Apple เริ่มอีเวนต์ด้วยการเปิดตัว Apple Watch Series 9 งานนี้มาครบๆ เลย ทั้ง Apple Watch SE, Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 เรียกได้ว่าทุกอุปกรณ์จัดเต็ม น่าใช้งานกว่ารุ่นไหนๆ ส่วนรายละเอียดเต็มๆ จะเป็นอย่างไรมาติดตามกันได้เลย
Apple Watch Series 9 ไฮไลท์สำคัญคือ ชิปเซ็ต SiP S9 ที่เป็นขุมพลังประมวลผลอันชาญฉลาดให้กับการใช้งานต่างๆ โดยมีการประมวลผล CPU และ GPU ที่รวดเร็วขึ้น คุณสามารถเห็นผลลัพธ์ได้จากการเปิดแจ้งเตือนต่างๆ หรือเปิดแอปพลิเคชั่น เป็นต้น
Apple Watch Series 9 รองรับการใช้งานฟีเจอร์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ Crash Detection, รองรับโหมดปั่นจักรยาน (Cycling), รองรับการใช้งาน Siri เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น, ความสว่างหน้าจอ 2000nits ชัดทุกสภาวะการใช้งานแม้กลางแจ้ง, สายนาฬิกาที่มีการออกแบบใหม่ ใช้วัสดุรีไซเคิลมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ SiP S9 มีชิปเซ็ตคลื่นวิทยุ U1 ที่จะทำให้ตรวจจับอุปกรณ์อื่นได้ทันทีในระยะใกล้เคียง แต่ข้อแม้คือ อุปกรณ์นั้นต้องใช้ชิปเซ็ตเดียวกันด้วย คล้ายๆ กับการยิงคลื่นวิทยุหากัน เพื่อให้คุณค้นหาอุปกรณ์ในคลื่นวิทยุเดียวกันได้ในระยะไม่เกิน 20 ฟุต หรือเป็นฟีเจอร์ Find My อย่างย่อ ที่ใช้งานได้ง่ายกว่านั่นเอง
ฟีเจอร์ Double Tap เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าคุณกำลังร่ายเวทมนตร์อยู่ เพียงแค่ให้นิ้วแตะติดต่อกันสองครั้งก็สามารถสั่งการควบคุมใช้งานได้แล้ว อาทิ การรับสายโทรศัพท์/การตัดสายโทรศัพท์, การเล่นเพลง/หยุดเพลง หรือการปิดนาฬิกาปลุก เป็นต้น โดยฟีเจอร์นี้จะมีเซนเซอร์ Gyroscope คอยตรวจจับอยู่ภายใต้ตัวเรือนนาฬิกาจากการเคลื่อนไหวของท่าทางนั่นเอง
กล่องบรรจุภัณฑ์ยังคงคอนเซ็ปต์รักษ์โลก ซึ่งคราวนี้ได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ด้วยการใช้วัสดุไฟเบอร์เป็นหลัก และกล่องแพ็กเกจเล็กลงอีก 25% เมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์รุ่นก่อน ส่วนวัสดุอื่นๆ มีการใช้วัสดุรีไซเคิลทดแทน แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรงทนทาน ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการลดก๊าซคาร์บอน
Apple Watch Series 9 มีประเภท 2 ตัวเรือนให้เลือก ขนาด 41 มม. กับ 45 มม. ถ้าเป็นตัวเรือนอะลูมิเนียมจะเป็นเฉดสีใหม่ Pink, Starlight, Silver, Midnight และ Product Red หากเป็นตัวเรือนสเตนเลสสตีลจะมี 3 สีให้เลือก ได้แก่ Gold, Silver และ Graphite เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 22 กันยายน ราคาเริ่มต้นประมาณ $399 หรือ 14,2xx บาท
Apple Watch Ultra 2 รุ่นสานต่อความสำเร็จจากรุ่น Apple Watch Ultra โดยการออกแบบของรุ่นนี้จะมีความพรีเมียมและเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งเน้นการอัปเกรดสเปคภายในให้สูงมากยิ่งขึ้น ซึ่งใช้ชิปเซ็ตประมวลผลเดียวกันกับ Apple Watch Series 9 คือ SiP S9 เป็นหัวใจหลัก มาพร้อมฟีเจอร์ Double Tap ข้างต้นเช่นกัน
