รีวิว Aston LEGACY X-100 สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว กล้องคู่ทั้งด้านหน้าและหลัง ความละเอียด 13+5 พิกเซล

โดย ปิตุภูมิ นันทวิทยา โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Aston LEGACY X-100 - แอสตัน

Aston LEGACY X-100 แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่ยังมาพร้อมฟีเจอร์แบบครบครัน ทั้งกล้องหน้าคู่ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังคู่ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล แถมมีเทคโนโลยี MiraVision ที่เป็นตัวเพิ่มคุณภาพในการแสดงผลตามต้องการ ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้อีกด้วย ด้านสเปกภายในมาพร้อมหน่วยประมวลผล MT6737T Quad-core ความเร็ว 1.44 GHz, RAM 3 GB, ความจุภายใน 32 GB รองรับ Micro SD สูงสุด 128 GB และ แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่องของ Aston LEGACY X-100 มีขนาดความยาวกับความกว้าง 151x76 มม. และหนา 8.2 มม. ส่วนน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 180 กรัม (รวมแบตเตอรี่)

ตรงหน้าจอแสดงผลใช้เป็นหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ป้องกันด้วยกระจก Gorilla Glass 4 ขอบโค้ง 2.5D

ขยับมาด้านบนหน้าจอมีลำโพงไว้สำหรับการสนทนาอยู่ตรงกลาง ด้านขวาเป็นกล้องคู่ 2 ตัว ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และข้างซ้ายเป็นไฟแฟลช

ข้างล่างหน้าจอมีปุ่มโฮมลักษณะเป็นวงรี และสามารถใช้งานสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเครื่องจากปุ่มโฮมได้อีกด้วย

ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีการใช้งานอยู่ 2 ปุ่ม โดยปุ่มข้างบนจะเป็นปุ่มไว้สำหรับเพิ่มและลดเสียง ส่วนข้างล่างจะเป็นปุ่มเพาเวอร์ไว้สำหรับพักหน้าจอหรือปิดเครื่อง

มาทางด้านขวาจะมีช่องไว้ใส่ถาดซิม และเมื่อถอดออกมาจะสามารถใส่ซิมได้ 2 ซิม (MicroSIM และ Nano SIM) รวมไปถึงช่องสำหรับใส่ Micro SD รองรับความจุสูงสุด 128GB

** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

ส่วนข้างล่างตัวเครื่องจะมีช่อง Micro USB ไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือโอนถ่ายข้อมูล และมีลำโพงคู่ขนาบอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง

ด้านบนตัวเครื่องจะมีเพียง ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

มาทางข้างหลังเครื่องจะมีลายเส้นสีเทาทั้งข้างบนและข้างล่าง ส่วนกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลอยู่บนซ้ายสุด ถัดมาจะเป็นรูตัดสัญญาณรบกวน และไฟแฟลช ขยับมาตรงกลางเป็นโลโก้ Aston และข้างล่างเป็นโลโก้ LEGACY

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Aston LEGACY X-100
อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
อแดปเตอร์ชาร์จไฟ (รองรับ Super Charge)
สายชาร์จแบบ USB Type-C
หูฟังสมอลทอร์ค
เคสซิลิโคลน
ฟิล์มกันรอย
ผ้าเช็ดหน้าจอ
คู่มือการใช้งาน

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Aston LEGACY X-100 เมื่อถือใช้งานในมือของผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Aston LEGACY X-100 กับไม้บรรทัด

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ Aston LEGACY X-100

ขนาดตัวเครื่อง : 151x76x8.2 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 180 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
หน้าจอแสดงผล : IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ครอบทับด้วย Gorrilla Glass 4 ขอบโค้ง 2.5D
หน่วยประมวลผล : MediaTek MT6737T Quad-core ความเร็ว 1.44 GHz
หน่วยประมวลผลกราฟฟิก : Mali-T720
RAM : 3GB
ROM : 32GB
กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช
กล้องหน้าคู่ : ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช
ระบบการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n , 5G support, 3G 850/900/2100MHz, 4G : 850/900/1900/2100Hz, Bluetooth 4.0, GPS, Micro USB
ฟีเจอร์อื่นๆ : สแกนลายนิ้วมือ, เทคโนโลยี MiraVision, รองรับ Micro SD 128GB
แบตเตอรี่ : ความจุ 3000 mAh

