OPPO A53 สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นที่จัดสเปคมาให้อย่างไม่ธรรมดา ด้วยหน้าจอ 90Hz Neo ขนาด 6.5 นิ้ว ลำโพงสเตอริโอคู่ และ Dirac 2.0 เต็มอิ่มทุกอรรถรสความบันเทิง เป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 460 ดีไซน์โค้งมนแบบ 3D curved มี AI 3 กล้องหลัง กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ถ่ายสวยถ่ายสนุกทุกมุมมอง แบตเตอรี่ใหญ่จุใจ 5,000mAh พร้อมระบบชาร์จไว 18W ในราคาสุดคุ้มเพียง 5,499 บาท
OPPO A53 มีดีไซน์โค้งมน 3 มิติ ขนาด 163.9 x 75.1 x 8.4 มม. แม้จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่ก็มีความเพรียวบาง น้ำหนักเพียง 186 เท่านั้น จึงจับถือใช้งานได้อย่างสบายมือ
จอแสดงผลของ OPPO A53 ใช้พาแนล IPS-LCD หน้าจอ Neo-Display กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600x720 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 อีกทั้งยังมีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz ช่วยให้ลื่นขึ้น
ส่วนบนของหน้าจอมีรอยเจาะ Neo-Display อยู่มุมซ้าย เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ส่วนล่างของหน้าจอเป็นปุ่มควบคุมแบบซอร์ฟแวร์ระบบ ขอบจอด้านล่างจะใหญ่กว่าด้านอื่น และขอบหน้าจอนั้น ปรับให้แคบลงเหลือเพียง 2.01 มม. จึงมีพื้นที่การแสดงผลที่กว้างขึ้น
ตัวเครื่องด้านบนไม่มีการใช้งานใดๆ
ด้านซ้ายมีถาดใส่ซิมแบบ 3 Slots รองรับ Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และ MicroSD Card อีก 1 ช่อง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ซึ่งสีและผิวของเครื่องจะไล่เฉดสีแบบเดียวกันกับตัวเครื่อง
ตัวเครื่องด้านขวาเป็นปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง รวมไปถึงล็อคเครื่องหรือปลุกหน้าจอ
ด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง ทางฝั่งขวาเป็นลำโพงเสียง ทางด้านซ้ายนั้นเป็นไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ก็ยังคงให้มาอยู่ในรุ่นนี้
ส่วนฝาหลังจะมีความเงางามสะท้อนแสง ไล่เฉดสีกันไป กล้องหลัง 3 เลนส์ ถูกติดตั้งบนโมดูลสี่เหลี่ยม ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 13MP, เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ซึ่งทั้งหมดทำงานร่วมกับ AI
ใกล้ๆ กันกับกล้องหลัง มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือรูปวงกลมอยู่ตรงกึ่งกลางของตัวเครื่อง ส่วนโลโก้ของ OPPO จะขยับมาอยู่ทางมุมล่างซ้าย
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปคของ OPPO A53
หน่วยความจำและหน่วยประมวลผล
OPPO A53 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 460 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มีการนำชิปเซ็ตตัวนี้มาใช้ กับ RAM 4GB แบบ LPDDR4x และ ROM 64GB แบบ UFS 2.1 และด้วยการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์กับหน่วยความจำขนาดใหญ่ จึงทำให้ OPPO A53 มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการเปิดใช้แอปพลิเคชั่นที่มีความรวดเร็ว มีสเถียรภาพ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกอย่าง MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB เก็บภาพ วิดีโอ รวมถึงไฟล์ต่างๆ ได้มากขึ้น เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 7.2
OPPO A53 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ColorOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ปรับแต่งหน้าตา UI รวมถึง Icon ต่างๆ ได้ตามความต้องการ มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง สวยงาม มองสบายตา นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ยังมีความไหลลื่นมากขึ้น การทำงานของเครื่องจึงไหลลื่น พร้อมกันนี้ยังช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานอีกด้วย
หน้าหลัก
แถบด้านข้าง
แถบการใช้งานด้านบน
Simple Mode การปรับแต่งไอคอน
โหมดมืด
Multi-User Mode
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้
ดีไซน์เงางาม โดดเด่นสะดุดตา
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า แม้ OPPO A53 จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่ก็สามารถออกแบบตัวเครื่องออกมาได้อย่างเพรียวบาง มีความหนา 8.4 มิลลิเมตร หนักเพียง 186 กรัมเท่านั้น ใช้งานมือเดียวได้สะดวกสบาย ดีไซน์โค้งมน 3 มิติ ผิวเรียบและมีความเงาแวววาวเหมือนการสะท้อนของน้ำ สวยงามสะดุดตา
ตัวเครื่องโค้งมน กรอบเคลือบด้วยเมทัลลิกสีเงิน เข้ากันได้ดีกับเฉดสีของเครื่อง ที่มีการนำเทคนิคการแกะสลักและเคลือบสีแบบใหม่มาใช้ ทำให้เกิดการสะท้อนแสงแบบเงางาม ดูทันสมัยสบายตา โดย OPPO A53 มีมาให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือ สีน้ำเงิน Fancy Blue (เครื่องรีวิว) และ สีดำ Electric Black
สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
นอกจากการปลดล็อคพื้นฐานต่างๆ แล้ว OPPO A53 ยังมาพร้อมการเซนเซอร์ลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคอีกด้วย โดยสามารถตั้งค่าลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ โดยเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่บริเวณด้านหลัง ซึ่งออกแบบให้เข้ากับฝาหลังได้สวยงาม ใช้งานง่ายอย่างเป็นธรรมชาติ
หน้าจอแสดงผล 90Hz Neo 6.5 นิ้ว
OPPO A53 มาพร้อมหน้าจอ Neo-Display ขนาด 6.5 นิ้ว สามารถรับชมความบันเทิงได้เต็มอรรถรสความบันเทิง ด้วยหน้าจอลื่นๆ กับ 90Hz Refresh Rate และตอบสนองการสัมผัสได้เร็วขึ้นด้วย Touch sampling rate ที่สูงถึง 120Hz หน้าจอแสดงผลรวดเร็วและราบรื่น ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลไม่สะดุด
อีกทั้งยังช่วยถนอมสายตา สำหรับผู้ใช้งานเป็นเวลายาวนานด้วยโหมดถนอมสายตา มี AI Brightness ระบบปรับแสงอัจฉริยะ ช่วยปรับแสงให้เข้ากับสภาวะรอบข้าง และเมื่ออยู่กลางแดดจ้า ความสว่างของหน้าจอจะถูกปรับโดยอัตโนมัติสูงสุด 550 nits ให้สามารถมองได้อย่างสบายตา
ขุมพลัง Snapdragon 460 และ RAM 4GB + ROM 64GB ลื่นไหลไม่สะดุด
OPPO A53 ได้เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 460 octa-core ที่เร็วและแรงในระดับที่มั่นใจได้ มาพร้อมกับ RAM 4GB แบบ LPDDR4x และ ROM 64GB แบบ UFS 2.1 มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ยอดเยี่ยม การทำงานพื้นฐาน เปิดปิดสลับแอปพลิเคชั่นได้รวดเร็วง สามารถประมวลผลและจัดสรรระบบต่างๆ ให้ทำงานอย่างเต็มสมรรถภาพ
นอกจากนี้ OPPO A53 ยังมาพร้อมช่องเสียบซิมการ์ดแบบ 3 Slot ที่รองรับ MicroSD Card ด้วยความจุสูงสุดที่ 256GB จึงได้คลังเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ให้เก็บภาพถ่าย, วิดีโอ หรือไฟล์ดาวน์โหลดต่างๆ ได้อย่างจุใจ
OPPO A53 ยังมีระบบการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ด้วยการปรับขยายพื้นที่จัดเก็บแคชบน RAM อัตโนมัติ เพื่อลดความหน่วงในการเปิดใช้แอปฯต่างๆ ทำให้ใช้งานได้รวดเร็วและราบลื่น แม้จะใช้งานเป็นเวลานาน
แบตเตอรี่ใหญ่ 5,000mAh ชาร์จได้ไว
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ที่มีอยู่ใน OPPO A53 จึงทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น รองรับการโทรได้นานถึง 52 ชั่วโมง, ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 37 ชั่วโมง, และดูวิดีโอได้ยาวถึง 20.8 ชั่วโมง เมื่อลองใช้งานแบบปกติประจำวัน อย่างเล่นเกม เล่นโซเชียลมีเดีย หรือดูยูทูป ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ต้องชาร์จ
เมื่อพูดถึงในเรื่องการชาร์จ OPPO A53 ยังมาพร้อมระบบชาร์จไว 18W ที่ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จ แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่ ทั้งยังควบคุมการชาร์จไฟ, อุณหภูมิความร้อนให้ปลอดภัยด้วย
โหมดประหยัดพลังงาน
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ OPPO A53 ยังสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น ด้วย "โหมดประหยัดพลังงาน" ในกรณีที่เหลือแบตน้อย ความถี่ในการใช้งาน CPU และความสว่างของหน้าจอจะถูกลดลงโดยอัตโนมัติ และยังให้ใช้ฟีเจอร์เร่งด่วนได้อยู่อย่างไม่สะดุด เช่น เมื่อแบตเตอรี่มีอยู่ 5% ก็สามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุด เพื่อรอรับสายได้ 1.54 ชั่วโมง เลยทีเดียว
ลำโพงสเตอริโอคู่
OPPO A53 จัดเต็มความบันเทิงให้ทั้งภาพและเสียง ด้วยลำโพงสเตอริโอคู่ ที่อยู่ทั้งด้านบน-และด้านล่างของตัวเครื่อง ทำให้เสียงสเตอริโออกมาอย่างสมบูรณ์ ดังกระหึ่มอย่างเต็มอารมณ์ และยังมาพร้อมเทคโนโลยีปรับเสียงดิจิทัล Direc 2.0 ช่วยแต่งเสียงแอฟเฟ็คให้กับแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ตามความต้องการ
กล้องหลัง 3 เลนส์ ถ่ายสนุกไม่สะดุด
ด้วยซอฟต์แวร์ที่ผสานการทำงานกับฮาร์ดแวร์ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้การถ่ายภาพชัดลึก สามารถประมวลผลออกมาได้ดียิ่งขึ้น เบลอฉากหลังได้อย่างเนียนๆ เพิ่มความโดดเด่นให้กับจุดโฟกัส ทำให้ภาพพอร์ตเทรตเอ็ฟเฟกต์โบเก้หลังละลายมีความสวยงาม
สำหรับการถ่ายภาพมาโครระยะใกล้ของ OPPO A53 มีการซูมภาพของเลนส์ถึงวัตถุได้ในระยะ 4 ซม. สามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้ดี มีความคมชัด ใช้ในการถ่ายภาพดอกไม้ให้เห็นรายละเอียดของเกษรดอกไม้ได้อย่างสวยงาม
ช่วยในเรื่องของการปรับสีสันของภาพ สร้างสีใหม่ที่สดใสได้ในระดับพิกเซล ด้วย AI ที่รองรับเทคโนโลยีการจดจำฉากหลังขั้นสูงนั่นเอง ภาพถ่ายที่คุณได้จึงมีสีที่คมชัดสดใส
AI กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
OPPO A53 มาพร้อมกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และยังพ่วงมากับ AI Beauty2.0 ช่วยให้การปรับแต่งใบหน้าและสีผิวให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มสีสันให้ใบหน้าไม่ดูซีดเซียว เพิ่มสีเลือดฝาดให้กับใบหน้า เติมสีปากให้ดูอิ่มเอิบในสไตล์ของคุณ
ถ่ายวิดีโอได้สนุกขึ้น
นอกจากความสนุกไม่มีสะดุดของกล้องถ่ายภาพนิ่งแล้ว กล้องวิดีโอก็มีลูกเล่นให้ได้สร้างสรรค์คลิปดีๆ เช่นกัน โดย OPPO A53 มาพร้อมกับ Stylish Filters ที่อัปเดตฟิลเตอร์ภาพถ่ายอีก 15 แบบ อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์วิดีโอพร้อมเอฟเฟ็กต์โทนภาพยนตร์ ให้คุณได้ถ่ายภาพวิดีโอสนุกได้อย่างสร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังมี Soloop แอปพลิเคชั่นตัดต่อวิดีโอที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ช่วยให้คุณตัดคลิป เพิ่มเสียง เติมเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ใช้งานง่าย ให้คุณพร้อมแชร์ลงโซเชี่ยลได้ทันที
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
สำหรับ OPPO A53 จะพร้อมวางจำหน่าย ในวันที่ 19 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ในราคา 5,499 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีน้ำเงิน Fantasy Blue (ที่รีวิว) และ สีดำ Electric Black สามารถหาซื้อได้ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ขอขอบคุณ : OPPO
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ
https://www.siamphone.com/spec/oppo/a53.htm
แคตตาล็อกตัวเครื่อง
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท