สรุปฟีเจอร์ Apple Intelligence เริ่มใช้งานเดือนหน้า ยังไม่มีภาษาไทย iPhone 15 รุ่นไหนได้ใช้งาน ?

Apple ประกาศอย่างเป็นทางการ สำหรับ Apple Intelligence ที่จะทยอยอัปเดตให้ผู้ใช้งาน iPhone, iPad และ Mac เริ่มอัปเดตตามแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ในเวอร์ชั่น iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 พร้อมทั้งจะทยอยเพิ่มฟีเจอร์ความสามารถใหม่ๆ ในการอัปเดตครั้งต่อๆ ไปด้วยเช่นกัน

เบื้องต้น Apple Intelligence รองรับการใช้งานเฉพาะภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (U.S. English) จากนั้นจะเพิ่มภาษาอื่นๆ ตามกำหนดการคือ ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย, แคนาดา, นิวซีแลนด์, แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร ในเดือนธันวาคม ส่วนการรองรับภาษาอื่นเพิ่มเติมจะอัปเดตต่อไปในปีหน้า ได้แก่ ภาษาจีน, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาญี่ปุ่น และภาษาสเปน

สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน Apple Intelligence มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ได้แก่ iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro, iPhone 16 Pro Max, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และ iPad กับ Mac ที่ใช้ชิปเซ็ต M1 หรือรุ่นใหม่กว่านั้น

สรุปฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่น่าสนใจดังนี้...

Writing Tools : ผู้ใช้สามารถเขียนข้อความได้อย่างสละสลวย โดยจะปรับรูปแบบการเขียน พร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องด้วยการพิสูจน์อักษร และสรุปข้อความทั้งในแอปเมล, โน้ต, Pages และแอปฯ อื่นๆ

Clean Up : สามารถตรวจหาและลบวัตถุรบกวนสวยตาในฉากหลังของภาพโดยไม่ส่งผลใดๆ ต่อตัวแบบในภาพ

ผู้ใช้สามารถบันทึก ถอดข้อความ และสรุปเนื้อหาจากเสียง : ในแอปโน้ตและโทรศัพท์ เมื่อเริ่มบันทึกเสียงโทรศัพท์ในขณะที่ผู้ใช้คุยโทรศัพท์ ผู้ที่อยู่ในสายจะได้รับการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย Apple Intelligence ก็จะสรุปเนื้อหาเพื่อช่วยทบทวนประเด็นสำคัญ

การแจ้งเตือนที่มีความสำคัญ : โดยจะแสดงเนื้อหาที่สำคัญ พร้อมสรุปด้วยการสแกนข้อความแจ้งเตือนยาวๆ หรือที่ซ้อนกันอยู่โดยการแสดงรายละเอียดสำคัญบนหน้าจอล็อค

ข้อความที่มีความสำคัญ : เช่น แอปเมล มีความสามารถในการเข้าใจเนื้อหาของอีเมลและจะดันข้อความที่สำคัญขึ้นมาอยู่ด้านบน เพื่อให้คุณได้เห็นก่อน พร้อมสรุปเนื้อหาที่มีข้อมูลสำคัญที่สุดของอีเมลแต่ละฉบับ แทนที่จะแสดงตัวอย่างไม่กี่บรรทัดแรก อีกทั้งการตอบกลับอัจฉริยะ มีการแนะนำข้อความตอบกลับอย่างง่าย และตรวจหาคำถามในอีเมลเพื่อให้มั่นใจว่าตอบครบทุกคำถาม

Siri มีความเป็นธรรมชาติ : โดยพัฒนาให้มีความยืดหยุ่น เป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ทั้งระบบมากขึ้น และมาในดีไซน์ใหม่ที่จะส่องแสงเรืองๆ อย่างสวยงามบริเวณโดยรอบของขอบหน้าจอ iPhone, iPad หรือ CarPlay ในขณะที่บน Mac ผู้ใช้สามารถวาง Siri ไว้ตรงไหนก็ได้บนเดสก์ท็อปเพื่อให้เรียกใช้ได้ง่ายขณะทำงาน และผู้ใช้สามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ได้ทุก

Image Wand : ที่จะทำให้โน้ตดูน่าสนใจยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าวๆ เป็นภาพที่สวยงาม และเมื่อผู้ใช้วงพื้นที่ว่างๆ Image Wand ก็จะสร้างภาพขึ้นมาโดยใช้บริบทจากพื้นที่รอบข้าง

Image Playground : ผู้ใช้สามารถสร้างรูปภาพสนุกๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น นำไปเป็นรูปโปรไฟล์กลุ่มต่างๆ หรือใช้เป็นไอคอนเพื่อสื่อแสดงความรู้สึก

สร้าง Genmoji ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร : เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย หรือเลือกรูปภาพของเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัว จากนั้นระบบจะเจนภาพในรูปแบบต่างๆ ที่คล้ายภาพต้นแบบออกมา คราวนี้คงต้องลุ้นกันหน่อยว่าจะมีรูปภาพอะไรบ้าง?

Apple Intelligence ยังคงไม่เปิดใช้งานในตอนนี้ จะเริ่มเปิดใช้งานเดือนหน้า หลังจากมีการปล่อยอัปเดต ส่วนภาษาไทยยังไม่มีกำหนดการอย่างเป็นทางการ ต้องรอประกาศอีกครั้งหนึ่ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Infinix เปิดตัว E-Color Shift 2.0 ปฏิวัติการปรับแต่งฝาหลังสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี AI
• 
  Microsoft พลิกโฉม Paint และ Notepad ด้วย AI สร้างสรรค์และปรับแต่งได้ดั่งใจ

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่