ระบบปฏิบัติการ

สำหรับ Aston LEGACY X-100 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ตั้งแต่แกะจากกล่อง โดยมีการปรับแต่งหน้าตาอินเตอร์เฟสหรือ UI ออกไปโทนสีทอง และมีแอพพลิเคชั่นจากโรงงานของค่ายติดต้้งมาให้น้อย

หน้าจอ Lock Screen

ด้านหน้าจอ Lock Screen จะมีปุ่มลัดเข้าใช้งาน Google Assistant ด้วยการรูดหน้าจอจากทางซ้ายขึ้น และปุ่มลัดเข้าใช้งานกล้องด้วยการรูดหน้าจอล่างขวาขึ้นจากล่างขวา นอกจากนี้ยังมีแถบการแจ้งเตือนในหน้านี้ด้วย ส่วนการปลดล็อกเข้าใช้งานจะมีให้เลือก 4 แบบทั้ง รูปแบบ, PIN, รหัสผ่าน และสแกนลายนิ้วมือ

หน้าจอหลัก

ในหน้าจอหลักจะมีการออกแบบให้โลโก้ ให้มีโทนสีเน้นไปเป็นสีทอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Aston

การแจ้งเตือน และแผงควบคุม

แอพพลิเคชั่นพื้นฐาน

หน้าโทรศัพท์ / ข้อความ / แป้นพิมพ์

การทดสอบความเร็วและการแสดงผล

ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark 6.2.7 ได้ 37,505 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 19,538 คะแนน
ผลทดสอบความเร็วการทำงาน CPU ด้วย Geekbench 4 ได้ Single Core 662 คะแนน และ Multi-Core Score 1854 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย Nenamark 2 ได้ 58.6 เฟรม/วินาที
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 3 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจวัดการทรงตัว
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

สแกนลายนิ้วมือ

เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนสมัยนี้นำระบบสแกนลายนิ้วมาใช้บนมือถือ ซึ่ง Aston LEGACY X-100 ก็ไม่พลาดที่จะนำฟีเจอร์นี้มาใช้งาน โดยระบบสแกนลายนิ้วมือจะอยู่ตรงปุ่มโฮมด้านล่างของหน้าจอ เพื่อใช้งานการปลดล็อกเครื่อง หรือจะนำไปใช้งานในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น รับสาย, ถ่ายรูป, แคปหน้าจอ และกลับสู่หน้าโฮม

เทคโนโลยี MiraVision

ตรงส่วนเทคโนโลยีนี้ คือการปรับแต่งหน้าจอให้เป็นไปตามความต้องการ โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งเองได้ หรือจะปรับเป็นโหมดมาตรฐานและสดใส

โหมด Super Saver

โหมดนี้เป็นโหมดประหยัดพลังงานแบบขึ้นสูงสุด โดยจะให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้แค่ โทรเข้า-ออก, ส่งข้อความ, ดูรายชื่อผู้ติดต่อ และดูเวลาเท่านั้น ส่วนวิธีเริ่มใช้งานก็เพียงกดปุ่มเพาเวอร์ค้างไว้ และเลือกโหมด Super Saver

การใช้งานแอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์

ก็ถือว่าจะใช้งานได้อย่างสบายสำหรับแอพพลิเคชั่นอย่าง Facebook, Twitter, Instagram หรือ Line

ดูวิดีโอ

สำหรับการดูวิดีโอบน Youtube ก็สามารถดูได้ด้วยความละเอียด Full HD 1080p แบบลื่นๆ ไม่มีกระตุก

ด้านการเล่นเกม

จากที่ Aston LEGACY X-100 มีสเปกด้านในเป็นหน่วยประมวลผล Quad-core ความเร็ว 1.44 GHz และหน่วยประมวลผลด้านกราฟฟิก Mali-T720 แยกออกมา ทำให้การเล่นเกมอย่าง ROV ยังทำออกมาได้ดีไม่กระตุก แต่การโหลดเข้าเกมในส่วนต่างๆ อาจจะยังไม่เร็วมาก

