Meizu Pro 7 Plus สมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ที่มีจุดเด่นในการออกแบบให้มีหน้าจออยู่ 2 ฝั่ง (ด้านหน้าและด้านหลัง) โดยหน้าจอหลักทางด้านหน้าจะเป็นแบบ Super AMOLED มีขนาด 5.7 นิ้ว ส่วนหน้าจอด้านหลังที่ทาง Meizu เรียกว่า Fenetre จะใช้เป็นจอ AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ส่วนด้านการถ่ายภาพ จะมาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล ใช้เลนส์ Sony IMX386 สามารถใช้ควบคู่กับหน้าจอด้านหลัง เพื่อเปิดประสบการณ์เซลฟี่รูปแบบใหม่ ทั้งนี้ Meizu Pro 7 จะมีวางขาย 2 รุ่นนั้นก็คือ Meizu Pro 7 ธรรมดาและ Meizu Pro 7 Plus แต่ที่เรานำมารีวิวจะเป็นรุ่น Meizu Pro 7 Plus
ตัวเครื่อง Meizu Pro 7 Plus มีรูปปทรงเป็นแบบ Unibody และมีขั้นตอนการผลิตอย่างปราณีต ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีการทุบขึ้นรูประดับไมครอน โดยมีสัดส่วน 157.34x77.24x7.3 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม 170 กรัม
หน้าจอแสดงผลหลักทางด้านหน้า จะใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED มีขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560X1440 พิกเซล มีขั้นตอนการผลิตด้วยเทคโนโลยี On-Cell
ขยับมาด้านบนหน้าจอจะมีลำโพงไว้สำหรับการสนทนาอยู่ตรงกลาง และมีตัวรับสัญญาณอยู่ข้างๆ ส่วนกล้องหน้าจะอยู่เยื้องมาทางขวา โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มโฮมอยู่ตรงกลาง หรือทาง Meizu เรียกว่าปุ่ม mTouch ซึ่งปุ่มนี้จะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้อีกด้วย
ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับซิมคู่แบบ Dual Standby
** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **
ด้านขาวของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มและลดเสียงอยู่ด้านบน และถัดมาข้างล่างมีปุ่มเพาเวอร์ สำหรับพักหนักจอหรือเปิดปิดเครื่อง
ในส่วนล่างของตัวเครื่องจะมีลำโพงเสียงอยู่ทางซ้าย ตรงกลางเป็นช่องเสียบสาย USB ประเภท C ถัดมาทางขวามีรูไมโครโฟนเล็กๆ อยู่ ส่วนขวาสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ข้างบนตัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนอย่างเดียวเท่านั้น
ด้านหลังถือว่าเป็นจุดขายของ Meizu Pro 7 Plus ซึ่งจะมีหน้าจอแสดงผลขนาดเล็กแบบ AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ความละเอียด 240 x 536 พิกเซล อยู่ทางซ้าย ถัดมาข้างบนหน้าจอมีกล้องคู่ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และไฟแฟลช
อุปกรณ์ภายในกล่อง
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Meizu Pro 7 Plus เมื่อถือใช้งานในมือของผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Meizu Pro 7 Plus กับไม้บรรทัด
สเปคทั้งหมดของ Meizu Pro 7 Plus
หน้าจอหลัก / หน้าแอพพลิเคชั่น
ด้วยการที่ Meizu Pro 7 Plus จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat และมีการปรับแต่งด้วย Flyme UI เวอร์ชั่น 6 ทำให้หน้าตามีความเป็นเอกลักษณ์ของค่าย และจะมีส่วนเสริมและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
แถบการแจ้งเตือน / แถบเครื่องมือด่วน
ออกาไนเซอร์พื้นฐาน
หน้าโทรศัพท์ / ข้อความ / คีย์บอร์ด
การเปลี่ยนธีม และภาพพื้นหลัง
