รีวิว Nokia 6 สมาร์ทโฟนสุดคุ้ม จอใหญ่ แถมได้รับการอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo

โดย ปิตุภูมิ นันทวิทยา โดย ณภัทร วัฒนธรรม

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Nokia 6 - โนเกีย

ถือว่า Nokia 6 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีความคุ้มค่าพอสมควร ทั้งเรื่องการออกแบบ, สเปค และการใช้งานทั้งหมด ทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว แถมยังเป็นระบบปฏิบัติการ Pure Android พร้อมรองรับการอัปเดตอยู่ตลอดเวลาอย่างน้อย 2 ปี ล่าสุดก็ได้รับการอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo ไปกันแล้ว ซึ่งมาดูกันดีกว่า Nokia 6 หลังได้รับอัปเดต การใช้งานต่างๆ รวมถึงหน้าตาอินเตอร์เฟสจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่องของ Nokia 6 จะมีการออกแบบสไตล์ Unibody และใช้วัสดุในการผลิตเป็น อะลูมิเนียม ชิ้นเดียว ทำให้มีความทนทานมากยิ่งขึ้น ด้านขนาดตัวเครื่องมีสัดส่วน 148.8 x 75.8 x 8.6 มิลลิเมตร (รวมกล้อง) น้ำหนัก 167 กรัม

หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 16:9 มีการป้องกันด้วยกระจกแก้ว Gorilla Glass 3

ด้านบนหน้าจอ มีลำโพงเสียงไว้สำหรับการสนทนาและเป็นลำโพงเสียงเพลงเพื่อความบันเทิงได้ด้วย ถัดมาทางขวาเป็นกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ขวาสุดเป็นมีโลโก้ Nokia อยู่

ข้างล่างหน้าจอ มีปุ่มนำทาง 3 ปุ่ม ไล่มาตั้งแต่ทางซ้ายเป็นปุ่มย้อนกลับ ต่อมาเป็นปุ่ม Home และปุ่มขวาสุดเป็น Recent App ในขณะที่ปุ่ม Home สามารถเป็นที่สแกนลายนิ้วมือได้ด้วย

ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบ Hybrid สามารถใส่ได้ 2 ซิม และ MicroSD การ์ด สูงสุด 128GB แต่ต้องเลือกว่าจะใส่ 1 ซิมกับ MicroSD หรือ 2 ซิมไปเลยพร้อมกัน

** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

ฝั่งขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มลดและเพิ่มเสียงอยู่ข้างบน ขยับมาข้างล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์ สำหรับปิดและเปิดเครื่องหรือพักหน้าจอ

ส่วนล่างของตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงอยู่ขวาสุด มาตรงกลางเป็นช่องเสียบสาย Micro USB เพื่อชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล ถัดมาทางซ้ายเป็นรูไมโครโฟน

ส่วนบนของตัวเครื่องมีเพียง รูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรอยู่ทางซ้ายอย่างเดียวเท่านั้น

มากันที่ด้านหลัง มีรูตัดสัญญาณรบกวนอยู่ข้างบนตรงกลาง ถัดมาข้างล่างเป็นกล้องหลังเลนส์ออฟติก ZEISS ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และมีไฟแฟลชแบบ Dual LED อยู่ข้างล่างกล้อง และสุดท้ายเป็นโลโก้ Nokia อยู่ตรงกลางด้านหลัง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Nokia 6
อะแดปเตอร์
สาย Micro USB
หูฟัง In-ear แบบ 3.5 มิลลิเมตร
เข็มนำภาดซิมออก
คู่มือแนะนำการใช้งาน
ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และความปลอดภัย

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Nokia 6 เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Nokia 6 กับไม้บรรทัด

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ Nokia 6

ขนาดตัวเครื่อง : 148.8 x 75.8 x 8.6 มิลลิเมตร (รวมกล้อง)
น้ำหนัก : 167 กรัม
ระบบปฏิบัติการ : Android 7.1.1 Nougat จากกล่อง แต่สามารถอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo
หน้าจอ : IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ครอบทับ Gorilla Glass 3
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 430, Octa-core
หน่วยประมวลผลกราฟฟิก : Adreno 505
RAM : 3GB
ROM : 32GB eMMC 5.1 รองรับ MicroSD การ์ด สูงสุด 128GB
เครือข่ายและการเชื่อมต่อ
- ความเร็วเครือข่าย LTE Cat. 4, 150Mbps DL/50Mbps UL
- WiFi 802.11 a/b/g/n
- GPS/AGPS+GLONASS+BDS+FM/RDS, NFC
- Bluetooth 5.0
- Micro USB
กล้องหลัง : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ไฟแฟลช Dual LED
กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
ถาดใส่ซิมการ์ดประเภท Hybrid
ลำโพงคู่
แบตเตอรี่ : 3000mAh

ระบบปฏิบัติการ

แม้ว่า Nokia 6 จะมีการวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2017 แต่ก็ยังได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดก็ได้รับการอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo เป็นที่เรียบร้อย และที่สำคัญเป็นแบบ Pure Android ทำให้ไม่มีแอพฯ เสริมจากโรงงานติดมาด้วย ทำให้การใช้งานพื้นฐานทั้งหมดเป็นแบบต้นฉบับจาก Google

หน้าหลัก / หน้าแอพพลิเคชั่น

การเปลี่ยน Wallpaper

ออกาไนเซอร์พื้นฐาน

หน้าโทรศัพท์ / ข้อความ / คีย์บอร์ด

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark 7.0.5 ได้ 59,394 คะแนน
ผลทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Geekbench ได้ Single-Core 692 คะแนน และ Multi-Core 2,920 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Sling Shot Extreme ได้ 305 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor ตรวจวัดความเอียง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ระบบปฏิบัติการแบบ Pure Android

สำหรับสมาร์ทโฟน Nokia 6 ที่เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Pure Android ทำให้ไม่มีฟีเจอร์อะไรที่หลากหลายมากนัก แต่ด้วยจุดเด่นของพวกเขาที่ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับได้ใช้งานฟีเจอร์หลักของระบบปฏิบัติการ ล่าสุดก็ได้รับการอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo ทำให้ฟีเจอร์อย่าง Picture In Picture, Notification dots, อีโมจิหน้าตาใหม่ๆ และการแปลภาษาแบบทันที ก็จะได้ใช้งานทั้งหมด

การใช้งานทั่วไป

Nokia 6 มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 7,990 บาท หากมองถึงราคาเพียงเท่านี้ก็อาจจะฝากความหวังอะไรกับการใช้งานไม่ได้มาก แต่เอาเข้าจริงๆ การใช้งานกลับไหลลื่นมาก และหลังจากอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo การใช้งานพื้นฐานต่างๆ ก็มีความไหลลื่นมากขึ้นแบบเห็นได้ชัด

การเล่นเกม

จากการทดสอบเกม ROV ปรากฏว่าสามารถเล่นได้อย่างสบายๆ แม้ว่าจะโหลดเข้าเกมในส่วนต่างๆ ช้าไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีอาการหน่วงมากจนเกิดความรำคาญ และในช่วงเล่นก็สามารถทำเฟรมเรตได้ราวๆ 28-30fps เรียกได้บวกกันแบบลื่นๆ ไปเลย

สแกนลายนิ้วมือ

ปุ่มสแกนลายนิ้วมือของ Nokia 6 จะอยู่ตรงปุ่ม Home ซึ่งสามารถสแกนลายนิ้วมือเข้าใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปลุกของเสียก่อน แต่จากทดลองใช้ยังทำงานได้ช้าพอสมควร และต้องเช็ดนิ้วมือก่อนจะทำการสแกน หากกรณีนิ้วมือเปียกอยู่

ลำโพงคู่ พร้อมพลังเสียง Dolby รอบทิศทาง

ในด้านความบันเทิง Nokia 6 ก็ไม่น้อยหน้า เนื่องจากมาพร้อมลำโพงคู่ทำให้เสียงที่ดังกระฮึ่ม และยังเป็นระบบเสียง Dolby รอบทิศทางตอบโจทย์คนที่ต้องการรับอรรถรสในการฟังเพลงเสียงมากยิ่งขึ้น

การใช้งานกล้องถ่ายรูป

ความพิเศษของกล้องจาก Nokia คือจะมาพร้อมเลนส์ออฟติก ZEISS ซึ่ง Nokia 6 กล้องหลังก็มาพร้อมเลนส์นี้เช่นกัน และมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พ่วงด้วยไปแฟลชแบบ Dual LED เพิ่มประสิทธิภาพในยามแสงน้อย ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

โหมดปรับหน้าเนียน

แม้ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการแบบ Pure Android แต่การใช้งานกล้องก็มีโหมด หน้าเนียน มาให้ด้วย ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สามารถเลือกปรับระดับความเนียนได้ตามต้องการ

จับภาพขณะบันทึกวิดีโอ

ในขณะที่บันทึกวิดีโอ ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะจับภาพนิ่งในช่วงเวลาไหนใดก็ได้ ซึ่งสามารถกดปุ่มกลมๆ 2 วงซ้อนกันระหว่างบันทึกวิดีโอ

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหลัง : 4608x3456, 3200x2400, 2592x1944 พิกเซล (4:3), 4608x2592, 2688x1512, 1920x1080 พิกเซล (16:9)
ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหน้า : 3264x2448, 2592x1944, 2048x1536 พิกเซล (4:3), 3264x1836, 2688x1512, 1280x720 พิกเซล (16:9)
ซูมดิจิตอล : ไม่ระบุว่ากี่เท่า
ตั้งเวลาชัตเตอร์ : ปิด, 3 วินาที, 10 วินาที
HDR : ปิด, อัตโนมัติ, เปิด
ไฟแฟลช : ปิด, อัตโนมัติ, เปิด
การควบคุมชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
เส้นแนว : ปิด, เปิด
ลายน้ำ : ปิด, เปิด
ภาพแบบมิเรอร์จากกล้องด้านหน้า : ปิด, เปิด
แท็กที่ตั้งภูมิศาสตร์ : ปิด, เปิด
การเก็บข้อมูล : บันทึกลงหน่วยความจำเครื่อง, บันทึกลง Micro SD การ์ด
โหมดต่างๆ : ภาพถ่าย, พาโนรามา, ปรับหน้าเนียน, ปรับเอง