การใช้งานกล้อง

ในเรื่องของกล้องถือว่าเป็นจุดเด่นของ Aston LEGACY X-100 ซึ่งมาพร้อมกล้องกันรวม 4 ตัว (กล้องหน้า 2 และกล้องหลัง 2) และยังมีไฟแฟลชเพิ่มความสว่างในการถ่ายภาพในที่มืด โดยกล้องหน้าคู่จะมีความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังคู่ก็มีความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกัน ส่วนฟีเจอร์ก็มีโหมด เฟซบิวตี้ ในการปรับแต่งใบหน้า และยังสามารถถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอ แถมยังปรับฟิลเตอร์ได้ถึง 14 แบบ นอกจากนี้การถ่ายวิดีโอก็สามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุดแบบ Full HD

โหมดปรับฟิลเตอร์

โหมดเฟสบิวตี้

ในส่วนของโหมดเฟสบิวตี้ จะมีให้เลือกปรับถึง 5 แบบ โดยแบบแรกจะเป็นการปรับภาพรวม และที่เหลือจะเป็นปรับความมนของหน้า, หน้าเรียว, ความขาว และ ตาโต

โหมด SLR

โหมดนี้คือการปรับภาพให้หน้าชัดหลังเบลอนั้นเอง ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถปรับความเบลอได้เอง ด้วยวิธีการกดลงที่หน้าจอแล้วปรับรูรับแสงตามที่ต้องการ

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพจากกล้องหลัง : (4:3) 4160x3120, 4096x3072, 3264x2448, 2560x1920, 2048x1536, 1600x1200, 1280x960, 1024x768, 640x480 พิกเซล , (16:9) 4096x2304, 3328x1872, 2560x1440, 1280x720 พิกเซล
ความละเอียดของภาพจากกล้องหน้า : (4:3) 4160x3120, 3264x2448, 2560x1920, 2048x1536, 1600x1200, 1280x960, 1024x768, 640x480 พิกเซล , (16:9) 4096x2304, 3328x1872, 2560x1440, 1280x720 พิกเซล
การซูม : ซูมแบบดิจิตอล 4 เท่า
ไฟแฟลช : เปิด, ใช้เมื่อถ่าย, อัตโนมัติ, ปิด, เปิดตลอด
HDR : ปิด, เปิด
ข้อมูลตำแหน่ง GPS : ปิด, เปิด
การตรวจจับใบหน้า : ปิด, เปิด
ปิดเสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
สัมผัสหน้าจอเพื่อถ่าย : ปิด, เปิด
ตั้งเวลาถ่ายเอง : ปิด, 2 วินาที, 10 วินาที
การถ่ายภาพอัตโนมัติ : ปิด, เปิด
เส้น Grid : ปิด, เปิด
ป้องกันการสั่น : ปิด, เปิด
ZSD : ปิด, เปิด
โหมดถ่ายภาพมืออาชีพ : โหมดสำเร็จรูป, การรับแสง, ไวต์บาลานซ์, ป้องกันการการกะพริบ, ISO

การถ่ายวิดีโอ

ความละเอียดของภาพจากกล้องหลัง : 1920x1080, 1280x720, 640x480, 176x144 พิกเซล
ความละเอียดของภาพจากกล้องหน้า : 640x480, 176x144 พิกเซล
การซูม : ซูมแบบดิจิตอล 4 เท่า
ไฟแฟลช : เปิด, อัตโนมัติ, ปิด, เปิดไว้ตลอด
ไมโครโฟน : ปิด, เปิด
โหมดเสียง : ปกติ, ประชุม
ช่วงระยะเวลา : ปิด, 1 วินาที, 1.5 วินาที, 2 วินาที, 2.5 วินาที, 3 วินาที, 5 วินาที, 10 วินาที
การลดเสียงรบกวน : ปิด, เปิด
EIS : ปิด, เปิด
โหมดมืออาชีพ : โหมดสำเร็จรูป, การับแสง, ไวต์บาลานซ์, ป้องกันการกระพริบ, ISO