รีวิว Vivo V7+ สมาร์ทโฟนหน้าจอ FullView ชูจุดเด่นกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Face Beauty 7.0

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Vivo V7+ วีโว

่

เป็นสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Vivo ที่กลับมาเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่องแทบทั้งหมดอย่างรุ่น Vivo V7+ ซึ่งชูจุดเด่นด้านหน้าจอ FullView แบบ IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 720 พิกเซล อัตราส่วนหน้าจอ 18:9 ที่ให้ประสบการณ์การมองเห็นได้อย่างเต็มจอแต่ยังคงจับกระชับมือ ทั้งยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 450 Octa-core, RAM 4 GB, หน่วยความจำภายใน 64 GB (เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256 GB), กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Ultra HD ที่ช่วยให้ภาพมีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 64 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาด 3,225 mAh

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Vivo V7+ มีความโค้งมนในทั้ง 4 มุมของตัวเครื่อง ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 155.87 x 75.74 x 7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 160 กรัม

หน้าจอแสดงผล IPS LCD 24-bit (16 ล้านสี) ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 720 พิกเซล อัตราส่วนหน้าจอ 18:9 และมีสัดส่วนของขนาดหน้าจอและตัวเครื่อง 84.4%

เหนือหน้าจอมีกล้องเซลฟี่ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นลำโพงตัวที่ 2 สำหรับสนทนา, เหล่าเซ็นเซอร์ต่างๆ และไฟแฟลช Moonlight Light

ด้านล่างของหน้าจอได้นำปุ่มแอพฯ ล่าสุด ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ไปแสดงผลในหน้าจอ

ถัดไปที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิม 2 ช่องแบบ NanoSIM และอีก 1 ช่องสำหรับเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 256 GB

** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มสำหรับปิดหรือล็อคเครื่อง

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวหลัก, ช่องสำหรับชาร์จหรือเชื่อมต่อข้อมูลแบบ MicroUSB 2.0 และลำโพงที่มีระบบเสียง Hi-Fi ตามลำดับ

และที่ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลช LED และมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังอยู่บริเวณตรงกลาง ที่พร้อมเป็นชัตเตอร์เพิ่มความสะดวกสบายขณะถ่ายภาพได้ด้วย

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Vivo V7+ (ติดตั้งฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย)
เคสแบบใสสำหรับตัวเครื่อง
อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
สายเชื่อมต่อ Micro USB 2.0
หูฟังสมอลทอร์ค
คู่มือฉบับย่อ
ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Vivo V7+ เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Vivo V7+ กับไม้บรรทัด

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปกตัวเครื่อง Vivo V7+

ขนาดตัวเครื่อง : 155.87 x 75.74 x 7.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 160 กรัม
จอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 720 พิกเซล อัตราส่วนหน้าจอ 18:9
หน่วยประมวลผล Snapdragon 450 Octa-Core ความเร็ว 1.8 GHz
RAM 4 GB
ROM 64 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256 GB
กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง ระบบจับโฟกัส PDAF รูรับแสง f/2.0
กล้องถ่ายรูปด้านหน้า 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมดปรับแต่งผิว Face Beauty 7.0 และไฟแฟลช Softlight
ระบบเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2
เครือข่าย
GSM 850/900/1800/1900 MHz
LTE 1/3/5/7/8/40/41
เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
2G: EDGE/GPRS
3G: HSDPA+
4G: LTE DL, LTE UL
ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.2 บนพื้นฐาน Android 7.1.2 (Nougat)
รองรับการใช้งาน 2 ซิม แบบ Nano-SIM
แบตเตอรี่ : 3,225 mAh

ระบบปฏิบัติการ/พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูล/RAM

สำหรับ Vivo V7+ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.2 บนพื้นฐาน Android 7.1.2 (Nougat) มีพื้นที่ว่างสำหรับการใช้งานเหลืออยู่ประมาณ 50GB จากพื้นที่ทั้งหมด 64GB โดยมี RAM เหลือทั้งหมดประมาณ 2GB จากทั้งหมด 4GB

หน้าจอหลัก/หน้าแจ้งเตือน (Notification)

สำหรับหน้าจอหลักของ Vivo V7+ จะถือเป็นหน้ารวมแอพพลิเคชั่น และเมื่อมีการติดตั้งแอพฯ ก็จะปรากฏในหน้านี้ทันที ส่วนหน้าของการแจ้งเตือน ผู้ใช้งานสามารถปัดหน้าจอลงมาเพื่อดูการแจ้งเตือนจากแอพฯ ต่างๆ ได้ ส่วนการปัดขึ้นจากบริเวณล่างหน้าจอจะเป็นการเปิดการตั้งค่าด่วนและการปรับแสงสว่างหรือเสียง

หน้าจอล็อก

สำหรับการล็อคหน้าจอจะมีวิธีการป้องกันด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

รูปแบบ
รหัสผ่าน 4 หลัก
รหัสผ่าน 6 หลัก
กำหนดรหัสผ่านตัวอักษรและตัวเลขของคุณเอง
ลายนิ้วมือ
ใบหน้า

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งรหัสความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสแอพฯ ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

การโทร/รายชื่อ/ข้อความ/เครื่องคิดเลข/โน๊ต/บันทึกเสียง/เข็มทิศ/วิทยุ/ปฏิทิน/นาฬิกาปลุก/เบราว์เซอร์/อัลบั้ม/ตัวจัดการไฟล์

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v6.2.7 ได้ 58,533 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 754 และคะแนน Multi-Core ที่ 3,857
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย Nenamark 2 ได้ 60.0 เฟรม/วินาที
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์หน้าจอ FullView แบบใหม่ของ Vivo

สำหรับสิ่งแรกที่ดูจะเป็นจุดเด่นและสังเกตุได้เป็นอย่างแรกของ Vivo V7+ เลยก็คือ หน้าจอแบบ FullView ที่ทาง Vivo ได้ลดขนาดในส่วนของหน้าจอทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อให้หน้าจอการแสดงผลทำได้อย่างเต็มตามากขึ้น โดยความพิเศษของหน้าจอ FullView นี้ จะมีอัตราส่วนหน้าจอ 18:9 ซึ่งสามารถแสดงผลได้กว้างกว่า 12.5% (เมื่อเปรียบเทียบกับจอขนาด16:9), มีสัดส่วนของขนาดหน้าจอและตัวเครื่อง 84.4% และความบางของขอบจอเพียง 2.15 มิลลิเมตร

โหมดเสียง Hi-Fi

สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจแล้วล่ะก็ Vivo V7+ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการเลือกใช้งาน เพราะได้มีการอัพเกรดเป็นชิปเสียง Hi-Fi AK4376A รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้คุณภาพของเสียงที่ออกมาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

การใช้งาน 2 หน้าจอ

สำหรับ Vivo V7+ มาพร้อมกับความสามารถในการทำงาน 2 หน้าจอด้วย Smart Split 3.0 ที่ช่วยให้มีความง่ายขึ้นในการใช้ฟีเจอร์นี้ เพียงแค่ให้เราใช้ 3 นิ้วเลื่อนลงบนหน้าจอ ก็จะปรากฏหน้าจอแยกออกมาในทันที

สแกนลายนิ้วมือและใบหน้า

ถือว่าเพิ่มความสะดวกสบายในการปลดล็อคสมาร์ทโฟนไปอีกขั้นสำหรับ Vivo V7+ ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ปลดล็อคด้วยใบหน้า ที่มีการสแกนหลายจุดบนใบหน้าและจะปลดล็อคหลังจากได้ยืนยันใบหน้าทางชีวภาพเท่านั้น โดยเพียงแค่ผู้ใช้งานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอ ฟีเจอร์ดังกล่าวก็จะเริ่มทำงานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Vivo V7+ ยังสามารถปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วยเช่นเดียวกัน

กล้อง

สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น Vivo V7+ นี้ก็คือเรื่องกล้องที่มีความคมชัดและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เริ่มกันด้วยกล้องหลังที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับโหมด Ultra HD ที่ใช้ความละเอียดของภาพถึง 64 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดถึง 24 ล้านพิกเซล ผสมผสานกับฟีเจอร์ Face Beaty 7.0 พร้อมด้วยโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait)

สำหรับฟีเจอร์ Face Beaty 7.0 ผู้ใช้งานสามารถปรับค่าต่างๆ ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นผิวนวล, โดนสีผิวตั้งแต่สีขาว - สีดำแดง และการปรับความขาว ที่ช่วยให้สีสันของภาพมีความสดใสและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ขณะที่โหมดการถ่ายภาพบุคคล ผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้งานได้ในส่วนด้านบนของหน้าจอ ช่วยให้บุคคลภายในภาพดูโดดเด่นและคมชัดมากขึ้นจากการเพิ่มความเบลอของฉากหลัง