่น HearThrough ที่ทำให้ได้ยินเสียงจากภายนอกโดยไม่ต้องถอดหูฟังให้เสียเวลา
ช่วยให้ไม่พลาดการติดต่อ และปลอดภัยเมื่ออยู่บนท้องถนน ขณะเดียวกันตัวหูฟังยังออกแบบให้ทนต่อเหงื่อและป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX55 นอกจากนี้ ยังรองรับการทำงานร่วมกับแอปฯ Jabra Sound+ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเสียงต่างๆ ผ่านมือถือได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย
รวมถึงมีฟังก์ชั่น Amazon Alexa และ Google Fast Pair และ Spotify แค่แตะครั้งเดียว ไม่ว่าจะขอเส้นทางหรือเล่นเพลงโปรด สามารถทำทุกกิจกรรมได้พร้อมกันโดยไม่มีสะดุด ขณะที่แบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 28 ชั่วโมง
และยังรองรับการชาร์จไฟแบบเร่งด่วน โดยชาร์จแค่ 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานอีก 1 ชั่วโมง ทั้งยังมาพร้อม Mono Mode ช่วยให้สามารถใช้งานหูฟังข้างหนึ่ง ขณะชาร์จหูฟังอีกข้างหนึ่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด
โดยมีให้เลือก 4 สี คือ NAVY / LILAC / Light Beige / Drey วางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพสินค้า 2 ปี
สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Studio7, iStudio by copperwired, iStudio by SPVi, Jaymart, Dotlife, Banana IT, Munkonggadget, Mercular, Powermall, Powerbuy หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง www.facebook.com/jabrathailand
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 7 กันยายน 2564
เปิดตัว HUAWEI FreeBuds Pro 4! หูฟังไร้สายรุ่นแรกที่ใช้ HarmonyOS NEXT
HONOR X9c Smart สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ 108MP ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra
ทำความรู้จัก HONOR 200 Smart 5G หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP64 กล้องหลัง 50MP AI Motion Sensing
HMD Fusion สมาร์ทโฟนที่สามารถปรับแต่งและซ่อมเองได้ด้วยมือคุณ!
ทำความรู้จัก TECNO SPARK 30C หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP54 ลำโพงสเตอริโอ มีชาร์จเร็ว
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย12 ชั่วโมงที่แล้ว