Vivo Y31 สมาร์ทโฟนรุ่นกลางเอาใจคนใช้งานกล้องถ่ายรูป ด้วยการพกกล้องหลังมาถึง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48MP และยังมีการทำงานร่วมกับ AI เพื่อทำให้ภาพสวยแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแบบ Halo FullView กว้างถึง 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ เพื่อการดูหนังแบบเต็มตา และยังได้ขุมพลัง Snapdragon 662 เป็นตัวขับเคลื่อนให้ภายใน ส่วนแบตเตอรี่ก็ใหญ่ถึงใจด้วยขนาด 5,000mAh รองรับการชาร์จ 18W ผ่านพอร์ต USB Type-C
ขนาดตัวเครื่องของ Vivo Y31 จะมีขนาด 163.86x75.32x8.38 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 188 กรัม การจับใช้งานก็ถือว่าถนัดไม่เล็กไม่ใหญ่ หรือหนักจนเกินไป
หน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView พาแนล IPS-LCD กว้าง 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408x1080 พิกเซล) ใช้รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ
เหนือหน้าจอแสดงผล ในบริเวณรอยแหว่งมีหล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และขอบหน้าจอด้านบนมีลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา
ใต้หน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ เพราะเป็นหน้าจอแบบ Halo FullView ทำให้หน้าจอมีความกว้างเกือบถึงขอบตัวเครื่องด้านล่าง ส่วนปุ่มนำทางนั้นจะมาในรูปแบบซอฟแวร์
ข้างซ้ายตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ
ข้างขวาตัวเครื่อง จะพบกับปุ่มยาวที่เป็นปุ่มเพิ่้มเสียงหรือลดเสียง ถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอ นอกจากนี้ยังเป็นที่สแกนลายนิ้วมืออีกด้วย
ส่วนบนตัวเครื่อง ทางซ้ายเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยเป็นถาดแบบ 3 ช่อง รองรับ Nano SIM 2 ช่อง และอีกช่องเป็น MicroSD Card ส่วนรูขวาสุดเป็นรูไมโครโฟน
ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาเป็นรูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา
ผลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง มุมบนซ้ายเป็นกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48+2+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ทั้งหมดจัดอยู่บนแท่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มุมล่างซ้ายมีโลโก้ Vivo ทั้งนี้ดีไซน์ฝาหลังยังเป็นแบบเงาวาว ดูสวยงามเป็นพิเศษ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปคของ Vivo Y31
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM กับ ROM ของ Vivo Y31 จะมีเพียงตัวเลือกเดียวคือ RAM 8GB + ROM 128GB ซึ่งระบบจะมีการกินพื้นที่ไปกว่า 17.17GB (ไม่เลือกลงโปรแกรมที่แนะนำ) ทำให้เหลือพื้นที่เก็บข้อมูลภายในจริงๆ ประมาณ 110.83GB แต่หากยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานก็สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
ระบบปฏิบัติการ
Vivo Y31 จะได้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง FuntouchOS 11 บนพื้นฐาน Android 11 ทำให้การใช้งานต่างๆ จะมีความสดใหม่ ลื่น และรวดเร็วมากขึ้น รวมไปถึงได้การปรับแต่งจาก FuntouchOS 11 ที่มาพร้อมฟีเจอร์เพื่อการใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น
หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักที่ถูกปรับแต่งด้วย FuntouchOS 11 จะเป็นแบบเรียบง่าย ใช้งานได้สะดวก และมีไอคอนแอพพลิเคชั่นต่างๆ เป็นแบบวงกลม
ปุ่มนำทาง
ปุ่มนำทางของ Vivo Y31 จะมีให้เลือก 2 แบบคือ ปุ่มนำทาง 3 ปุ่มประกอบไปด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่มแอพก่อนหน้า ส่วนแบบที่ 2 คือท่าทางการสัมผัส โดยสามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนที่ การตั้งค่า > ระบบ > การนำทางของระบบ
ธีมมืด
หากเปิดใช้งานธีมมืด ระบบจะมีการเปลี่ยนสีธีมต่างๆ เป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว ซึ่งจะช่วยในการใช้งานในที่แสงน้อย เพื่อความสบายตาในการใช้งาน โดยเข้าไปเปลี่ยนไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > ธีมมืด
การแบ่งหน้าจอแสดงผล
ด้วยการที่ Vivo Y31 มาพร้อม RAM 8GB ทำให้การใช้งานแบบแบ่งหน้าจอแสดงผลเป็นไปอย่างราบรื่น แถมยังมีวิธีเริ่มแบ่งหน้าจอที่ง่ายมากๆ เพียงใช้ 3 นิ้วรูดหน้าจอขึ้น ก็จะเป็นการเริ่มแบ่งหน้าจอ แต่ต้องเป็นแอพพลิเคชั่นที่รองรับเท่านั้น
เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก
เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก คือการปรับเปลี่ยนอะนิเมชั่นการใช้งาน ให้ดูสวยงาม และตรงใจผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเริ่มแรกจะสามารถปรับแต่งได้ 2 แบบคือ ภาพเคลื่อนไหวจดจำใบหน้า และข้อมูลการชาร์จ สามารถเข้าไปได้ที่ การตั้งค่า > เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก
iManager
เรื่องดูแลระบบขอยกให้แอพพลิเคชั่น iManager โดยแอพฯ นี้จะช่วยในเรื่องการจัดการไฟล์ขยะ พร้อมกับสแกนหาปัญหา Vivo Y31 ให้เครื่องดูใหม่ตลอดเวลา
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้
หน้าจอ Halo FullView กว้าง 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+
หน้าจอกว้างใหญ่ใครๆ ก็ชอบ ซึ่ง Vivo Y31 มาพร้อมหน้าจอแบบ Halo FullView มีความกว้างถึง 6.58 นิ้ว และยังมีความละเอียดระดับ FHD+ เรียกว่าให้ที่ชอบดูหนัง ผ่านแอพพลิเคชั่นดูวิดีโอต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้เต็มอรรถรส
คุณภาพเสียง
แม้ว่า Vivo Y31 จะมีลำโพงเสียงเพียงลำโพงเดียว แต่พลังเสียงนั้นถือว่าเกินตัว เพราะปรับความดังได้สูงสุดถึง 73 เดซิเบล และยังมีระบบปรับแต่งเสียง Super Audio ที่เป็นระบบ AI จากการพัฒนาจาก Vivo โดยตรง เพื่อช่วยปรับเอฟเฟ็กต์เสียงให้เหมาะสมมากที่สุด
ทดสอบสอบการเล่นเกม
การเล่นเกม Vivo Y31 ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง ด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 662 และระบบ Multi-Turbo 4.0 ที่คอยปรับภาพในเกมให้เหมาะสม ลดปัญหาการกระตุก และดึงประสิทธิภาพของการประมวลผล และหน่วยความจำได้อย่างฉลาด ซึ่งในการทดสอบได้ใช้เกม PUBG Mobile และ LOL Wild Rift
สำหรับเกม PUBG Mobile จะปรับกราฟฟิกได้สูงสุดที่สมดุล แต่ในการเล่นจริงแนะนำว่าปรับเป็นแบบดีจะเล่นได้ลื่นกว่า เพราะสามารถดันเฟรมเรตไปที่ระดับสูงได้ โดยการเล่นจริงก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ มีความลื่นพอสมควร
ส่วนเกม LOL Wild Rift สามารถปรับในความละเอียด HD ได้เลย แต่ถ้าหากปรับเป็นเฟรมเรต 60fps ในช่วงจังหวะปะทะกันหนักๆ เฟรมเรตจะมีตกอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแนะนำให้ปรับเป็น 30fps จะดีกว่า
ระบบความปลอดภัย
ระบบสแกนลายนิ้วมือของ Vivo Y31 จะอยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่องตรงปุ่มเพาเวอร์ ซึ่งการทำงานก็มีความรวดเร็วมากทีเดียว เพียงแค่แตะนิ้วลงบนปุ่มระบบก็เริ่มให้ใช้งานทันที และยังจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ ส่วนอีกระบบก็คือการสแกนใบหน้า ซึ่งการสแกนก็มีความรวดเร็วไม่แพ้กัน
แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว
แบตเตอรี่เป็นอีกจุดเด่นของ Vivo Y31 เพราะมีขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh โดยการใช้งานจริงดู Steaming ผ่าน Youtube ด้วยความละเอียด 1080p ใช้ความสว่างสูงสุด ใช้ระยะเวลาดู 1 ชั่วโมงปรากกฏว่า จากแบตเตอรี่ 66% ลดลงมาเหลือ 54% เท่านั้น
ทั้งนี้ Vivo Y31 ยังรองรับการชาร์จเร็ว 18W เมื่อลองชาร์จจริงจาก 35% ระยะเวลา 1 ชั่วโมงก็ได้แบตเตอรี่ 93%
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
Vivo Y31 ถือว่ามายกมาตรฐานให้กับกล้องถ่ายรูปของ Y Series ได้มากทีเดียว ด้วยการใส่กล้องหลังมา 3 เลนส์ ทำงานร่วมกับ AI ในการปรับแต่งภาพให้สวยแบบอัตโนมัติ โดยเลนส์หลักมีความละเอียดสูงถึง 48MP ส่วนอีก 2 เลนส์เป็น Depth และ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ทำให้ Vivo Y31 สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และถ่ายภาพระยะใกล้ได้ดี ทั้งนี้ยังรองรับการใช้ Super Night Camera รองรับการถ่ายรูปในตอนกลางคืนอย่างสวยงาม ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
โหมดพิเศษ AI 48MP
สำหรับโหมดพิเศษเป็นการใช้กล้อง 48MP ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ โดยภาพที่ออกมาจะมีความคมชัดเป็นพิเศษ ด้วยความละเอียด 8000x4000 พิกเซล เรียกว่าสวยทุกมุมของภาพที่ถ่ายออกมา
ถ่ายรูปกลางคืนด้วยโหมด Super Night Camera
โหมดถ่ายรูปตอนกลางคืน จะได้เทคโนโลยี Super Night Camera เข้ามาช่วย ทำให้การถ่ายรูปตอนกลางคืนดูสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่การถ่ายในระยะไกลๆ ยังดูหมองๆ ไม่สดใส แต่ยังให้รายละเอียดในระดับที่ดี ส่วนการถ่ายในระยะใกล้ถือว่าภาพออกมาสวยงาม ทั้งดีเทล และแสงสีในตอนกลางคืน ทั้งนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟคฟิลเตอร์ต่างๆ ลงไปได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มลูกเล่นในการถ่ายภาพตอนกลางคืน
Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ
ดูดีเป็นธรรมชาติเอาเรื่อง สำหรับการใช้งานในโหมด Bokeh หรือโหลดหน้าชัดหลังเบลอ โดยได้เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP มาช่วยในส่วนนี้ ทำให้การตัดพื้นหลังกับส่วนหน้ามีความเนียนตามากยิ่งขึ้น
โหมด Macro
การถ่ายรูปในระยะใกล้ๆ ก็ให้รายละเอียดได้ค่อนข้างดี พร้อมการโฟกัสรายละเอียดในระยะใกล้ๆ ได้ดีเช่นกัน ใครที่ชอบถ่ายภาพธรรมชาติ น่าจะชื่นชอบการใช้งานในโหมด Macro
การเซลฟี่จากกล้องหน้า
ในการเซลฟี่จากกล้องหน้า ก็ถือว่าถ่ายออกมาให้ใบหน้าดูสวยงามพอสมควร แม้จะมีความละเอียดเพียง 8MP เท่านั้น และยังมั่นใจได้มากขึ้นเนื่องจากมีโหมดปรับแต่งใบหน้านั้นเอง ไม่พอแค่นั้นการโฟกัสใบหน้าก็ยังทำดีทีเดียว
คุณสมบัติการถ่ายภาพ
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ข้อมูลผู้ใช้ ร่วมแสดงความเห็นกับ : Vivo Y31
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=463997
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/vivo/y31_(2021).htm
Xbox เปิดตัว Support Virtual Agent แชทบอท AI ช่วยเหลือผู้เล่นแล้ววั...
เคล็ดลับการเลือกอุปกรณ์เสริมฤดูหนาวสำหรับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน จาก B...
ทำความรู้จัก vivo Y19s หน้าจอ 90Hz กันน้ำ IP64 ลำโพงสเตอริโอ ราคาเร...
Goodie สแกนนิ้ว Ultrasonic ที่สมาร์ทโฟนเรือธงทยอยเลือกใช้งาน
Funtouch OS 15 ระบบปฏิบัติการอัปเกรดใหม่จาก vivo บน Android 15
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...