realme เปิดตัว realme 8 Series สมาร์ทโฟนสเปคคุ้มที่ยกมาพร้อมกันถึง 2 รุ่น ทั้ง realme 8 และ realme 8 5G คู่หูสมาร์ทโฟนสุดแรงในราคาไม่ถึงหมื่น โดยที่ realme 8 มาพร้อมจอชัด Super AMOLED 6.4 นิ้ว แบตใหญ่ 5000mAh เก็บภาพถ่ายได้อย่างจุใจไม่มีที่สิ้นสุด และรุ่นพี่ realme 8 5G บนขุมพลัง Dimensity 700 5G พร้อม Dual 5G Dual Standby ให้เชื่อมต่อได้อย่างเร็วแรงกับสโลแกน “ความเร็วไร้ขีดจำกัด” แบตเตอรี่ที่รองรับชาร์เร็วทั้งคู่ เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ต้องการความคล่องตัว แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร มาดูไปพร้อมๆ กัน
สำหรับดีไซน์ของ realme 8 และ realme 8 5G มีความแตกต่างที่สังเกตเห็นได้ง่าย จากตำแหน่งของปุ่มกดและช่องเสียบต่างๆ โดยเราจะเริ่มกันที่รุ่น realme 8 กันก่อน
ตัวเครื่อง realme 8 มีขนาด 160.6 × 73.9 × 7.99 มม. และน้ำหนัก 177 กรัม เรียกได้ว่าทำออกมาได้ค่อนข้างบางเบา เมื่อคิดว่ามีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่อยู่ภายใน
realme 8 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ มีดีไซน์หน้าจอรอยเจาะที่มุมซ้าย เป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 16MP อีกทั้งยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคใต้หน้าจอได้ด้วย
ตัวเครื่องด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot รองรับการใส่ Nano SIM ได้ 2 ช่อง และอีกช่องสามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB
ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่มเพิ่มลดความดังของเสียง และถัดลงมาเป็นปุ่ม Power
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนที่ใช้ในการตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างของตัวเครื่องตัวมีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง มีลำโพงอยู่ทางขวา และทางฝั่งซ้ายเป็นไมโครโฟนกับช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม.
ตัวเครื่องด้านหลังของ realme 8 จะมีตำแหน่งของกล้องหลังด้านบนมุมซ้าย ประกอบด้วย กล้องหลัง 4 เลนส์ กล้องหลัก 64MP + 8MP (Ultra Wide-angle) + 2MP ( Macro) + 2MP (B&W) สำหรับฝาหลังจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นส่วนของความเป็นดิจิทัล และส่วนที่มีความแวววาวสื่อถึงความล้ำสมัยนั่นเอง
สเปคพื้นฐานของ realme 8
realme 8 5G มีดีไซน์ตัวเครื่องบางเพียง 8.5 มม. ขนาด 162.5 × 74.8 × 8.5 มม. น้ำหนัก 185 กรัม ใช้งานมือเดียวได้กระชับมือ ค่อนข้างหนากว่า realme 8 แต่ก็ยังทำน้ำหนักได้ดี ใช้งานได้สบาย
จอแสดงผล IPS LCD ความกว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) มีอัตราการรีเฟรช 90Hz และอัตรา sampling rate สูงสุด 180Hz ดีไซน์หน้าจอรอยเจาะที่ด้านมุมซ้าย เป็นกล้องหน้า ความละเอียด 16MP มีค่ารูรับแสง F2.1 ส่วนจอด้านล่างเป็นปุ่มควบคุมแบบระบบ ไม่มีสแกนลายนิ้วมือใต้จอ
ด้านขวามีปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิดปิด หรือล็อคหน้าจอ รวมไปถึงเป็นเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อค
ด้านซ้ายของ realme 8 5G เป็นถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot เช่นเดียวกัน สามารถใส่ microSD Card เพิ่มความจุได้สูงสุด สูงสุด 1TB ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง
ตัวเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง มีลำโพงอยู่ทางขวา และทางฝั่งซ้ายเป็นไมโครโฟนกับช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม.
สำหรับฝาหลังของ realme 8 5G จะต่างจาก realme 8 ด้วยการออกแบบให้มีเส้นแสงไฟหน้ารถที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็น Dynamic Speed Light เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกของแสงเมื่อแสงตบกระทบไปยังสมาร์ทโฟน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังดังอย่าง Fast and Furious นั่นเอง
realme 8 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP, เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP และเลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2MP ซึ่งรองรับการถ่ายภาพได้อย่างครบครัน
สเปคพื้นฐาน realme 8 5G
ชิปเซ็ตและหน่วยความจำ
realme 8 เลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 ความเร็ว 2.05GHz ส่วน realme 8 5G เลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 ที่รองรับเทคโนโลยี 5G ได้ มีประสิทธิภาพการทำงานและประมวลผลได้รวดเร็ว
realme 8 realme 8 5G
realme 8 และ realme 8 5G มาพร้อมกับหน่วยความจำที่ความจุเท่ากัน RAM 8GB + Rom 128GB ต่างกันที่การเพิ่มหน่วยความจำภายนอก ซึ่ง realme 8 จะเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB ในขนาดที่ realme 8 5G สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพอเพียงต่อความต้องการกันแบบจุกๆ ไปเลย
realme 8
ระบบปฏิบัติการ
realme 8 และ realme 8 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 บนพื้นฐาน Android 11 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมาตั้งแต่แกะกล่อง มีหน้าตา UI ที่เรียบง่าย แต่ดูทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ การทำงานลื่นไหล และยังปรับแต่งได้ตามสไตล์ความชอบ
หน้าจอล็อค
หน้าหลัก
หน้าแอปพลิเคชั่น
แถบการใช้งานด้านบน
การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ
สำหรับหน้าตาของ UI ของระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 ค่อนข้างที่จะใช้งานได้ง่าย ลื่นไหล รวมทั้งยังปรับแต่งได้ตามความต้องการและสไตล์ของผู้ใช้งาน โดยจะมีรูปแบบที่ทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ในยุคนี้
โหมดกลางคืน
นอกจากจะปรับธีมให้มืดลงแล้ว ยังสามารถเลือกได้ว่าจะให้โทนสีของโหมดกลางคืนนี้ออกมารูปแบบใดถึง 3 แบบ ขั้นสูงคือมืดสนิท, กลางเป็นสีเทาเข้ม และอ่อนโยนเป็นสีเทาอ่อน ซึ่งจะทำให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานมากขึ้น สามารถตั้งค่าเวลาที่ต้องการใช้งานได้อีกด้วย
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง realme 8
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง realme 8 5G
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ดีไซน์
realme 8 มาพร้อมกับดีไซน์ที่บางเบากว่าทเคย ด้วยน้ำหนักเพียง 177 กรัม และความหนาน้อยกว่า 8 มม. เป็นครั้งแรกได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นยุคดิจิทัลและความล้ำสมัย โดยฝาหลังจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของความเป็นดิจิทัล ที่มีความแวววาวสื่อถึงความล้ำสมัยยิ่งขึ้น มาด้วยกัน 2 สีคือ Cyber Silver และ Cyber Black (เครื่องรีวิว)
สำหรับ realme 8 5G มีความหนากว่า realme 8 โดยมีความบาง 8.5 มม. น้ำหนัก 185 กรัม แต่ก็ยังคงใช้งานมือเดียวได้สบาย ฝาหลังของ realme 8 5G ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Fast and Furious โดยมีการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกของแสงเมื่อแสงตบกระทบกับผิวสมาร์ทโฟน เสมือนเป็นเส้นแสงไฟหน้ารถที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็น Dynamic Speed Light นั่นเอง มาพร้อมกัน 2 สี คือ Supersonic และ Supersonic Black (เครื่องรีวิว) ใช้กระบวนการรูปแบบ lenticular เพื่อนำเสนอเอฟเฟกต์กระจกเงาระดับพรีเมี่ยมเพื่อดึงความรู้สึกของแสงออกมาให้ดีขึ้น
หน้าจอ
realme 8 5G มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Ultra Smooth ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับอัตรารีเฟรชที่ 90Hz และอัตรา sampling rate สูงสุด 180Hz ช่วยให้การแสดงผลมีความลื่นไหลและดูสมูทยิ่งขึ้น ความสว่างหน้าจอสูงสุด 600nits พร้อมรองรับ 16.7 ล้านสีในการแสดงผล มีโหมดแสงแดดที่สูงถึง 1,000 nits ทำให้มองเห็นหน้าจอได้แม้ในสภาพแสงแดดจัด
ในขณะที่ realme 8 มีขนาดหน้าจอซึ่งเล็กกว่าและอัตรารีเฟรชเรตน้อยกว่า realme 8 5G แต่ก็ให้สเปคหน้าจอที่ดีกว่า ด้วยจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD และมีอัตรา sampling rate สูงสุด 180Hz เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้นในเวลาเล่นเกม สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ที่กลางแจ้งเช่นเดียวกัน
realme 8 กับชิปเกมมิ่ง
realme 8 ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ด้วยโปรเซสเซอร์ขนาด 12 นาโนเมตร ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น Cortex-A76 ประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ที่ความเร็วสูงสุด 2.05GHz และคอร์ Cortex-A55 ประสิทธิภาพสูง 6 คอร์ที่ความเร็วสูงสุด 2GHz พร้อมด้วย Mali-G76 GPU 900MHz ทำงานผสานงานกันอย่างลงตัว ยกระดับประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวทองแดงขั้นสูง ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าระบบระบายความร้อนด้วยคาร์บอนไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า ทำความเย็นเพิ่มขึ้น 14.4% ช่วยเพิ่มความลื่นไหลให้กับสมาร์ทโฟน ให้คุณเพลิดเพลินกับเกมโปรดได้อย่างไม่มีสะดุด
การเชื่อมต่อ 5G ใน realme 8 5G
realme 8 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 700 5G octa-core ความเร็ว 2.2GHz โปรเซสเซอร์การผลิตชั้นนำขนาด 7 นาโนเมตร ช่วยในการประหยัดพลังงานได้มากขึ้น 28% เมื่อเทียบกับ CPU 4G รองรับเทคโนโลยี 5G แบบ Dual SIM ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ SA / NSA ทำให้คุณได้สัมผัสความรวดเร็วในการเชื่อมต่อด้วยเครือข่ายสัญญานที่ดีที่สุด
แบตเตอรี่
realme 8 และ realme 8 5G มีความจุแบตเตอรี่เท่ากันที่ 5000mAh สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ต้องชาร์จ โดย realme 8 5G จะรองรับการชาร์จไว 18 วัตถ์ ในขณะที่ realme 8 ได้อัปเกรดให้รองรับ Dart Charge 30W สามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 65 นาที และเพียง 26 นาทีก็สามารถชาร์จได้เกือบ 50% แล้ว นอกจากจะรวดเร็วเหมาะกับการใช้งานของคนยุคใหม่ ยังได้รับการรับรองความปลอดภัยในการชาร์จตามมาตรฐานสากลอีกด้วย
กล้องถ่ายภาพ
realme 8 5G มาพร้อมกล้องหลัง AI 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48MP พร้อมมุมมอง 80° และ 6P เลนส์ ทำให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดที่คมชัด มีความกว้างของภาพนิดๆ เก็บวิวได้มุมมองที่กว้างขึ้นเล็กน้อย เพิ่มความสวยงามสมบูรณ์ให้กับภาพถ่าย
ภาพ Portrait
เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มาพร้อมระบบฟิลเตอร์สีใหม่ ช่วยให้เลนส์ถ่ายภาพบุคคลสามารถตรวจจับแสงที่ครอบคลุมและจับแสงได้ดีขึ้น ช่วยให้ภาพที่ออกมาดูโดดเด่นคมชัด และเข้ากันได้ดีกับฟิลเตอร์ที่เลือกใช้อย่างเนียนเป็นธรรมชาติ
ภาพมาโคร
เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 4cm : ช่วยให้ถ่ายภาพระยะใกล้ 4 ซม. ได้อย่างคมชัดสวยงาม เปิดโลกใบเล็กๆ ให้เราเข้าถึงและสัมผัสได้ง่ายขึ้น
กล้องหน้า
realme 8 5G และ realme 8 มาพร้อมกล้องเซลฟี่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และยังมี AI Beauty, Portrait Mode และ Super Nightscape ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เพอร์เฟคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสภาพแสงแบบไหน ปรับใบหน้าให้สวยงามได้แบบไม่หลอกตา เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกสภาพผิวของแต่ละบุคคล
realme 8 มาพร้อมกล้องหลัง AI Quad Camera ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 64MP ถ่ายภาพได้คมชัดสวยงามด้วยความละเอียดสูงสุด, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP ถ่ายภาพมุมมองกว้าง 119 องศา รูรับแสง f/2.25, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (f2.4) และกล้อง B&W Lens ความละเอียด 2MP (f2.4) ซึ่งทั้ง 4 เลนส์นี้ รองรับการถ่ายภาพตามเทรนด์ที่นิยมได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งทั้งงานร่วมกับ AI อัจฉริยะ ช่วยให้ภาพออกมาสวยงามสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ realme 8 ยังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอแบบ Dual-view Video ซึ่งสามารถบันทึกจากกล้องหน้าและกล้องหลังได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้คุณเก็บภาพวิวที่อยู่ด้านหน้าจากกล้องหลัง รวมทั้งเก็บสีหน้าและความรู้สึกของผู้ถ่ายภาพไปได้แบบไม่พลาดทุกๆ โมเม้นต์
ราคาวางจำหน่าย
realme 8 วางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท และ realme 8 5G วางจำหน่ายในราคาเพียง 9,999 บาทเท่านั้น เริ่มจองได้แล้ววันนี้ถึง 3 พ.ค. 2564 นี้ และขายจริงในวันที่ 4 พ.ค. 64 เป็นต้นไป
พิเศษสำหรับผู้จอง realme 8 5G รับฟรีของสมนาคุณมูลค่ารวม 4,499 บ. ไม่ว่าจะเป็น E-VIP Card ประกันจอแตก 1 ปี และเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ realme Smart Scale สามารถจองได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่าย realme Brand Shop ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์
ขอขอบคุณ : realme Thailand
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ :
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=464423
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=464508
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/realme/8.htm
Xbox เปิดตัว Support Virtual Agent แชทบอท AI ช่วยเหลือผู้เล่นแล้ววั...
เคล็ดลับการเลือกอุปกรณ์เสริมฤดูหนาวสำหรับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน จาก B...
ทำความรู้จัก vivo Y19s หน้าจอ 90Hz กันน้ำ IP64 ลำโพงสเตอริโอ ราคาเร...
Goodie สแกนนิ้ว Ultrasonic ที่สมาร์ทโฟนเรือธงทยอยเลือกใช้งาน
Funtouch OS 15 ระบบปฏิบัติการอัปเกรดใหม่จาก vivo บน Android 15
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...