รีวิว realme C12 รุ่นเล็กเผ็ดร้อน ด้วยพลังแบตเตอรี่ 6,000mAh แต่โปรร้อนกว่าเริ่มต้น 1 บาท !

โดย ปิตุภูมิ นันทวิทยา โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ realme C12 - เรียวมี

realme C12 สมาร์ทโฟนเอาใจสายเริ่มต้น ที่พกความโดดเด่นด้วยการใช้งานสุดยาวนานจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000mAh พร้อมมีฟีเจอร์เพิ่มประสิทธิภาพให้แบตเตอรี่อีกมากมาย ส่วนสเปคถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G35 มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ไม่พอแค่นั้นกล้องถ่ายรูปก็พร้อมให้ใช้งานครบเครื่องจากกล้องหน้าหลัง AI รวมกันถึง 4 เลนส์ ถือว่าเป็นอีกสมาร์ทโฟนราคาระดับเริ่มต้นที่น่าสนใจทีเดียว

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่องของ realme C12 มีขนาด 164.5x75.9x9.8 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ส่วนน้ำหนักตัวอยู่ที่ 209 กรัม ซึ่งอาจดูหนักไปเล็กน้อย เพราะมีแบตตเตอรี่ 6,000mAh นั้นเอง แต่ก็ยังถือใช้งานได้ไม่มีปัญหา

หน้าจอแสดงผลมีความกว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600x720 พิกเซล) ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ

เหนือหน้าจอแสดงผล ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และเหนือกล้องขึ้นไปตรงขอบด้านบน จะพบกับลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ใต้หน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ในหน้าจอ

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบ 3 ช่อง รองรับการใส่ซิมแบบ Nano SIM 2 ช่อง และอีกช่องสำหรับ MicroSD Card

ข้างขวาตัวเครื่องมีปุ่มใช้งานมาตรฐาน ปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอ

ส่วนบนตัวเครื่อง ไม่มีพอร์ต หรือปุ่มการใช้งานใดๆ

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาเป็นรูไมโครโฟน 2 ช่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต Micro USB และขวาสุดคือลำโพงเสียง

ผลิกมาดูฝาหลังตัวเครื่อง มุมบนซ้ายจะพบกับกล้องหลัง 3 เลนส์ และไฟแฟลช ถูกจัดเรียงเป็นแบบสี่เหลี่ยม โดยกล้องประกอบไปด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 13MP, เลนส์ขาวดำ ความละเอียด 2MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ส่วนที่สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ตรงกลาง เยืองมาข้างบนในส่วนฝาหลัง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง realme C12
สาย Micro USB to Type-A
อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 10W
คู่มือการใช้งาน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ realme C12

ขนาดตัวเครื่อง : 164.5 x 75.9 x 9.8 มม.
น้ำหนัก : 209 กรัม
หน้าจอ : ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600x720 พิกเซล) ดีไซน์รอยแหว่งทรงหยดน้ำ
ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G35
RAM : 3GB LPDDR4x
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 32GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB
ระบบปฏิบัติการ : realme UI บนพื้นฐาน Android 10
กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
- เลนส์หลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 5 ชิ้น
- เลนส์ ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอีดย 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 3 ชิ้น
ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
เครือข่าย : รองรับ Nano SIM 2 ซิม สัญญาณ 4G LTE
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 5.0, GPS, NFC, พอร์ต Micro USB, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่ : 6,000mAh

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และ ROM ของ realme C12 ที่ได้มารีวิวจะเป็น RAM 3GB + ROM 32GB ซึ่งพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเมื่อเปิดเครื่องมาครั้งแรก ระบบจะกินเนื้อที่ไปประมาณ 13GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 19GB ถือว่าน้อยอยู่พอสมควร หากใครที่ต้องการเก็บไฟล์ข้อมูล หรือรูปภาพ ก็แนะนำว่าให้หา MicroSD Card มาใช้งานจะดีกว่า

ระบบปฏิบัติการ
ในด้านซอฟแวร์ realme C12 จะได้ระบบปฏิบัติการ realme UI บนพื้นฐาน Android 10 ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง ทำให้ฟีเจอร์ต่างๆ การใช้งานที่รวดเร็ว และการระบบประหยัดพลังงาน จะมีมาครบ

หน้าจอหลัก
ด้วยความเป็น realme UI ทำให้ realme C12 มีหน้าตาเป็นแบบเฉพาะ โดยเน้นไปที่หน้าตาของไอคอนแอพฯ เป็นทรงกลมๆ ดูเรียบเข้าไว้ และดูใช้งานได้แบบง่ายๆ

ปุ่มการนำทาง
การใช้งานปุ่มนำทาง ค่าเริ่้มต้นจะเป็นแบบ 3 ปุ่มคือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม, ปุ่มแอพฯ ก่อนหน้า แต่หากไม่ชอบใช้งานแบบนี้ และดูปุ่ม 3 ปุ่มจะรกจอไปหน่อย ก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนเป็น ท่าทางการนำทาง ได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > เครื่องมืออำนวยความสะดวก > ปุ่มการนำทาง

โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืน เมื่อเปิดใช้งานระบบจะมีการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และให้ตัวหนังสือเป็นสีขาว เพื่อการอ่าน หรือใช้งานในตอนกลางคืนได้สะบายตามายิ่งขึ้น แต่ต้องเป็นแอพฯ ที่รองรับเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแอพฯ ของ realme เอง สามารถไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > โหมดกลางคืน

ตัวโคลนแอพ
หากต้องการแอพฯ ที่มีอยู่แล้วเพิ่มขึ้่นมาอีก 1 แอพฯ ก็สามารถใช้โหมด ตัวโคลนแอพ ได้ง่ายๆ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > ตัวโคลนแอพ แต่ต้องเป็นแอพฯ ที่รองรับเท่านั้น และสามารถโคลนแอพได้สูงสุด 3 แอพฯ เท่านั้น

หน้าจอแบ่งส่วน
ปกติการแบ่งหน้าจอ หรือ Split Screen จะทำได้ด้วยการกดปุ่มแอพฯ ก่อนหน้าค้าง แต่ realme C12 ที่เป็น realme UI จะสามารถใช้วิธีง่ายๆ ด้วยการใช้ 3 นิ้วรูดขึ้นที่หน้าจอ ก็จะเป็นการแบ่งหน้าจอให้ทันที

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v8.2.8 ได้ 109,060 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 168 และคะแนน Multi-Core ที่ 965 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Sling Shot Extrene - OpenGL) ได้ 464 คะแนน และ (Sling Shot Extrene - Vulkan) 610 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ใช้งานพื้นฐานได้เรื่องอยู่
ถือว่า realme C12 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก ทำให้ใช้งานแบบรอบจัดๆ ก็คงไม่ไหว เพราะใช้ชิปเซ็ตตัวเล็กอย่าง MediaTek Helio G35 แต่สำหรับการใช้งานมาตรฐาน เช่นเล่นแอพฯ สังคมออนไลน์ ดูหนัง ฟังเพลง ก็สามารถใช้งานได้แบบปกติ รูดขึ้นรูดลงดูหน้าฟีตได้ไม่มีปัญหา

ดูหนังฟังเพลงได้ดี มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรด้วย
ความใหญ่ของหน้าจอ realme C12 มาถึง 6.5 นิ้ว ทำให้การดูหนัง ดูวิดีโอ ได้แบบเต็มตา แถมมีรอยแหว่งเป็นแบบ Mini-Drop (ทรงหยดน้ำ) ให้หน้าจอจะดูกว้างขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้ด้านเสียงเพลง ก็ยังสามารถใช้หูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรในการรับฟังได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องดีในการหาหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรมาใช้งาน

ทดสอบการเล่นเกม
ด้วยสเปคของ realme C12 ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G35 ทำให้การเล่นเกมแรงๆ อาจจะปรับได้ไม่สุด แต่ก็ยังพอเล่นได้ด้วยกราฟฟิกขั้นต่ำ เช่นเกมอย่าง ROV ก็แนะนำว่าไม่ต้องปรับเฟรมเรตระดับสูง ก็สามารถรัน 30fps ได้ตลอดเวลา แต่หากปรับเฟรมเรตระดับสูง ค่า fps จะไม่นิ่งเท่าไหร่

ส่วนเกมแนวยิงปืน PUBG Mobile สามารถเล่นได้ปกติที่กราฟฟิกระดับดี และเฟรมเรตแบบกลาง แต่ถ้าจะให้ลื่นจริงๆ ก็ควรไปเล่นเกมอย่าง Free Fire 2 ซึ่งสามารถปรับกราฟฟิกระดับสูง และเล่นได้ลื่นๆ ในเฟรมเรตระดับสูง

สแกนลายนิ้วมือ และสแกนใบหน้า
ที่สแกนลายนิ้วมือของ realme C12 อยู่ที่ฝาหลังตัวเครื่อง โดยการสแกนมีความรวดเร็วมากทีเดียว ใช้งานได้แบบสบายๆ และสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ ในขณะที่สแกนใบหน้าก็ทำได้ดี สามารถสแกนได้อย่างรวดเร็ว และสแกนใบที่แสงน้อยได้ เพราะได้แสงไฟจากหน้าจอทำให้เห็นใบหน้าในการสแกน แต่สามารถจดจำใบหน้าได้เพียง 1 ใบหน้าเท่านั้น

แบตเตอรี่ 6,000mAh
ความโดดเด่นของ realme C12 จะอยู่ที่แบตเตอรี่นี้เลย เพราะพกแบตเตอรี่มาถึง 6,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวๆ ตลอดทั้งวัน และหากเปิดใช้งานแบบสแตนบายทาง realme เคลมไว้ว่าใช้ได้เกือบ 2 เดือนเลยทีเดียว (57วัน) จากที่ทดลองใช้งานดู Youtube ความละเอียด 720p ปรับความสว่างสูงสุด ระยะเวลาประมาณ 26 นาที จากแบตเตอรี่ 43% ลดลงมาเหลือ 39% เท่านั้น นอกจากนี้ภายในยังมีฟีเจอร์ที่ทำให้แบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น App Quick Freeze ที่ช่วยพักการทำงานของแอพฯ ที่ไม่ได้ใช้งาน, Screen Battery ที่จะค่อยลดเอฟเฟกต์บางอย่างออกไป เพื่อใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้น

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
แม้ว่า realme C12 จะเป็นรุ่นเล็ก แต่การใช้งานกล้องถ่ายรูปก็ยะงจัดว่าใช้ได้อยู่ ด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 13+2+2 ล้านพิกเซล มีเลนส์หลัก, เลนส์ Macro และเลนส์ขาวดำ ส่วนกล้องหน้า ก็มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ใช้ถ่ายเซลฟี่ หรือวิดีโอคอล ได้พอตัว ทั้งหมดยังมีการทำงานร่วมกับ AI เพื่อการปรับแต่งภาพให้สวยงามมากยิ่งขึ้น

ภาพถ่ายปกติ
การถ่ายภาพปดติ ถือว่าให้ความสวยงามในระดับที่ดีเยี่ยม หากเทียบกับราคา โดยให้รายละเอียดออกมาค่อนข้างชัดสมบูรณ์แบบ

โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืน ก็ถือว่าเป็นอีกโหมดที่ถ่ายออกมาได้ดีทีเดียว โดยมีการเผยรายละเอียดในที่แสงน้อยได้ดี พร้อมกับให้แสงสีดูสวยงาม แม้อาจไม่ดีเท่ารุ่นใหญ่ๆ แต่หากมองไปยังราคา 3,999 บาท ก็เรียกได้ว่าสวยงามแล้ว

เซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอ และปรับแต่งใบหน้า
โหมดเซลฟี่สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง โดยกล้องหลังมีเลนส์ Depth คอยช่วยเบลอพื้นหลังอยู่แล้ว ทำให้ภาพออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ ในขณะที่กล้องหน้ามีเพียงเลนส์เดียวเท่านั้น แต่ก็ยังเบลอพื้นหลังได้แบบสวยงาม เพราะมีระบบ AI ที่ค่อนข้างดี

ส่วนการเซลฟี่จากกล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลก็ถ่ายออกมาได้ดีพอสมควร และยังมีโหมด AI Beauty ช่วยให้ใบหน้าออกมาประทับใจแบบอัตโนมัติ สามารถปรับระดับความเนียนได้ตามใจชอบอีกด้วย

พาโนเซลฟี่
การเซลฟี่แบบมุมกว้าง อาจจะทำได้ยากเพราะกล้องหน้ามีเพียงเลนส์เดียว และไม่ใช่เลนส์ Ultra-Wide แต่ realme C12 มีโหมดพาโนเซลฟี่มาให้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยในเรื่องการเซลฟี่มุมกว้างได้ โดยการทำงานจะต้องเลื่อนกล้องไปทางซ้าย และขวา จากนั้นระบบจะประมวลผลออกมาเป็นมุมกว้างให้

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 3120x4160 (4:3), 3120x3120 (1:1), 1872x4160 (เต็มจอ), 2340x4160 (16:9) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 1944x2592 (4:3), 1920x1920 (1:1), 1152x2560 (เต็มจอ), 1440x2560 (16:9) พิกเซล
ซูมได้สูงสุด : 4 เท่า
รูปแบบการถ่ายภาพ : รูปถ่าย, รูปคน, กลางคืน, ผู้เชี่ยวชาญ, Google Lens, พาโน และมาโครพิเศษ
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ, เพิ่มแสง
HDR : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
การเพิ่มสี : ปิด, เปิด
ฟิลเตอร์ : R1 - R10
การตั้งเวลา : 3 วินาที, 10 วินาที
ปุ่มความดัง : ระดับเสียง, ชัตเตอร์, ย่อ/ขยาย
การพิมพ์ลายนิ้วมือ : ปิด, เปิด
เสียงชัตเตอร์ : เปิด, ปิด
ตำแหน่ง : ปิด, เปิด
รูปเซลฟี่กลับด้าน : เปิด, ปิด
แตะเพื่อถ่ายรูป : เปิด, ปิด
ใช้ลักษณะท่าทางเพื่อถ่ายรูป : เปิด, ปิด
เส้นตาราง : เปิด, ปิด
การรับรู้สถานการณ์ AI : ปิด, เปิด
ภาพลายน้ำ : รุ่นของโทรศัพท์, ผู้เขียน, วันและเวลา

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 1920 x 1080 (1080P-30fps), 1280 x 720 (720P-30fps) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (1080P), 1280 x 720 (720P) พิกเซล
โหมดวิดีโอ : วิดีโอ, โหมดไทม์แลปส์, สโลว์โมชั่น
ซูมสูงสุด : 4 เท่า
ไฟแฟลช : ปิด, เพิ่มแสง
ฟิลเตอร์ : R1 - R10
ปุ่มความดัง : ระดับเสียง, ชัตเตอร์, ย่อ/ขยาย
การพิมพ์ลายนิ้วมือ : ปิด, เปิด
เสียงชัตเตอร์ : เปิด, ปิด
ตำแหน่ง : เปิด, ปิด

ราคา และการจัดจำหน่าย 3,999 บาท (Dtac ขายเริ่มต้น 1 บาท)

realme C12 (3GB+32GB) วางขายเครื่องเปล่าด้วยราคา 3,999 บาท สามารถหาซื้อได้ทางร้านค้าออฟไลน์ทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์อย่าง Shopee พร้อมโปรผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563