realme เปิดตัว realme 8 Series สมาร์ทโฟนสเปคคุ้มที่ยกมาพร้อมกันถึง 2 รุ่น ทั้ง realme 8 และ realme 8 5G คู่หูสมาร์ทโฟนสุดแรงในราคาไม่ถึงหมื่น โดยที่ realme 8 มาพร้อมจอชัด Super AMOLED 6.4 นิ้ว แบตใหญ่ 5000mAh เก็บภาพถ่ายได้อย่างจุใจไม่มีที่สิ้นสุด และรุ่นพี่ realme 8 5G บนขุมพลัง Dimensity 700 5G พร้อม Dual 5G Dual Standby ให้เชื่อมต่อได้อย่างเร็วแรงกับสโลแกน “ความเร็วไร้ขีดจำกัด” แบตเตอรี่ที่รองรับชาร์เร็วทั้งคู่ เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ต้องการความคล่องตัว แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร มาดูไปพร้อมๆ กัน

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

สำหรับดีไซน์ของ realme 8 และ realme 8 5G มีความแตกต่างที่สังเกตเห็นได้ง่าย จากตำแหน่งของปุ่มกดและช่องเสียบต่างๆ โดยเราจะเริ่มกันที่รุ่น realme 8 กันก่อน

ตัวเครื่อง realme 8 มีขนาด 160.6 × 73.9 × 7.99 มม. และน้ำหนัก 177 กรัม เรียกได้ว่าทำออกมาได้ค่อนข้างบางเบา เมื่อคิดว่ามีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่อยู่ภายใน

realme 8 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ มีดีไซน์หน้าจอรอยเจาะที่มุมซ้าย เป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 16MP อีกทั้งยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคใต้หน้าจอได้ด้วย

ตัวเครื่องด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot รองรับการใส่ Nano SIM ได้ 2 ช่อง และอีกช่องสามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด  256GB

ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่มเพิ่มลดความดังของเสียง และถัดลงมาเป็นปุ่ม Power

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนที่ใช้ในการตัดเสียงรบกวน

ด้านล่างของตัวเครื่องตัวมีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง มีลำโพงอยู่ทางขวา และทางฝั่งซ้ายเป็นไมโครโฟนกับช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม.

ตัวเครื่องด้านหลังของ realme 8 จะมีตำแหน่งของกล้องหลังด้านบนมุมซ้าย ประกอบด้วย กล้องหลัง 4 เลนส์ กล้องหลัก 64MP + 8MP (Ultra Wide-angle) + 2MP ( Macro) + 2MP (B&W) สำหรับฝาหลังจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นส่วนของความเป็นดิจิทัล และส่วนที่มีความแวววาวสื่อถึงความล้ำสมัยนั่นเอง

สเปคพื้นฐานของ realme 8

  • ขนาดตัวเครื่อง : 160.6 × 73.9 × 7.99 มม.
  • น้ำหนัก : 177 กรัม
  • จอแสดงผล  : Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล)
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G95
  • GPU : Mali-G76 MC4
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB
  • สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลัก : ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น ระบบจับโฟกัส PDAF รูรับแสง f/1.79
    • เลนส์มุมกว้าง : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 119 องศา รูรับแสง f/2.25 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น
    • เลนส์ B&W Portrait : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์ถ่ายภาพ Macro : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล 4 ซม. รูรับแสง f/2.4
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ : ความจุ 5000mAh รองรับ 30W Dart Charge
  • สี : มาด้วยกัน 2 สีคือ Cyber ​​Silver และ Cyber ​​Black

 

 

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

realme 8 5G มีดีไซน์ตัวเครื่องบางเพียง 8.5 มม. ขนาด 162.5 × 74.8 × 8.5 มม. น้ำหนัก 185 กรัม ใช้งานมือเดียวได้กระชับมือ  ค่อนข้างหนากว่า realme 8 แต่ก็ยังทำน้ำหนักได้ดี ใช้งานได้สบาย

จอแสดงผล IPS LCD ความกว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) มีอัตราการรีเฟรช 90Hz และอัตรา sampling rate สูงสุด 180Hz ดีไซน์หน้าจอรอยเจาะที่ด้านมุมซ้าย เป็นกล้องหน้า ความละเอียด 16MP มีค่ารูรับแสง F2.1 ส่วนจอด้านล่างเป็นปุ่มควบคุมแบบระบบ ไม่มีสแกนลายนิ้วมือใต้จอ

 

ด้านขวามีปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิดปิด หรือล็อคหน้าจอ รวมไปถึงเป็นเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อค

ด้านซ้ายของ realme 8 5G เป็นถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot เช่นเดียวกัน สามารถใส่ microSD Card เพิ่มความจุได้สูงสุด สูงสุด 1TB ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง

ตัวเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง มีลำโพงอยู่ทางขวา และทางฝั่งซ้ายเป็นไมโครโฟนกับช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม.

สำหรับฝาหลังของ realme 8 5G จะต่างจาก realme 8 ด้วยการออกแบบให้มีเส้นแสงไฟหน้ารถที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็น Dynamic Speed ​​Light เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกของแสงเมื่อแสงตบกระทบไปยังสมาร์ทโฟน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังดังอย่าง Fast and Furious นั่นเอง

realme 8 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP, เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP และเลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2MP ซึ่งรองรับการถ่ายภาพได้อย่างครบครัน

สเปคพื้นฐาน realme 8 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.5 × 74.8 × 8.5 มม.
  • น้ำหนัก : 185 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) อัตรารีเฟรช 90Hz
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 700 5G
  • GPU : Mali-G57 MC2
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB
  • สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.8
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.1
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ : ความจุ 5000mAh รองรับ 30W Dart Charge
  • สี : มาด้วยกัน 2 สีคือ Supersonic Blue และ Supersonic Black

 

 

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ชิปเซ็ตและหน่วยความจำ

realme 8 เลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 ความเร็ว 2.05GHz ส่วน realme 8 5G เลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 ที่รองรับเทคโนโลยี 5G ได้ มีประสิทธิภาพการทำงานและประมวลผลได้รวดเร็ว

 

realme 8                                          realme 8 5G

realme 8 และ realme 8 5G มาพร้อมกับหน่วยความจำที่ความจุเท่ากัน RAM 8GB + Rom 128GB ต่างกันที่การเพิ่มหน่วยความจำภายนอก ซึ่ง realme 8 จะเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB ในขนาดที่ realme 8 5G สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพอเพียงต่อความต้องการกันแบบจุกๆ ไปเลย

realme 8

ระบบปฏิบัติการ

realme 8 และ realme 8 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 บนพื้นฐาน Android 11 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมาตั้งแต่แกะกล่อง มีหน้าตา UI ที่เรียบง่าย แต่ดูทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ การทำงานลื่นไหล และยังปรับแต่งได้ตามสไตล์ความชอบ

หน้าจอล็อค

หน้าหลัก

 

หน้าแอปพลิเคชั่น

 

แถบการใช้งานด้านบน

 

การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

สำหรับหน้าตาของ UI ของระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 ค่อนข้างที่จะใช้งานได้ง่าย ลื่นไหล รวมทั้งยังปรับแต่งได้ตามความต้องการและสไตล์ของผู้ใช้งาน โดยจะมีรูปแบบที่ทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ในยุคนี้

 

 

 

 

โหมดกลางคืน

นอกจากจะปรับธีมให้มืดลงแล้ว ยังสามารถเลือกได้ว่าจะให้โทนสีของโหมดกลางคืนนี้ออกมารูปแบบใดถึง 3 แบบ ขั้นสูงคือมืดสนิท, กลางเป็นสีเทาเข้ม และอ่อนโยนเป็นสีเทาอ่อน ซึ่งจะทำให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานมากขึ้น สามารถตั้งค่าเวลาที่ต้องการใช้งานได้อีกด้วย

 

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง realme 8

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 538 และคะแนน Multi-Core ที่ 1709 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life) ได้ 1 490 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง realme 8 5G

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 571 และคะแนน Multi-Core ที่ 1768 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life) ได้ 1 094 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์

realme 8 มาพร้อมกับดีไซน์ที่บางเบากว่าทเคย ด้วยน้ำหนักเพียง 177 กรัม และความหนาน้อยกว่า 8 มม. เป็นครั้งแรกได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นยุคดิจิทัลและความล้ำสมัย โดยฝาหลังจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของความเป็นดิจิทัล ที่มีความแวววาวสื่อถึงความล้ำสมัยยิ่งขึ้น มาด้วยกัน 2 สีคือ Cyber ​​Silver และ Cyber ​​Black (เครื่องรีวิว)

สำหรับ realme 8 5G มีความหนากว่า realme 8 โดยมีความบาง 8.5 มม. น้ำหนัก  185 กรัม แต่ก็ยังคงใช้งานมือเดียวได้สบาย ฝาหลังของ realme 8 5G ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Fast and Furious โดยมีการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกของแสงเมื่อแสงตบกระทบกับผิวสมาร์ทโฟน เสมือนเป็นเส้นแสงไฟหน้ารถที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็น Dynamic Speed ​​Light นั่นเอง มาพร้อมกัน 2 สี คือ Supersonic และ Supersonic Black (เครื่องรีวิว) ใช้กระบวนการรูปแบบ lenticular เพื่อนำเสนอเอฟเฟกต์กระจกเงาระดับพรีเมี่ยมเพื่อดึงความรู้สึกของแสงออกมาให้ดีขึ้น

หน้าจอ

realme 8 5G มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Ultra Smooth ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับอัตรารีเฟรชที่ 90Hz และอัตรา sampling rate สูงสุด 180Hz ช่วยให้การแสดงผลมีความลื่นไหลและดูสมูทยิ่งขึ้น ความสว่างหน้าจอสูงสุด 600nits พร้อมรองรับ 16.7 ล้านสีในการแสดงผล มีโหมดแสงแดดที่สูงถึง 1,000 nits ทำให้มองเห็นหน้าจอได้แม้ในสภาพแสงแดดจัด

ในขณะที่ realme 8  มีขนาดหน้าจอซึ่งเล็กกว่าและอัตรารีเฟรชเรตน้อยกว่า realme 8 5G แต่ก็ให้สเปคหน้าจอที่ดีกว่า ด้วยจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD และมีอัตรา sampling rate สูงสุด 180Hz เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้นในเวลาเล่นเกม สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ที่กลางแจ้งเช่นเดียวกัน

realme 8 กับชิปเกมมิ่ง

realme 8 ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ด้วยโปรเซสเซอร์ขนาด 12 นาโนเมตร ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น Cortex-A76 ประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ที่ความเร็วสูงสุด 2.05GHz และคอร์ Cortex-A55 ประสิทธิภาพสูง 6 คอร์ที่ความเร็วสูงสุด 2GHz พร้อมด้วย Mali-G76 GPU 900MHz ทำงานผสานงานกันอย่างลงตัว ยกระดับประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวทองแดงขั้นสูง ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าระบบระบายความร้อนด้วยคาร์บอนไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า ทำความเย็นเพิ่มขึ้น 14.4% ช่วยเพิ่มความลื่นไหลให้กับสมาร์ทโฟน ให้คุณเพลิดเพลินกับเกมโปรดได้อย่างไม่มีสะดุด

การเชื่อมต่อ 5G ใน realme 8 5G

realme 8 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 700 5G octa-core ความเร็ว 2.2GHz โปรเซสเซอร์การผลิตชั้นนำขนาด 7 นาโนเมตร ช่วยในการประหยัดพลังงานได้มากขึ้น 28% เมื่อเทียบกับ CPU 4G รองรับเทคโนโลยี 5G แบบ Dual SIM ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ SA / NSA ทำให้คุณได้สัมผัสความรวดเร็วในการเชื่อมต่อด้วยเครือข่ายสัญญานที่ดีที่สุด

แบตเตอรี่

realme 8 และ realme 8 5G มีความจุแบตเตอรี่เท่ากันที่ 5000mAh สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ต้องชาร์จ โดย realme 8 5G จะรองรับการชาร์จไว 18 วัตถ์ ในขณะที่ realme 8 ได้อัปเกรดให้รองรับ Dart Charge 30W สามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 65 นาที และเพียง 26 นาทีก็สามารถชาร์จได้เกือบ 50% แล้ว นอกจากจะรวดเร็วเหมาะกับการใช้งานของคนยุคใหม่ ยังได้รับการรับรองความปลอดภัยในการชาร์จตามมาตรฐานสากลอีกด้วย

กล้องถ่ายภาพ

realme 8 5G มาพร้อมกล้องหลัง AI 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48MP พร้อมมุมมอง 80° และ 6P เลนส์ ทำให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดที่คมชัด มีความกว้างของภาพนิดๆ เก็บวิวได้มุมมองที่กว้างขึ้นเล็กน้อย เพิ่มความสวยงามสมบูรณ์ให้กับภาพถ่าย

 

 

 

ภาพ Portrait

เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มาพร้อมระบบฟิลเตอร์สีใหม่ ช่วยให้เลนส์ถ่ายภาพบุคคลสามารถตรวจจับแสงที่ครอบคลุมและจับแสงได้ดีขึ้น ช่วยให้ภาพที่ออกมาดูโดดเด่นคมชัด และเข้ากันได้ดีกับฟิลเตอร์ที่เลือกใช้อย่างเนียนเป็นธรรมชาติ

 

ภาพมาโคร

เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 4cm : ช่วยให้ถ่ายภาพระยะใกล้ 4 ซม. ได้อย่างคมชัดสวยงาม เปิดโลกใบเล็กๆ ให้เราเข้าถึงและสัมผัสได้ง่ายขึ้น

กล้องหน้า

realme 8 5G และ realme 8 มาพร้อมกล้องเซลฟี่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และยังมี AI Beauty, Portrait Mode และ Super Nightscape ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เพอร์เฟคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสภาพแสงแบบไหน ปรับใบหน้าให้สวยงามได้แบบไม่หลอกตา เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกสภาพผิวของแต่ละบุคคล

 

 

realme 8 มาพร้อมกล้องหลัง AI Quad Camera ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 64MP ถ่ายภาพได้คมชัดสวยงามด้วยความละเอียดสูงสุด, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP ถ่ายภาพมุมมองกว้าง 119 องศา รูรับแสง f/2.25, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (f2.4) และกล้อง B&W Lens ความละเอียด 2MP (f2.4) ซึ่งทั้ง 4 เลนส์นี้ รองรับการถ่ายภาพตามเทรนด์ที่นิยมได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งทั้งงานร่วมกับ AI อัจฉริยะ ช่วยให้ภาพออกมาสวยงามสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

  • โหมดการถ่ายภาพแบบจำลอง (Tilt-shift Mode) เป็นการเปลี่ยนโลกแห่งความเป็นจริงให้ดูเป็นโลกขนาดเล็ก ยกตัวอย่างเช่น ถ่ายภาพอาคารต่างๆ ให้กลายเป็นเหมือนโมเดลเมืองจำลองขนาดเล็ก สร้างความแตกต่างให้กับภาพถ่าย ดูแปลกตายิ่งกว่าเคย อีกทั้งสามารถปรับรูปร่าง มุม ตำแหน่งและขนาดของเอฟเฟกต์เบลอได้อย่างเหมาะสมกับฉากด้วยตนเอง

  • ภาพถ่ายบุคคล (Trendy Portrait) สำหรับการถ่ายภาพบุคคล ก้ได้อัลกอริทึม AI Portrait ใหม่มาช่วยในการตรวจจับภาพบุคคลในสถานการณ์ต่างๆ โดยอัตโนมัติ ปรับภาพให้เหมาะสมกับตัวแบบ ทำให้ถ่ายภาพบุคคลออกมาอย่างสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้โหมดพิเศษใดๆ และยังมีลูกเล่นเก๋ๆ ให้เลือกใช้เพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็น ..
    • Neon Portrait ช่วยเพิ่มเอฟเฟกต์การเบลอเพื่อสร้างภาพที่เหมือนฝันมากขึ้น
    • Dynamic Bokeh ใช้ไดนามิกโบเก้เพื่อเน้นวัตถุของคุณกับพื้นหลังที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างพลุกพล่านสร้างความรู้สึกที่สะดุดตา
    • AI Color Portrait ช่วยเพิ่มสีสันให้กับภาพถ่าย โดยบุคคลจะมีสีสัน และภาพพื้นหลังจะเป็นสีขาวดำ

 

นอกจากนี้ realme 8 ยังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอแบบ Dual-view Video ซึ่งสามารถบันทึกจากกล้องหน้าและกล้องหลังได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้คุณเก็บภาพวิวที่อยู่ด้านหน้าจากกล้องหลัง รวมทั้งเก็บสีหน้าและความรู้สึกของผู้ถ่ายภาพไปได้แบบไม่พลาดทุกๆ โมเม้นต์

ราคาวางจำหน่าย

realme 8 วางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท และ realme 8 5G วางจำหน่ายในราคาเพียง 9,999 บาทเท่านั้น เริ่มจองได้แล้ววันนี้ถึง 3 พ.ค. 2564 นี้ และขายจริงในวันที่ 4 พ.ค. 64 เป็นต้นไป

พิเศษสำหรับผู้จอง realme 8 5G รับฟรีของสมนาคุณมูลค่ารวม 4,499 บ. ไม่ว่าจะเป็น E-VIP Card ประกันจอแตก 1 ปี และเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ realme Smart Scale สามารถจองได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่าย realme Brand Shop ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์

realme

ขอขอบคุณ : realme Thailand

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ :

realme 8

https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=464423

realme 8 5G

https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=464508

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/realme/8.htm

https://www.siamphone.com/spec/realme/8_5g.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปภัสสร อมรประสิทธิ์ ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 21 เมษายน 2564

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน