รีวิวสมาร์ทวอทช์ Huawei Watch Fit - หัวเว่ย

Huawei Watch Fit สมาร์ทวอทช์สดใหม่จากเตาแบรนด์ Huawei มีดีไซน์สวยงามกะทัดรัดหน้าปัดสี่เหลี่ยม AMOLED เหมาะเป็นเพื่อนซี้รู้ใจของขาออกกำลังกาย ใช้งานได้สะดวกไม่ว่าหน้าเก่า หรือพึ่งเข้าวงการ โดย Huawei Watch Fit มาพร้อมโหมดออกกำลังกายให้เลือกมากมาย แต่ความน่าสนใจจะอยู่โค้ชส่วนตัวในรูปแบบอนิเมชั่น ช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้ออกลังกายตามได้ง่ายๆ ส่วนฟีเจอร์ตรวจจับสุขภาพก็ไม่ทิ้ง รองรับการตรวจจับการเต้นของหัวใจที่แม่นยำ, วัดค่าออกซิเจนในเลือด SpO2 หรือการตรวจจับการนอน เป็นต้น แถมยังมีแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุดถึง 10 วัน !

Huawei Watch Fit ตัวเรือนทำจากวัสดุไฟเบอร์โพลิเมอร์ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 46 x 30 x 10.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักไม่รวมสายอยู่ที่ 21 กรัม

หน้าจอแสดงผลพาแนล AMOLED กว้าง 1.64 นิ้ว ความละเอียด HD (456x280 พิกเซล) รองรับการสัมผัส

ข้างขวาตัวเรือนจะพบกับปุ่มฟังก์ชั่นใช้งาน โดยปุ่มนี้จะทำหน้าที่เป็นปุ่มโฮม, ปุ่มเปิดเมนู, และเปิดปิด หรือรีสตาร์ทเครื่อง และถัดไปข้างบนเป็นรูไมโครโฟน

ด้านหลังตัวเรือนมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และค่าออกซฺเจนในเลือด SpO2 ส่วนด้านบนเป็นปุ่มแม่เหล็ก 2 ปุ่ม ไว้สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่

ในขณะที่สายรัดข้อมือของ Huawei Watch Fit จะเป็นสายแบบซิลิโคน สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งการถอดจะต้องแกะตัวล็อกด้านหลักตัวเรือนออกเสียก่อน จากนั้นถึงดึงสายออกมาได้

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเรือน Huawei Watch Fit พร้อมสายซิลิโคน
  • ที่ชาร์จแบบแม่เหล็ก อีกด้านเป็น USB Type-A
  • คู่มือการใช้งาน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ Huawei Watch Fit

  • ขนาดตัวเรือน : 46 x 30 x 10.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 21 กรัม (ไม่รวมสาย)
  • สาย : ซิลิโคน
  • หน้าจอแสดงผล : หน้าจอสัมผัสพาแนล AMOLED กว้าง 1.64 นิ้ว ความละเอียด HD (456x280 พิกเซล)
  • RAM : 4GB
  • กันน้ำ : 5ATM (กันน้ำลึก 50 เมตร)
  • เซนเซอร์ :  IMU เซนเซอร์ 6 แกน, เซนเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจแบบ Optical, เซนเซอร์จับกระแสไฟฟ้า, เซนเซอร์แสง
  • การเชื่อมต่อ : GPS (ภายในตัว), Bluetooth 5.0 BLE, Android 5.0 ขึ้นไป, iOS 9.0 ขึ้นไป
  • ภาษา : รองรับภาษาไทย
  • แบตเตอรี่ : ใช้โหมดปกตินานสุด 10 วัน, โหมด GPS 12 ชั่วโมง

การเริ่มต้นใช้งาน
เริ่มแรกต้องมีสมาร์ทโฟน Android เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป หรือ iOS 9 ขึ้นไป จากนั้นดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Huawei Health ผ่าน Play Store, AppGallery หรือ App Store จากนั้นทำการเชื่อมต่อ Huawei Watch Fit กับสมาร์ทโฟน ถึงจะเริ่มใช้งาน Huawei Watch Fit ได้

วิธีการเชื่อมต่อ Huawei Watch Fit กับสมาร์ทโฟน

  • เปิดแอพพลิเคชั่น Huawei Health ในสมาร์ทโฟน > เลือกเมนู อุปกรณ์
  • เพิ่ม > นาฬิกาอัจฉริยะ
  • เลือก Huawei STIA (ในอนาคตน่าจะมีอัปเดตเป็นชื่อ Huawei Watch Fit)
  • เลือกจับคู่ > ตกลง

เพียงเท่านี้ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อทั้ง 2 อย่างให้แบบอัตโนมัติ ผ่านการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth เมื่อมีการทำกิจกรรมวัดค่า หรือการอัปเดตสถิติต่างๆ ระบบจะทำการซิงค์จ้อมูลเหล่านั้นจาก Huawei Watch Fit ไปยังสมาร์ทโฟนให้อัตโนมัติ

ปุ่มด้านข้าง
ปุ่มการใช้งงานของ Huawei Watch Fit จะมีเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น โดยปุ่มจะทำหน้าที่ในการเปิดปิด หรือรีสตาร์ทเครื่อง แต่หลักๆ จะใช้เป็นปุ่มกลับสู่หน้าโฮม และไปสู่เมนูการใช้งาน

  • กด 1 ครั้ง เพื่อกลับสู่หน้าจอหลัก หรือเรียกเมนูการใช้งาน
  • กดค้าง เพื่อเปิดปิด หรือรีสตาร์ทเครื่อง
  • กดค้าง เพื่อหยุดกิจกรรมออกกำลังกาย

การสั่งการหน้าจอแสดงผล

  • หน้าจอหลัก
    - ปัดซ้ายขวา เพื่อดูเมนูโปรด
    - ปัดขอบหน้าจอบนลงล่าง เพื่อเปิดถาดการใช้งานด่วน และดูเปอร์เซ็นแบตเตอรี่
    - ปัดขอบหน้าจอล่างขึ้นบน เพื่อดูข้อความ
  • ในเมนูการใช้งาน
    - ปัดขอบหน้าจอซ้ายไปขวา เพื่อย้อนกลับ
    - เลื่อนขึ้นลง เพื่อเลื่อนดูเมนู

วิธีการปรับความสว่างหน้า
การปรับความสว่างหน้าจอของ Huawei Watch Fit อาจจะหายากนิดหน่อย เพราะไม่ได้อยู่ในถาดเมนูด่วน ซึ่งต้องไปปรับใน การตั้งค่า > การแสดงผล > ความสว่าง  (ใน Huawei watch Fit) สามารถปรับได้ 5 ระดับ และแบบอัตโนมัติ โดยการตั้งค่าเริ่มต้นจะเป็นแบบอัตโนมัติ

แอพพลิเคชั่น Huawei Health
นอกจากแอพพลิเคชั่น Huawei Health จะจำเป็นต่อการเริ่มต้นใช้งาน Huawei Watch Fit ภายในแอพฯ ยังมีหน้าที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ พร้อมกับให้ข้อมูลในเชิงลึก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เก็บสถิติการออกกำลังกาย รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนหน้าปัดสมาร์ทวอทช์ และอัปเดตเฟิร์มแวร์

วิธีเปลี่ยนรูปแบบหน้าปัดสมาร์ทวอทช์
ที่จริงการปรับเปลี่ยนหน้าปัด สามารถเปลี่ยนได้ทันทีใน Huawei Watch Fit แต่หากอยากจะให้ง่าย และมีดีไซน์หน้าปัดให้เลือกหลากหลาย ก็ไปเปลี่ยนในแอพพลิเคชั่น Huawei Health จะดีกว่า

1. เปิดแอพฯ Huawei Health > อุปกรณ์

2. เลือกอุปกรณ์ Huawei Watch Fit > เพิ่มเติม (ตรงเมนูหน้าปัดนาฬิกา)

 

นอกจากนี้บางดีไซน์หน้าปัดยังสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ เพื่อให้การตรวจจับที่ต้องการมาปรากฏอยู่บนหน้าจอหลัก เพื่อง่ายต่อการรับข้อมูล หรือสถิติที่ต้องการ โดยไม่ต้องเปิดแอพฯ หรือเข้าไปในเมนูนั้นๆ

การอัปเดตเฟิร์มแวร์ Huawei Watch Fit
การอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้กับ Huawei Watch Fit ค่อนข้างสำคัญทีเดียว เพราะบางฟีเจอร์ต้องอาศัยการอัปเดต ถึงจะใช้งานได้ เช่นโค้ชส่วนตัวแบบอนิเมชั่น เป้นต้น โดยวิธีการอัปเดตจะต้องอัปเดตผ่านแอพฯ Huawei Health และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. เปิดแอพฯ Huawei Health > อุปกรณ์




2. เลือก Huawei Watch Fit > อัปเดตเฟิร์มแวร์

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์กะทัดรัดหน้าจอ AMOLED ผลิกข้อมือก็ดูเวลาได้ทันที
Huawei Watch Fit มีตัวเรือน และหน้าจอแสดงผลเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และใช้กระจกโค้ง 2.5D ซึ่งให้ความเล็กกะทัดรัด แข็งแกร่ง เหมาะกับการสวมใส่พร้อมกับการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ยังมีความกว้าง 1.64 นิ้ว ความละเอียด HD โดดเด่นด้วยพาแนล AMOLED ทำให้การแสดงผลมีสีที่สด แสดงผลได้ชัดเจน

นอกจากนี้หน้าจอยังเป็นโหมด Always On เมื่อหน้าจอมีการพัก ก็สามารถผลิกข้อมือเหมือนจะดูเวลา หน้าจอแสดงผลก็จะเปิดขึ้นมาให้แบบอัตโนมัติ พร้อมใช้งานได้ปกติ แถมยังปรับความสว่างหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ (หากค่าแสงหน้าจอเป็น อัตโนมัติ)

อินเตอร์เฟสดูง่าย รองรับภาษาไทย
นอกจากความเล็กกะทัดรัดของตัวเรือน ในส่วนหน้าตาของอินเตอร์เฟสก็สามารถใช้งานได้ง่ายๆ เช่นกัน เพราะมีอินเตอร์เฟสที่ดูง่ายสะอาดตา เหมาะใช้งานกับทุกเพศทุกวัย ไม่พอแค่นั้นยังรองรับการใช้งานภาษาไทย เพิ่มความสะดวกไปอีกขั้น

โหมดออกกำลังกายครบครัน 96 โหมด ติดตามเป็นเงาด้วย GPS ในตัว
แน่นอนว่า Huawei Watch Fit ถูกออกแบบเพื่อมาเป็นเพื่อนซี้นักออกกำลังกาย ทำให้โหมดการออกกำลังกายต่างๆ ย่อมมีให้พร้อมใช้งานแบบจัดเต็ม โดย Huawei Watch Fit มีโหมดการออกกำลังกายกว่า 96 โหมด รองรับการออกกำลังกายมาตรฐานกว่า 11 โหมด เช่น การเดิน, การวิ่ง, การว่ายน้ำ, เต้นแอโรบิค, เล่นโยคะ เป็นต้น

ในระหว่างใช้งานโหมดออกกำลังกาย หน้าจอก็มีการแสดงผลของอัตราการเต้นของหัวใจ และการเผาผลาญแคลอรี่แบบเรียลไทม์ ทำให้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ส่วนค่าที่แสดงออกมาก็มีความแม่นยำสูง เพราะมีเซนเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจแบบ Optical ส่วนการวัดระยะทาง และการระบุตำแหน่งก็แม่นยำเช่นกัน เพราะภายใน Huawei Watch Fit มีการติดตั้ง GPS ไว้ในตัว

โค้ชส่วนตัวในรูปแบบอนิเมชั่น
โค้ชส่วนในสมาร์ทวอทช์ปัจจุบัน เป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ ซึ่ง Huawei Watch Fit ก็มีเหมือนกัน แต่ให้ความแปลกใหม่มากกว่านั้น ด้วยระบบโค้ชอัจฉะริยะในรูปแบบอนิเมชั่น ซึ่งจะมีโค้ชตัวเป็นๆ มาขยับท่าทางให้ดูว่าต้องออกกำลังกายอย่างไร บอกได้คำเดียวว่าว้าวมากๆ สำหรับฟีเจอร์นี้ ช่วยให้ออกกำลังกายไปพร้อมๆ กับโค้ชส่วนตัวได้ง่ายทีเดียว

กันน้ำที่ 5ATM
สวมใส่ใช้ออกกำลังกายว่ายน้ำได้ทันที เพราะ Huawei Watch Fit ได้มาตรฐานกันน้ำที่ 5ATM ซึ่งสามารถกันน้ำลีกได้ถึง 50 เมตร หมดห่วงปัญหากัฬาทางน้ำได้สบาย

สุขภาพก็ขาดไม่ได้ วัดการเต้นหัวใจ, SpO2, ติดตามการหลับ, วัดความเครียด มาเต็ม
เรื่องของสุขภาพก็ขาดไม่ได้เช่นกัน โดยผู้ใช้งาน Huawei Watch Fit สามารถรับรู้อัตราการเต้นของหัวใจได้ 24 ชั่วโมง (หากสวมใส่ตลอดเวลา) และมีความแม่นยำสูง เพราะมีเซนเซอร์ตรวจจับแบบ Optical นอกจากนี้ยังสามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด SpO2 ได้อีกด้วย แต่การวัดค่านี้เป็นการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ไม่สามารถใช้งานทางการแพทย์ได้

Huawei Watch Fit ไม่ได้มีแค่ การตรวจจับการเต้นของหัวใจ และ SpO2 เท่านั้น แต่ยังมีโหมดติดตามการนอนหลับ โดยจะบอกพฤติกรรมการนอนของผู้ใช้ได้แบบเจาะลึกในแต่ละช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงนอนหลับลึก, นอนน้อย, REM และตื่น เมื่อผู้ใช้งานตื่นขึ้นมาก็สามารถมาดูข้อมูลเหล่านี้ผ่านทาง Huawei Health ได้ทันที และระบบจะบอกว่าแต่ละข้อมูล มีอันไหนปกติ หรือค่าสูงต่ำเกินไปบ้าง

โหมดวัดความเครียด ก็เป็นอีกโหมดเพื่อสุขภาพใน Huawei Watch Fit ซึ่งระบบจะทำการวัดความเครียดของผู้ใช้งาน และบอกข้อมูลว่าอยู่ในระดับไหน หากมีความเครียดมากๆ ระบบจะมีการแจ้งเตือนให้ผ่อนคลาย หรือไปใช้งานโหมดฝึกลมหายใจ เพื่อลดความเครียดก็ได้เช่นกัน

ควบคุมการเล่นเพลง, รับการแจ้งเตือน, กดชัตเตอร์จาก Huawei Watch Fit
ด้านฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย Huawei Watch Fit จะมีตัวควบคุมการเล่นเพลงให้ใช้งาน แต่จะเล่นเพลงจากเครื่องสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันเท่านั้น ไม่สามารถเก็บเพลงใน Huawei Watch Fit ได้

Huawei Watch Fit ยังสามารถรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อไว้ได้ด้วย เมื่อมีการแจ้งเตือนอะไรมา Huawei Watch Fit ก็ยังสั่นแจ้งผู้ใช้งาน เมื่อผู้ใช้งานปัดหน้าจอขึ้น ก็สามารถก็การแจ้งเตือนนั้นได้ ทำให้ไปต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดู

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ปุ่มชัตเตอร์ให้กดใช้งานอีกด้วย โดยสามารถกดชัตเตอร์จากหน้าปัดของ Huawei Watch Fit เพื่อจับภาพจากกล้องของสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพ เพราะไม่ต้องกดชัตเตอร์จากสมาร์ทโฟน

แบตเตอรี่สุดทน ใช้ได้นานสูงสุด 10 วัน

ตามที่ Huawei ได้เคลมเอาไว้ Huawei Watch Fit จะสามารถใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง แต่เป็นโหมดใช้งานแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งการใช้งานจริง ผู้ใช้งานก็ไม่ได้เปิดโหมดนี้ตลอดอยู่แล้ว โดยจากที่ลองใช้ก็พบว่าแบตเตอรี่ก็อยู่ในนานพอสมควร ในโหมดใช้งานปกติ ใส่นอน ใส่วัดการเต้นหัวใจ ก็พบว่าแบตเตอรี่ยังเหลือๆ และน่าจะถึง 7 วันเลยทีเดียวถึงต้องชาร์จอีกครั้ง

โดย Huawei Watch Fit วางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย สนนราคาอยู่ที่ 3,499 บาท มีให้เลือก 4 สีคือ Graphite Black, Mint Green, Cantaloupe Orange และ Sakura Pink

Huawei

ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/smartwatch/huawei/watch-fit

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลนาฬิกา

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 8 กันยายน 2563

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์