สามารถเข้าไปเปลี่ยนธีมและรูปพื้นหลังได้ทันทีจากแอพพลิเคชั่น ธีม ซึ่งเป็นแอพฯที่มาพร้อมกับตัวเครื่องจากโรงงาน และที่สำคัญสามารถดาวน์โหลดไปใช้แบบฟรีๆ อีกด้วย
ดาวน์โหลด Play Store
เนื่องจาก Meizu Pro 7 Plus เป็นระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ทำงานด้วย Flyme ทำให้การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต้องผ่านทาง App Store ที่ทาง Meizu มีมาให้เท่านั้น ซึ่งบางแอพพลิเคชั่นจะไม่มีให้ดาวน์โหลด หากต้องการใช้งาน Play Store ของทาง Google ต้องดาวน์โหลด Google Play Services และ Play Store มาเพิ่มเติมตามลำดับ
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
สมาร์ทโฟน 2 หน้าจอ
ความพิเศษของ Meizu Pro 7 Plus คือเป็นสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ มาพร้อม 2 หน้าจอ โดยอีกหน้าจอจะอยู่ทางด้านหลังตัวเครื่องเป็นแบบหน้าจอสัมผัส ซึ่งทาง Meizu เรียกหน้าจอนี้ว่า Fenetre โดยปกติหน้าจอจะมีฟีเจอร์แสดงผลของวันเวลา และเมื่อเลื่อนหน้าจอไปทางขวา จะมีบอกจำนวนก้าวที่เดิน รวมถึงสภาพอากาศในการเลื่อนครั้งถัดไป แต่เมื่อเครื่องเกิดมีสายเรียกเข้า, การแจ้งเตือนต่างๆ และสถานะของเครื่องจะแสดงผลมายังหน้าจอนี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดสามารถไปตั้งค่าในหน้า ตั้งค่า > Secondary display
หน่วยประมวลผล Mediatek Helio X30
Meizu Pro 7 Plus จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล Mediatek Helio X30 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวแรงไว้ใช้กับสมาร์ทโฟน High End และที่สำคัญจะเป็นแบบ Deca-Core หรือ 10 Core นั้นเอง ทำให้การใช้งานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น แทบไม่มีอาการค้างให้เห็นเลย แถมยังใช้พลังงานเท่ากับ Helio X25 แต่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เร็วขึ้น
ปุ่ม mTouch / สแกนลายนิ้วมือ
สำหรับปุ่ม mTouch จะอยู่ตรงข้างล่างของหน้าจอ มีลักษณะเหมือนปุ่มโฮม แต่ที่จริงมีการใช้งานที่มากกว่านั้น โดยปุ่มนี้จะเป็นเหมือนปุ่มนำทางได้ด้วย เมื่อกดลงไป 1 ครั้ง จะเป็นการกลับมาสู่หน้าจอหลัก แต่หากสัมผัสลงเบาๆ จะเป็นการย้อนกลับ นอกจากนี้ยังสามารถเป็นที่สแกนลายนิ้วมือ เพื่อปลดดล็อกตัวเครื่องอีกด้วย แต่ก่อนจะสแกนลายนิ้วมือต้องกดปุ่มเพาเวอร์ เพื่อปลุกหน้าจอให้ติดก่อนทำการสแกน
ทดสอบการเล่นเกม
แน่นอนว่าการเล่นเกมสามารถเล่นได้อย่างราบรื่น เนื่องจากมีหน่วยประมวลผล Mediatek Helio X30 ที่เป็น CPU แบบ 10 แกน และมี RAM สูงถึง 6GB ดูได้จากการทดสอบการเล่นเกม Rules of Survival และ ROV ที่เล่นได้อย่างไหลลื่น และทำเฟรมเรทได้เฉลี่ย 30fps
โหมดใหญ่พิเศษง่ายต่อการใช้งาน
ในโหมดนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนหน้าจอหลักให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเป็นการเพิ่มขนาดของตัวอักษรและขนาดของไอคอนให้ใหญ่ขึ้น สามารถไปเริ่มการใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > โหมดใหญ่พิเศษง่ายต่อการใช้งาน
แอพฯ ระบบรักษาความปลอดภัย
แม้ว่าตัวแอพพลิเคชั่นจะมีชื่อว่า ระบบรักษาความปลอดภัย แต่เมื่อเข้ามาสู่ด้านในปรากฏว่ามีการใช้งานด้านอื่นรวมอยู่ด้วย ทั้งปรับความเหมาะสมให้ตัวเครื่อง, ตัวทำความสะอาด, ข้อมูลเครือข่าย, การบล็อกการก่อกวน, การอนุญาติ, จัดการแบตเตอรี่ และป้องกันไวรัส เรียกได้ว่าเป็นการดูแลตัวเครื่องในภาพรวมทั้งหมดก็ว่าได้
กล่องเครื่องมือ
หากในชีวิตจริงมีมีดพับเพื่อใช้อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ในสมาร์ทโฟน Meizu Pro 7 Plus ก็มีแอพพลิเคชั่น กล่องเครื่องมือไว้ช่วยอำนวยความสะดวกให้อีกทาง โดยมีตัวเลือกให้ใช้งานถึง 8 อย่างทั้ง ไฟฉาย, กระจก, เข็มทิศ, ระดับ, ไม้บรรทัด, แว่นขยาย, สุ่ม และวัดระดับเดซิเบล
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
ด้านประสิทธิภาพการใช้งานกล้อง ถือว่า Meizu Pro 7 Plus ทำออกมาได้ดีทีเดียว ด้วยการมาของกล้องหลังคู่ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX386 ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 สามารถถ่ายรูปโหมดพื้นหลังเบลอได้สบายๆ และสามารถถ่ายวิดีโอได้ในความละเอียดสูงสุด 4K ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 แต่ดูเหมือนทาง Meizu จะไม่ค่อยเน้นให้เซลฟี่จากกล้องหน้า เพราะมีหน้าจอ Fenetre ที่อยู่ทางด้านหลัง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเซลฟี่ได้จากกล้องหลังได้ทันที
เซลฟี่จากหน้าจอ Fenetre
หน้าจอ Fenetre ไม่ได้มีไว้ใช้งานเฉพาะการแสงการแจ้งเตือน หรือบอกสภาพอากาศเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อใช้งานกล้องจะมีตัวเลือกให้เปิดใช้งานหน้าจอ Fenetre เพื่อทำการเซลฟี่จากกล้องหลัง ทำให้การเซลฟี่จะได้ใช้ลูกเล่นต่างๆ รวมถึงความละเอียดจากกล้องหลังแบบเต็มๆ หรือจะเริ่มใช้งานด้วยการรูดหน้าจอขึ้นหรือลง จะเป็นการเริ่มใช้งานเซลฟี่จากหน้าจอ Fenetre ทันที พร้อมมีโหมดให้ปรับ 3 โหมด เบลอ, บิวตี้ และต้นฉบับ
โหมดหน้าชัดหลังเบลอ
โหมดหน้าชัดหลังเบลอ จะสามารถใช้ได้จากกล้องหลังเพียงเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้เซลฟี่ก็ได้ โดยใช้จากหน้าจอ Fenetre ทางด้านหลังในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอสไตล์เซลฟี่
โหมดตกแต่งภาพ
ในส่วนของโหมดตกแต่งภาพจะมีให้เลือก 2 แบบ โดยอย่างแรกเป็นการตกแต่งภาพแบบภาพรวม จะมีให้เลือกตกแต่งถึง 5 ระดับ ในส่วนที่ 2 จะเป็นการตกแต่งภาพแบบขั้นสูง และมีแยกให้ตกแต่ง ดวงตา, คาง, ลบริ้วรอย และความขาว ทั้งหมดจะมีให้เลือกระดับจาก 0 ไปถึง 10
ตกแต่งภาพและปรับขนาดของไฟล์ภาพ ในภายหลัง
หากรู้สึกว่าภาพที่ถ่ายออกมายังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ Meizu Pro 7 Plus ก็มีตัวเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถมาปรับภาพที่ถ่ายไปแล้วในภายหลัง โดยเข้าไปที่ แกลเลอรี่ > เลือกรูปที่ต้องการ > กดแก้ไขตรงแถบเมนูด้านล่าง ซึ่งจะมีให้เลือกแก้ไขถึง 18 แบบ และหากต้องการปรับขนาดของภาพ ให้เลือกรูปที่ต้องการ > เพิ่มเติม > รายละเอียดของภาพ
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการถ่ายวิดีโอ
Meizu Pro 7 Plus วางจำหน่ายแล้วในราคา 18,990 บาท สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ CSC ทั้ง 75 สาขาทั่วประเทศ
ขอขอบคุณ : เหม่ยซู เทคโนโลยี
ข้อมูลผู้ใช้ ร่วมแสดงความเห็นกับ : Meizu Pro 7 Plus
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=455155
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : http://www.siamphone.com/spec/meizu/pro_7_plus.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท