รีวิว Vivo V15 Pro พลิกโฉมกล้องหน้าดีไซน์ Pop-Up 32 ล้านพิกเซล จอกว้างคมชัด จัดเต็มกล้องหลัง AI Triple Camera

โดย Siamphone.com โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Vivo V15 Pro - วีโว่

Vivo V15 Pro สมาร์ทโฟนที่เข้ามาเปลี่ยนดีไซน์จอกว้างเต็มขอบไร้ติ่ง ด้วยการใส่กล้องถ่ายรูปด้านหน้าแบบ Pop-Up ขึ้นลง ใส่เทคโนโลยีสแกนนิ้วใต้หน้าจอที่เร็วเพียง 0.37 วินาที ทำให้ใช้งานได้แบบไร้ขีดจำกัด มาพร้อมการออกแบบที่ทันสมัย Spectrum Ripple Design ไล่เฉดสีอย่างโดดเด่น ให้เห็นในมุมมองแต่ละด้านต่างกัน นอกจากนี้ ยังจัดเต็มกล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera เพิ่มมุมกว้างครบทุกช๊อต และใช้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยระบบ Dual-Engine Fast Charging

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Vivo V15 Pro คราวนี้เรียกว่ามาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความโดดเด่นสวยงาม ตัวเครื่องจับถนัดมือกำลังดี ฝาหลังออกแบบสวยงามที่เรียกว่า Spectrum Ripple Design เป็นการใช้สีสันสดใส ผสานเข้ากัยลวดลายและการไล่สีที่จะเห็นต่างกันของแต่ละมุม โดยมีตัวเครื่องอยู่ที่ 157.25 × 74.71 × 8.21 มิลลิเมตร น้ำหนัก 185 กรัม

หน้าจอแสดงผลที่กว้างขึ้นแบบ Ultra Fullview Display ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2316x1080 พิกเซล ขอบด้านข้างหน้าจอเหลือเพียง 1.75 มม. ทำให้มีพื้นที่ใช้งานมากถึง 91.64 % ทั้งยัง แสดงผลคมชัดด้วยเทคโนโลยี Super AMOLED สีสัดสมจริงตามมาตรฐาน P3 อัตราส่วนความเปรียบต่างของสี 10,000,000:1 เรียกว่าได้สีจริงตามที่ตาเห็น

เหนือหน้าจอขึ้นไปจะมีแถบช่องลำโพงเสียงอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านล่างมีการซ่อนเซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอด้วยกระจก 3 เลนส์ รุ่นที่ 5 ทำให้ปลดล็อคได้รวดเร็ว แม่นยำ และปุ่มควบคุมการใช้งานจะอยู่ด้านในหน้าจอแบบซอร์ฟแวร์

สำหรับช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร ยังคงมีอยู่บน Vivo V15 Pro จัดวางไว้ด้านบนตัวเครื่อง นอกจากนี้ ยังมีรูไมโครโฟน และจะสังเกตเห็นรอยต่อระหว่างกล้องถ่ายรูปด้านหลัง จะเป็นกล้องหน้าแบบ Pop-Up ที่ซ่อนอยู่ด้านใน ซึ่งจะโผล่ขึ้นมาเฉพาะตอนใช้งานกล้องหน้า หรือเวลาใช้งานปลดล็อคใบหน้า

ตัวเครื่องด้านล่างมีช่องใส่ซิมแบบถาดซิม รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดชนิด Nano SIM ถัดไปทางขวาเป็นรูไมโครโฟน พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro USB และสุดท้ายมีช่องลำโพงเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีช่องสำหรับใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD ถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant หรือใช้งานผู้ช่วยอัฉริยะ Jovi

ปุ่มเเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง จะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง

ตัวเครื่องด้านหลังของสีน้ำเงิน Topaz Blue จะมีการไล่เฉดสีในแต่ละมุมที่มองจะเห็นต่างกัน ทั้งยังมีลวดลายเส้นเพิ่มความสวยขึ้นไปอีก ที่มุมซ้ายบนจะมีเลนส์กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ในแนวตั้ง โดยที่เลนส์หลัก AI Super Night Mode ใช้เซนเซอร์ Quad Pixel Sensor ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล อยู่ด้านล่างสุด ถัดมากล้องตัวที่สองตรงกลาง เป็นกล้อง AI Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และสุดท้ายด้านบนสุดเป็นกล้อง Bokeh & Shot Refocus ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และด้านล่างมีโลโก้ Vivo

อุปกรณ์ภายในกล่อง

สมาร์ทโฟน Vivo V15 Pro
อแดปเตอร์
สายชาร์จพอร์ต Micro USB
เคสพลาสติกแข็ง
เข็มจิ้มซิม
คู่มือการใช้งาน

สรุปสเปค Vivo V15 Pro

ขนาดตัวเครื่อง : 157.25 × 74.71 × 8.21 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 185 กรัม
หน้าจอแสดงผลแบบ Ultra Fullview Display เทคโนโลยี Super AMOLED กว้าง 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2316x1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9
หน่วยประมวลผล : Snapdragon 675 Octa Core ความเร็ว 2.0
RAM 6GB
ROM 128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB
ระบบปฎิบัติการ Funtouch OS 9 based on Android Pie 9.0
กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ 48 Million Quad Pixel Sensor (12Million Effictive Pixels) +8MP +5MP พร้อมไฟแฟลช LED รองรับ AI
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty
รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ซิม แบบ Hybrid, Dual SIM Dual Standby
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, Micro USB 2.0, OTG, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่ความจุ 3,700 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging

พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน

Vivo V15 Pro เครื่องที่วางขายในไทยจะมาพร้อมกับ RAM 6GB, ROM 128GB แต่ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD ได้สูงถึง 256GB เรียกว่าใช้งานไม่ต้องกลัวเครื่องเต็ม

ระบบปฏิบัติการ

Vivo V15 Pro รันบนระบบปฎิบัติการใหม่ Funtouch OS 9 based on Android Pie 9.0 ออกแบบให้ UI ทันสมัย ดูเรียบแต่มีอะไร นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจใส่มาให้ใช้ในเครื่อง เช่น

Jovi ผู้ช่วยอัฉริยะ ที่คราวนี้ออกแบบปุ่มใช้งานติดมากับตัวเครื่อง (Smart Button) โดยจะอยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งนอกจากนี้ ยังสามารถเรียกใช้งาน Google Assistant ได้ไปพร้อมกัน เพียงกดหนึ่งครั้ง สามารถถามทาง หาร้านอาหาร ถามเวลา โทรออก เป็นต้น หรือกด 2 ครั้งเรียกใช้งาน Jovi ในการหาสิ่งของ หรือวิเคราะห์กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงด้านหน้าว่าคืออะไร และยังเรียกใช้งานจากปุ่มในหน้าของฟังก์ชั่นกล้องถ่ายรูปได้ด้วย

Ultra-Smooth Gaming

Game Mode 5.0 ที่ถูกใส่มาใน Vivo V15 Pro สำหรับคนที่เล่นเกมน่าจะชอบ เพราะโหมดนี้จะช่วยให้เกมที่เล่นอยู่ไม่สะดุดแม้มีคนโทรเข้า หรือมีข้อความเข้ามา โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Game Cube สามารถเปิดและเลือกตั้งค่าได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ ระบบ Dual-Turbo จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่เล่นลื่นขึ้น เฟรมเลตไม่กระตก การันตีได้ว่าดีขึ้นกว่า 300%

Easy Touch

ปุ่มเรียกใช้งานทางลัด ซึ่งจะเป็นปุ่มกลมๆ แสดงบนหน้าจอ โดยที่สามารถตั้งค่าแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานเป็นประจำไว้ใช้งานสะดวก เรียกใช้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเข้าหน้าแอพพลิเคชั่น

หน้าจอหลัก

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.1.5 ได้ 180,419 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 2,393 และ Multi-Core ที่ 6,441 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Sling Shot Extreme (OpenGL) ได้ 1,086 คะแนน (Vulkan) ได้ 1,164 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

ดีไซน์

ครั้งนี้ตัวเครื่องเรียกว่ามาพร้อมกับความสวยงาม ด้วยดีไซน์ Spectrum Ripple Design เป็นการเลือกใช้สีที่มีความโดดเด่นอย่างสีน้ำเงิน Topaz Blue และยังมีเครื่องสีแดง Coral Red ที่เป็นการไล่เฉดและผสมกับลวดลายเส้นบนฝาหลัง จะให้สีที่ต่างกันของแต่ละมุม ถือว่ามีความสวยงามสมราคา เวลาถือจะโดดเด่นเป็นพิเศษ

หน้าจอ Ultra Fullview Display

หน้าจอแสดงผลสุดกว้างบน Vivo V15 Pro แบบ Ultra Fullview Display ได้มาเพราะการนำกล้องหน้าไปใส่ไว้ที่ด้านบนของเครื่อง หรือที่เรียกว่ากล้องหน้าแบบ Pop-Up นั่นเอง ทำให้ได้หน้าจอกว้าง 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 19.5:9 เรียกว่ามีพื้นที่ใช้งานเต็มขอบ ไร้ติ่งกว่า 91.64% ซึ่งจะสังเกตว่าขอบด้านข้างบางจริงๆ เพียง 1.75 มม. เท่านั้น

นอกจากหน้าจอที่มีขนาดใหญ่แล้ว ยังใช้เทคโนโลยี Super AMOLED ที่ให้สีสันสดใส สมจริง แถมยังเป็นรุ่นที่ใช้วัสดุในการกระจายแสงคุณภาพสูง E2 และยังแสดงสีสันตรงตามมาตรฐาน P3 100% ค่า Contrast Ratio อัตราส่วนความเปรียบต่างของสี 10,000,000:1 จะเห็นว่าสีของหน้าจอมีความสด ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเขียว หรือสีอะไรก็ตามที่แสดงบนหน้าจอมีความสมจริงตามที่ตามองเห็น ใช้งานต่างๆ เล่นเกมไม่ขัดสายตาเลยทีเดียว

ระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดที่ใส่มาในเครื่อง มีทั้งการปลดล็อกด้วยรหัส ใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่การนำสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอมาใช้ ทั้งยัง เป็นเทคโนโลยีใหม่ 5 Gen ที่ซ้อนกระจก 3 ชั้นไว้ที่เซนเซอร์ใต้หน้าจอ เมื่อทดลองใช้งาน สามารถปลดล็อกได้เร็วเพียงสัมผัส

นอกจากนี้ ยังมีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า ซึ่งจะทำงานร่วมกับกล้องหน้า Pop-Up สำหรับการใช้งานถือว่าเร็วสุดๆ โดยเลือกใช้งานได้ 2 แบบ เมื่อกดปุ่มเปิดเครื่องแล้วกล้องลไลด์ขึ้น หรือเมื่อปัดหน้าจอให้สว่างเพื่อใช้งานปลดล็อกด้วยใบหน้า

CPU Snapdragon 675AIE Octa-core

หน่วยประมวลผล Snapdragon 675AIE ถือใส่มาค่อยข้างสูง ผนวกกับ RAM 6GB, ROM 128GB สามารถเล่นเกมได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ROV, PUBG และอื่นๆ โดยปรับเฟรมเรทได้สูงสุดสบายๆ เล่นลื่นไม่กระตุก ส่วนเกมเล็กๆ ไม่ต้องพูดถึง เล่นได้แบบชัวร์ๆ และด้วยหน้าจอที่ใหญ่ไม่มีรอยบาก ทำให้การเล่นเกมมีมุมมองกว้างขึ้น เห็นคู่ต่อสู้ทุกมุม

Dual-Engine Fast Charging

เทคโนโลยีชาร์จเร็วของ Vivo V15 Pro สามารถใช้งานได้เร็วและปลอดภัย หากมีแบตเตอรี่เหลือน้อยๆ ก็ถือว่าใช้งานสะดวก เพียง 15 นาที แบตฯ เพิ่ม 24% แต่ในเรื่องของความจุแบตฯ 3700 mAh ถือว่าใช้งานได้ค่อยข้างนานไม่ต้องชาร์จบ่อย แต่ที่น่าเสียดายคือพอร์ตชาร์จยังเป็น Micro USB 2.0

กล้องถ่ายรูป

Vivo V15 Pro จัดเต็มมาทั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera เริ่มจากบนสุดเป็นเลนส์ Depth Camera (Bokeh Mode) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถัดลงมาตรงกลางเป็นเลนส์ AI Super Wide Angle Camera มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และสุดท้ายเป็นเลนส์ Quad Pixel Sensor ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล แต่สำหรับการรูปในโหมดต่างๆ จะใช้เพียง 12 ล้านพิกเซล ส่วนตัวเซนเซอร์ 48 ล้านพิกเซล ต้องเลือกเปิดก่อนใช้งาน ทั้งนี้ มีโหมกกล้องถ่ายรูปที่น่าสนใจให้ใช้งานหลากหลาย เช่น

โหมดเอฟเฟ็กต์ถ่ายภาพบุคคล

โหมดถ่ายภาพบุคคลโดยใช้เอฟเฟ็กต์เปิดใช้งานได้ที่รูปคนให้ขึ้นสีเหลือง จากนั้นจะมีแสงให้เลือกใช้งาน 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ จะเน้นการถ่ายรูปคนในแสงแบบต่างๆ ฉากหลังเบลอ ให้ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

โหมดภาพถ่ายบุคคล

โหมดนี้สามารถเปิดใช้งานได้ที่รูปรูรับแสงที่แถบเมนูด้านล่าง โดยวัตถุจะต้องอยู่ในระยะห่าง 2 เมตร และเลือกค่ารูรับแสง หรือความเบลอได้ก่อนถ่ายตั้งแต่ F0.95-F16 แต่ค่าเริ่มต้นที่เบลอกำลังดีจะอยู่ที่ F4.0 จะได้รูปถ่ายหน้าชัดหลังเบลด แต่สำหรับการเบลอขอบต่างๆ ยังตัดกันไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่

โหมดเลนส์ Wide Angle

เป็นกล้องอีกตัวที่ทาง Vivo ได้ใส่มาให้แบบครบครัน สามารถใช้ถ่ายภาพมุมกว้าง วิวทิวทัศน์ได้กว้าง 120 องศา เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน แต่โหมดนี้ก็ไม่สามารถใช้ความละเอียดที่ 48 ล้านพิกเซลได้ ซึ่งจากรูปที่ได้ค่อยข้างโค้งแบบสวยงาม สะดวกในการใช้งานโดยที่เราไม่ต้องขยับตัวออกมาจากจุดเดิม

ปิดเลนส์ Wide เปิดเลนส์ Wide

เปิดเลนส์ Wide

AI Super Night Mode

อีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจบน Vivo V15 Pro คือสามารถเก็บภาพกลางคืนได้ดีเยี่ยม โดยการมี AI เข้ามาช่วย ซึ่งขณะที่เราถ่ายภาพ ระบบจะเก็บภาพหลายภาพแต่ละสภาพแสง เพื่อนำมารวมกันเป็นหนึ่งภาพที่ดีที่สุดในฉากกลางคืน ทำให้ได้รูปถ่ายกลางคืนที่คมชัดสวยงาม แสงไม่ฟรุ้ง

AI Body Shaping

ปฎิวัติวงการมากๆ กับการถ่ายรูปที่สามารถปรับแต่งหน้าสวยไปพร้อมกับการปรับแต่งรูปร่าง โดยจะอยู่ในโหมดของ AI Beauty ที่มุมขวาของกล้อง จะมีรูปร่างคนให้เลือกปรับก่อนกดชัตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับทั้งตัว ปรับเฉพาะช่วงศีรษะ ไหล่ เอว สะโพก หรือแม้กระทั้งขา ให้รูปของคนออกมาดูดี่ที่สุด ทั้งยังสามารถปรับหน้าสวยในส่วนต่างๆ ปรับโทนผิว กราม รูปหน้า ไปได้พร้อมกัน

AI Scene

สำหรับ Vivo V15 Pro กล้องจะมี AI เข้ามาช่วยในส่วนต่างๆ เช่น การจดจำซีน ที่ช่วยปรับแต่งสีสันให้เข้ากับบรรยากาศ ปรับรูปถ่ายอาหารให้สีสดดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น

กล้องถ่ายรูปด้านหน้า

กล้องหน้าแบบ Pop-Up ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่อยู่บนส่วนของตัวเครื่องจะโผล่ขึ้นมาเมื่อเรียกใช้งานกล้องหน้า มีลูกเล่นสามารถตั้งค่าเสียงได้ 3 แบบ ทั้งยังได้รับการทดสอบเรื่องของความแข็งแรงทนทานมาแล้วกว่า 300,000 ครั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้นานๆ แน่นอน และมีโหมดถ่ายรูปที่น่าสนใจใส่มาให้เช่นกัน

AI Beauty

โหมดกล้องหน้าสวยที่สามารถเลือกปรับแต่งได้เอง ตั้งแต่ใบหน้า ดวงตาจมูก โทนสีผิว เมื่อถ่ายออกมาเหมือนมีกล้องฟรุ้งฟริ้งติดตัวยังไงยังงั้น

โหมดเอฟเฟ็กต์ถ่ายภาพบุคคล

โหมดนี้จะเหมือนกล้องหลัง แต่สำหรับกล้องหน้าสามารถใช้งานได้เหมือนกัน มีแสงต่างๆ ให้เลือกใช้ 5 แบบเช่นกัน

เซลฟี่สุดน่ารักแบบ AR

เป็นลูกเล่นของสติ๊กเกอร์ที่นำมาใส่ไว้บนรูปถ่าย เพิ่มความน่ารัก แถมยังสามารถอัดเป็นวิดีโอภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย

คุณสมบัติการถ่ายภาพ

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 8000 x 6000 (ปกติ 4:3), 4000 x 1856 (เต็มจอ19.5:9), 4000 x 2256 (16:9), 3000 x 3000 (สี่เหลี่ยม 1:1) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 6528 x 4896 (ปกติ 4:3), 6528 x 3040 (เต็มจอ 19.5:9), 6528 x 3672 (16:9), 4896 x 4896 (สี่เหลี่ยม 1:1) พิกเซล
โหมดถ่ายภาพ : ถ่ายภาพ, AI ใบหน้าสวย, เซลฟี่สุดน่ารัก AR, กลางคืน, พาโนรามา, มืออาชีพ, DOC
แฟลช : อัตโนมัติ, ปิด, เปิด, เปิดตลอด
HDR : ปิด, เปิด
เอฟเฟกต์ภาพบุคคล : ปิด, เปิด (ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง, ภาพพื้นหลังขาวดำ)
Live Photo : ปิด, เปิด
Jovi : ปิด, เปิด
ตัวจับเวลา : ปิด, 3, 10 วินาที
เอฟเฟ็กต์ : ไม่มี, เกรปฟรุต, น่าหม่ำ, มิ้นต์, แชมเปญ, หมอก, 1970, มาการอง, แชปลิน, อบอุ่น, ชุ่มช่ำ
ภาพบุคคล : ปิด, เปิด
เลนส์ WIDE : ปิด, เปิด
ชัตเตอร์ : แตะ, เสียง, ฝ่ามือ
พื้นที่เก็บข้อมูล : โทรศัพท์, การ์ด SD
ลายน้ำ : ลายน้ำเวลา, รูปแบบลายน้ำ
ความละเอียด 48MP : ปิด, เปิด
เส้นกรอบ : ปิด, เปิด
องค์ประกอบภาพถ่ายบุคคล : ปิด, เปิด
AI ระบุฉาก : ปิด, เปิด
เสียงกล้อง Pop-Up : ปิดเสียง, ไซไฟ, เครื่องจักร, จังหวะ

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3840 x 2160 (4K), 1920 x 1080 (1080p), 1280 x 720 (720p) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (1080p), 1280 x 720 (720p), 640x480 พิกเซล
FPS : อัตโนมัติ, 60FPS
แฟลช : ปิด, เปิด
วิดีโอหน้าสวย : ปิด, เปิด
โหมดถ่ายวิดีโอ : ปกติ, ภาพเคลื่อนไหวช้า, ไทม์แลปส์
เลนส์ WIDE : ปิด, เปิด
เอฟเฟ็กต์ : ไม่มี, เกรปฟรุต, น่าหม่ำ, มิ้นต์, แชมเปญ, หมอก, 1970, มาการอง, แชปลิน, อบอุ่น, ชุ่มช่ำ,
หอมหวาน, ลมโชย, ผ่อนคลาย