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ หน้าจอมีความสว่างมากถึง 3,000nits สามารถใช้งานกลางแจ้งได้อย่างไม่มีปัญหา แม้แดดจะแรงแค่ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ยังมีโหมดหน้าจอ Modular Ultra โดยจะโชว์ข้อมูลเกี่ยวกับองศา, รัศมี หรือระยะต่างๆ ที่เกี่ยวกับทิศทาง แม้ใช้งานกลางคืนคุณก็สามารถเห็นได้ชัดเนื่องจากมีเซนเซอร์ ambient light sensor คอยตรวจจับ ซึ่งหน้าจอจะแสดงผลเป็นสีพื้นหลังโทนดำ รายละเอียดข้อมูลจะเป็นแสงส้มที่กลมกลืนกับหน้าจอ
การดำน้ำจะลึกมากยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานที่ความลึกไม่เกิน 40 เมตร ทั้งมีโหมดไฟฉายที่มีความสว่างมากยิ่งขึ้นด้วย ส่วนปุ่ม Action Button ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ตามต้องการในการเรียกใช้งานเมนู หรือแอปพลิเคชั่นด่วน ด้านแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นประมาณ 36 ชั่วโมง
การนำทางก็แม่นยำ เพราะมีเซนเซอร์ GPS แบบคู่ คอยตรวจจับทำงานร่วมกับเหล่าเซนเซอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวเลข หรือข้อมูลต่างๆ จะถูกประมวลผลได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้การใช้งานจะมีความทนทานมากยิ่งขึ้น ตัวเรือนนาฬิกา Apple Watch Ultra 2 สามารถใช้ได้ที่อุณหภูมิติดลบ (-500) องศาเซลเซียส และที่ความสูงถึง 9,000 เมตร
Apple Watch Ultra 2 จะวางจำหน่ายวันที่ 22 กันยายนเป็นต้นไปเช่นกัน มีราคา $799 หรือประมาณ 28,4xx บาท
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 13 กันยายน 2566
10 สุดยอดหูฟังไร้สาย (TWS) เสียงดีเกินใคร แบตอึดสะใจ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2025
หลุดสเปค AirTag 2 อัปเกรดชิปฯ UWB ใหม่ ค้นหาแม่นยำไกลขึ้น 3 เท่า จ่อเปิดตัวปลายปี 2025
แผนลับ Apple เผย Roadmap แว่นตาอัจฉริยะและ Vision Headset รุ่นใหม่เจาะลึกถึงปี 2028
TECNO Spark 40 สมาร์ทโฟนดีไซน์สวยล้ำ จอ 120Hz แบตฯ 5,200mAh ในราคาแค่ 3,3xx บาท
หลุดสเปค Nothing Headphone (1) ก่อนเปิดตัว แบตอึด 80 ชม. จูนเสียงโดย KEF
RedMagic Gaming Tablet 3 Pro พลังเหนือระดับเพื่อคอเกมตัวจริง
Xiaomi Watch S4 41mm สมาร์ทวอทช์ดีไซน์เล็กเหมาะกับผุ้หญิง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยชิป Xring T1
Xiaomi Smart Band 10 สมาร์ตแบนด์จอ AMOLED ขนาด 1.72 นิ้ว โหมดออกกำลังกายกว่า 150 โหมด
OnePlus Nord CE5 ชูความใหญ่แบตเตอรี่ 7100mAh ผสมโรงกล้อง Sony 50MP กันสั่น OIS
Redmi K Pad แท็บเล็ตสายกะทัดรัด แต่แรงด้วยชิป Dimensity 9400+ หน้าจอลื่นระดับ 165Hz
Infinix HOT 60 5G สมาร์ตโฟนชิปเซ็ต Dimensity 7020 พร้อมกล้องหลังคู่ 50+8MP
HUAWEI FreeBuds 6 หูฟัง Open-Fit เสียงแน่น เบสลึก คุยชัดแม้ในที่เสียงดัง
OPPO A5 5G สมาร์ตโฟนสุดทนทาน พร้อมความจุใหม่ สุดคุ้มเพียง 6,xxx7 ชั่วโมงที่แล้ว