Huawei P20 Pro สมาร์ทโฟนตระกูล P ยกระดับปรับโฉมใหม่หมด ทั้งดีไซน์ตัวเครื่อง มาพร้อมสีใหม่แบบไล่เฉด ออกมาเป็นสีที่ไม่เหมือนใครอย่างสี Twilight ทำงานบนจอขนาดใหญ่ 6.1 นิ้ว อัตราส่วน 18.7:9 ชูจุดเด่นด้วยกล้องถ่ายรูปด้านหลังเลนส์ Leica 3 ตัว ทำงานร่วมกับ AI และกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปบุคคลแบบมืออาชีพ ทั้งยังทำงานต่อเนื่องได้ทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
Huawei P20 Pro มาพร้อมดีไซน์โค้งมน ทำให้จับหรือถือได้สบายรับกับฝามือ แต่ผิวสัมผัสจะมีความลื่นมาก อาจต้องระวัง หรือใส่เคสเพื่อช่วยจับได้ไม่ลื่นมือจนเกินไป นอกจากนี้ ตัวเครื่องทำจากโลหะที่มีความแข็งแรงทนทาน ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 155 × 73.9 × 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 180 กรัม
หน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่เรียกว่า Notch หรือมีรอยบากที่ด้านบน เต็มตาด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.1 นิ้ว คมชัด สีสันสดใสเนื่องจากใช้จอเทคโนโลยี OLED อัตราส่วน 18.7:9 ความละเอียด FHD+ (2240x1080 พิกเซล)
เหนือหน้าจอด้านบนจะมีพื้นที่เหลือเพียงเล็กน้อย สำหรับวางลำโพงเสียง ระบบเซ็นเซอร์ และเลนส์กล้องถ่ายรูปด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
ด้านล่างมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือแบบวงรีในแนวนอน นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นปุ่มควบคุมการทำงานได้อีกด้วย
ด้านบนตัวเครื่อง จะมีช่องอินฟราเรดและรูไมโครโฟนตัวที่ 2 แถมมีเส้นสัญญาณคาดอยู่ 2 เส้น
ตัวเครื่องด้านล่างรูไมโครโฟนอยู่ทางซ้ายของพอร์ต USB Type C ที่เอาไว้ชาร์จแบตตเอรี่ และซิงค์ข้อมูล ส่วนทางด้านขวาเป็นช่องลำโพงเสียง
ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM จะอยู่ทางด้านซ้ายของเครื่อง ซึ่งจะต้องใช้อุปกรณ์ในการเปิดถาดซิม สำหรับ Huawei P20 Pro จะมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD
ปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง จะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง
ตัวเครื่องด้านหลังมีขอบโค้งรับกับขอบด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมกับสีแบบไล่ระดับสำหรับสี Twilight และ Pink Gold โดยมีเลนส์กล้องถ่ายรูปด้านหลังถึง 3 ตัว และมีไฟแฟลช LED อยู่ถัดลงมา รวมไปถึงโลโก้และข้อมูลของตัวเครื่องก็จะจัดวางไว้ในแนวตั้งเช่นกัน
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Huawei P20 Pro เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)
ข้อมูลสเปก Huawei P20 Pro
หน่วยความจำภายใน / ระบบปฎิบัติการ
Huawei P20 Pro ที่วางจำหน่ายในไทยมีหน่วยความจำภายในตัวเครื่องให้เลือกเพียงความจุเดียวคือ 128GB ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD ทั้งยังเป็นตัวแรกที่รันบนระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ 8.1 (Oreo) ครอบทับ EMUI 8.1 รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบให้ไอคอนมีความโค้งมน สีสันสดใส
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ดีไซน์และสีใหม่
เรียกว่า Huawei P20 Pro มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งเรื่องตัวเครื่องและสเปก หากพูดถึงเรื่องดีไซน์ภายนอกมีการออกแบบให้เครื่องมีความโค้งมน ทำให้จับถือได้สบายมือ นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของสีสันใหม่ในสไตล์ Gradient Design หรือการไล่เฉดสีด้วยการซ้อนกันของกระจก ทำให้ได้สีที่แตกต่างและไม่เหมือนใครอย่างสี Twilight และ Pink Gold ซึ่งจะเห็นว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม
หน้าจอกว้างขึ้น
หน้าจอที่กว้างขึ้นของ Huawei P20 Pro ด้วย HUAWEI FullView Display ที่มีขนาด 6.1 นิ้ว อัตราส่วน 18.7:9 ทั้งยัง ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล OLED ทำให้การรับชมคอนเทนต์ และภาพต่างๆ กว้างขึ้น สีสันสดใสและคมชัด รวมไปถึงการมีหน้าจอที่กว้างและยาวขึ้น ทำให้สามารถแสดงแอพพลิเคชั่นได้ถึง 7 แถว รวมแอพฯ หลักที่ด้านล่างหน้าจอ ซึ่งการรับชมคอนเทนต์ทำได้เต็มจอ แต่ยังมีขอบข้างซ้าย-ขวาเหลืออยู่เล็กน้อย
หน้าจอมีรอยบาก (Notch)
หน้าจอแสดงผล Notch หรือมีรอยบากที่ด้านบน ต้องยอมรับว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ ซึ่งผู้ใช้เองมีทั้งชอบและไม่ชอบ แต่สำหรับ Huawei P20 Pro เรียกว่าทำมาตอบโจทย์การใช้งานทั้ง 2 แบบ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบจอบากก็เลือกปิดได้ โดยเข้าไปที่ตั้งค่า > การตั้งค่าการแสดงผล > ร่องรอย (Notch) > แล้วเลือกเปิด หรือซ่อนได้ เมื่อซ่อนแถบด้านบนหน้าจอที่เป็นรอยบากก็จะหายไป เหมือนสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปทันที
สแกนลายนิ้วมือ
ปุ่มสแกนลายนิ้วมือยังออกแบบไว้ที่ด้านหน้าตัวเครื่อง สะดวกในการใช้งานสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อคตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาที นอกจากนี้ ยังใช้เป็นปุ่มควบคุมได้อีกด้วย
ปลดล็อคด้วยใบหน้า
สำหรับความปลอดภัยในการปลดล็อคตัวเครื่องของ Huawei P20 Pro ทำได้หลายอย่าง ทั้งสแกนนิ้ว รหัสผ่าน รวมถึงการปลดล็อคด้วยใบหน้าที่เมื่อตั้งค่าแล้วสามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว เมื่อกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องแล้วมองไปที่เซ็นเซอร์หน้าจอเพียงไม่กี่วินาที
Multi Window
สำหรับการใช้งาน 2 หน้าจอบน Huawei P20 Pro ก็ทำได้ และด้วยหน้าจอที่กว้างขึ้น ทำให้การใช้งานแบ่ง 2 จอดูกว้าง สบายตาขึ้น สำหรับการใช้งาน 2 หน้าจอทำได้โดยการกดที่ปุ่มแอพฯ ก่อนหน้า จากนั้นแอพฯ ไหนที่ใช้งานได้ที่แถบด้านบนจะมีสี่เหลี่ยมซ้อนกัน 2 อัน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับขนาดได้ตามที่ต้องการ
กันน้ำ-กันฝุ่น
คุณสมบัติกันน้ำ-กันฝุ่นเรียกว่าต้องมี สำหรับ Huawei P20 Pro ก็สามารถกันน้ำได้ที่มาตรฐาน IP67 หรือกันได้ลึก 1 เมตร นาน 30 นาที เป็นระบบที่ทำมาเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดนน้ำโดนแบบไม่ตั้งใจ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าโทรศัพท์จะพังหากโดนน้ำเพียงนิดเดียว
ทดสอบการเล่นเกม
สำหรับหน่วยประมวลผลที่ใช้บน Huawei P20 Pro ก็เป็นชิปเซ็ตตัวเดียวกันกับรุ่นพี่ด้วยหน่วยประมวลผล Huawei Kirin 970 CPU octa-core ความเร็ว 2.36 GHz, RAM 6GB เรื่องการประมวลผลไม่ต้องห่วง รวมถึงการเล่นเกมก็ไหลลื่นดี อย่างเกม ROV ปรับเฟรมเรตสูง ขณะที่เล่นเฟรมเรตอยู่ที่ประมาณ 48-54fps เล่นได้เรื่อยๆ ไม่กระตุก
แบตเตอรี่ 4000 mAh มีระชาร์จเร็ว
Huawei P20 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ถึง 4000mAh สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ซึ่งเคยปล่อยไว้ไม่ใช้งานก็อยู่มาได้ถึง 2 วัน โดยที่แบตฯ ลดลงไม่ถึงครึ่ง นอกจากนี้ ยังมีระบบ SuperCharge ที่มีความปลอดภัยสูง โดยต้องใช้อุปกรณ์ของ Huawei เท่านั้น
กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปบน Huawei P20 Pro เรียกว่าเป็นจุดเด่นที่สร้างความฮือฮาได้เป็นอย่างมาก โดยที่กล้องหลังเป็นเลนส์ Leica ถึง 3 ตัว ยังมาพร้อม Pixel Size ขนาด 2µm ช่วยให้รูปที่ถ่ายออกมามีสีสันคมชัด รูปที่ได้สว่าง นอกจากนี้ กล้องหน้าก็ให้มาเยอะถึง 24 ล้านพิกเซล ยังคงมีโหมดถ่ายหน้าสวยแบบเลือกปรับหน้าชัด-หลังเบลอได้ นอกจากนี้ ยังเพิ่ม 3D Portrait Lighting เข้ามาในกล้องหน้าอีกด้วย
ฟังก์ชั่นกล้องถ่ายรูป
หน้า UI ของกล้องถ่ายรูปบน Huawei P20 Pro มีการปรับเปลี่ยนเมนูในโหมดกล้องต่างๆ มาไว้ที่ด้านล่าง เลือกใช้งานโดยการปัดไปมา โดยโหมดเริ่มต้นที่มากับกล้องจะมีโหมด รูรับแสง, ภาพบุคคล, รูปภาพ, วิดีโอ, Pro และเพิ่มเติม
*** ความละเอียดกล้องหลังตั้งค่าเริ่มต้นมาที่ 10 ล้านพิกเซล (3648x2736) สามารถปรับเป็น 40 ล้านพิกเซล (7296x5472) ได้ แต่หากต้องการใช้งานซูม 3X, 5X จะต้องเลือกใช้ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลเท่านั้น
กล้องหลังเลนส์ Leica 3 ตัว
เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมเลนส์กล้องถ่ายรูปด้านหลังถึง 3 ตัว แถมเป็นเลนส์ Leica ทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น
กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล
Huawei P20 Pro ถือว่าเป็นรุ่นแรกในค่ายที่มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูงที่สุดถึง 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 มีโหมดถ่ายภาพบุคคล หน้าสวย ปรับระยะชัดลึก-ชัดตื้นได้ โดดเด่นด้วยโหมด 3D Portrait Lighting ถ่ายภาพบุคคลแล้วยังสามารถเลือกสภาพแสง ปรับมุมที่แสงตกได้
Hybrid Zoom 5 เท่า
อีกหนึ่งความสามารถของเลนส์ Leica รองรับการซูมแบบไฮบริดได้ถึง 5 เท่า แบบไม่สูญเสียรายละเอียด โดยจะต้องปรับกล้องให้เลือกใช้ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลถึงใช้งานได้ สำหรับภาพที่ได้จากการซูมก็มีความคมชัด รายละเอียดต่างๆ ไม่ผิดเพี้ยน ถือว่าทำได้ดี
รูปตัวอย่าง ZOOM 1x, 3x และ 5x
ระบบลดการสั่นไหวด้วย Huawei AIS (AI Image Stabilization)
Huawei ได้นำเทคโนโลยีลดการสั่นไหวของตัวเองเข้ามาใช้ ที่มีชื่อเรียกว่า Huawei AIS เป็นการทำงานร่วมกับ AI ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง เมื่อเราเลือกโหมดกลางคืน สามารถถ่ายได้ด้วยมือโดยที่สปีดชัตเตอร์จะทำงานช้าลงโดยอัตโนมัติ 4 วินาที
Master AI
เป็นการทำงานในโหมดกล้องถ่ายรูปที่สามารถระบุสิ่งที่กำลังจะถ่ายได้ทั้งหมด 19 หมวด ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว ดอกไม้ อาหาร เวที ดอกไม้ไฟ หิมะ น้ำตก เป็น ทำให้รูปที่ถ่ายได้สีสันตามหมวดหมู่ที่ปรับได้ แต่ยังมีบางหมวดที่ยังแยกไม่ชัดเจน AI จะระบุไป-มาสลับกันอยู่บ้าง
โหมดกล้องถ่ายรูปที่น่าสนใจ
3D Portrait Lighting
โหมดถ่ายรูปบุคคลที่จำลองใบหน้าแบบ 3 มิติ ทำงานร่วมกับ AI สร้างความสมดุลของใบหน้าให้การถ่ายเซลฟี่ได้สวยงาม นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกแสง หรือเอฟเฟกต์ได้ เช่น แสงอ่อน แสงแบบผีเสื้อ หรือแสงเวที เป็นต้น เลือกมุมที่ต้องการให้แสงตกกระทบใบหน้า หรือต้องการให้มืด หรือสว่างที่ไหนก็ได้ เรียกว่าทำได้แบบมืออาชีพเลยทีเดียว
รูปตัวอย่างโหมด 3D Portrait Lighting ด้วยกล้องหน้า
รูปตัวอย่างโหมด 3D Portrait Lighting ด้วยกล้องหลัง
Aperture (รูรับแสง)
โหมดที่มีมาตั้งแต่รุ่นก่อน คือสามารถเลือกปรับค่ารูรับแสงให้รูปที่ถ่ายออกมาเบลอมาก หรือน้อย ตั้งแต่ f/0.95-f/16 นอกจากนี้ ยังเลือกจุดโฟกัส หรือปรับความเบลอได้ภายหลังอีกด้วย
ภาพถ่ายขาว-ดำ
ภาพถ่ายแบบขาว-ดำ เป็นจุดเด่นของกล้อง Leica ตั้งแต่ P9 ที่สามารถถ่ายขาวดำได้อย่างสวยงามและมีความชัดเจนของสี เรียกว่าขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ ไม่เหมือนกับการปรับแต่งบนแอพพลิเคชั่น เข้าถึงอารมณ์แบบมีศิลปะมากขึ้น
Night Shot โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
หนึ่งโหมดที่มีความพิเศษ ทำงานรวมกับ AI ใช้งานได้โดยไม่ต้องมีขาตั้งกล้อง แต่การใช้งานต้องอยู่ในระยะเวลาประมาณ 4-8 วินาทีเท่านั้น ภาพที่ได้ออกมามีความเข้มของสี และความคมชัดของวัตถุต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
Super SlowMotion 960 fps
Huawei P20 Pro รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Super SlowMotion 960 เฟรมต่อวินาที ได้ความละเอียดระดับ HD โดยที่เลือกช่วงเวลาสโลว์ได้เพียงช่วงเดียวเท่านั้น
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ
ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ Huawei P20 Pro
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=455610
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : http://www.siamphone.com/spec/huawei/p20_pro.htm
Xbox เปิดตัว Support Virtual Agent แชทบอท AI ช่วยเหลือผู้เล่นแล้ววั...
เคล็ดลับการเลือกอุปกรณ์เสริมฤดูหนาวสำหรับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน จาก B...
ทำความรู้จัก vivo Y19s หน้าจอ 90Hz กันน้ำ IP64 ลำโพงสเตอริโอ ราคาเร...
Goodie สแกนนิ้ว Ultrasonic ที่สมาร์ทโฟนเรือธงทยอยเลือกใช้งาน
Funtouch OS 15 ระบบปฏิบัติการอัปเกรดใหม่จาก vivo บน Android 15
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...